Blood Diamond (2006) | เทพบุตรเพชรสีเลือด | A-
Director: Edward Zwick
Genres: Adventure | Drama | Thriller
เนื้อเรื่องตีเข้าประเด็นปัญหาทางสังคมเชิงธุรกิจการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ว่าเรื่องสงครามกลางเมืองในประเทศเซียร์ร่า ลีโอเน่ ที่มีเบื้องหลังการค้าที่ผิดกฎหมายอย่างการค้าเพชรที่ลักลอบเข้ามาโดยคนชาวบ้านที่ถูกจับให้มาเป็นที่รับใช้แก่ผู้ก่อการร้าย โซโลมอน แวนดี้(Djimon Hounsou) เป็นคนหาปลาธรรมดาที่รอดจากการถูกจับตัวเป็นคนร่อนหาเพชรตามลำแม่น้ำเพราะแดนนี่ อาร์เชอร์ (Leonardo DiCaprio) มาช่วยเหลือ ซึ่งหวังอย่างหนึ่งจากโซโลมอนคือการได้เพชรเม็ดสีชมพูเพื่อเขาจะได้มีชีวิตแบบที่เขาต้องการ แต่ได้รับความช่วยเหลืออีกคนจากนักข่าวแม้ดดี้ บราวน์(Jennifer Connelly) ที่ต้องการข้อมูลเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองและเพชรที่ได้มาด้วยการเปื้อนเลือด แต่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่คิดเมื่อเพชรเม็ดนั้นถูกฝังอยู่ที่ใดที่หนึ่งซึ่งมีแต่โซโลมอนเท่านั้นที่รู้และความลับนี่จะบอกได้ซะก่อนถ้าแดนนี่ยอมช่วยเหลือหาครอบครัวจากการถูกทำลายและลูกชายที่พลัดพรากไปอยู่กับกบฏที่นับวันจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนเพราะการปลูกฝังความคิดที่โหดร้ายและทารุณ
เนื้อรื่องอาจจะดูยาวๆและมากเรื่องไปหน่อยแต่จะเป็นการดำเนินแบบเรียบๆและแน่นอนเอาธรรมชาติตามเรื่องไม่มีการตัดหรือข้ามเนื้อเรื่อง จึงดูกลายเป็นว่าเป็นประเด็นทางการเมืองเข้ามารบกวน และมีมุมมองหยั่งลึกทางวิถีสังคมวิทยาจำนวนมาก ทำให้การผจญภัยดูไม่ค่อยสำคัญและไม่ได้มีจุดเด่นเพิ่มระดับให้ดูน่าตื่นเต้นมากนักแต่กลับดูเป็นเรื่องเครียดๆในสถานการณ์นั้นๆ
ในความเห็นส่วนตัวกลับชอบการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้เพราะการไปเลยๆค่อยๆเป็นค่อยๆไป อาจจะดูอืดและช้าสมควรบั่นทอนบท แต่ถ้านื้อเรื่องเร็วไปก็รู้สึกไม่ค่อยผูกพันกับตัวละครที่ใช้เวลาค่อนข้างมากกับหนังเรื่องนี่ที่ยาว 2 ชั่วโมง ฉากแอ๊คชั่นไม่ต้องหวังกลับเรื่องนี่เพราะมีน้อยและไม่ได้เน้นความสำคัญทางนี่แต่เป็นตัวเพิ่มความสมจริงของเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลางเมือง ส่วนมากจะคุยกันมากและมักจะพูดแบบไม่เรื่อยเปื่อยคือยังพอให้รู้สึกขบคิดและรู้สึกถึงอารมณ์ได้บ้าง
เป็นแนวทริลเลอร์ที่ไม่ได้เครียดอะไรมากแต่เป็นแนวเปิดปมปัญหาโดยใช้เพชรที่ตามหาเป็นเนื้อเรื่องชวนเปิดประเด็น ที่ต้องชมคือการไม่ประนีประนอมในการพรรณนาให้เห็นความขัดแย้งภายในเซียร์ร่า ลีโอเน่ แสดงแบบเต็มที่ทั้งการการสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ทั้งรัฐบาลและกบฏต่างก็เข้ามาจัดการกับเด็ก สตรี และบุรุษ จะเห็นว่าพวกเด็กจะตกในวังวนของการทรมานทั้งใช้ยา ปืน ความรุนแรง แบบไม่สนใครนอกจากพวกเดียวกันจนเป็นนักฆ่าที่เด็ก
หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จในการพรรณนาการฉ้อราษฎร์บังหลวงของคนบริสุทธิ์เท่ากับการแสดงให้เห็นรักของสงคราม นอกจากนี้ยังเน้นย้ำความละโมบและการชักใยของตลาดเพชรนานาขาติอีกด้วย ถึงแม้จะมีปัญหาที่ช่วงแรกของหนังนั้นดูไม่คืบหน้าเท่าไรและการดำเนินก็ดูไม่เร้าใจและตื่นเต้นเท่าที่ควร คือมีความเป็นธรรมชาติที่อาจจะดูเกินไปสำหรับหนังที่ไม่ใช่ซี่รีย์ แต่ในหนังมีอารมณ์ของความรักที่ชัดเจนมากระหว่างพ่อที่หาทางช่วยลูก และการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของแดนนี่ อาร์เชอร์ ที่เรียกความประทับใจสุดซึ้งแก่ผู้ชมก็เป็นเรื่องที่ดูอลังการทางจิตใจขึ้นมาทันที
Blood Diamond ได้รับรางวัล
NBR Award จาก National Board of Review
ในสาขาผู้แสดงสมทบชาย (Djimon Hounsou) ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ
ในสาขาผู้แสดงนำชาย ในภาพยนตร์ประเภทดราม่า (Leonardo DiCaprio)
นักแสดงรางวัลตุ๊กตาทอง (Jennifer Connelly)
สำหรับผมเรื่องนี่กินใจด้านอารมณ์ดราม่ามากทั้งที่เป็นแนวทริลเลอร์แต่กลับทำให้ดูสนุกและดูมีเหตุผลของเรื่องที่ตัวละครต่างมีปมในใจอยู่แล้ว
