Man on a Ledge (2012) | ระห่ำฟ้า ท้านรก | B-
Director: Asger Leth
Genres: Action | Adventure | Crime | Thriller
แพะรับบาปถ้าเอาจริงบาปสนองคืนได้แรงกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อดีตตำรวจ นิค แคสซิดี้(Sam Worthington) ถูกกล่าวหาเป็นผู้ขโมยเพชรมูลค่า $40 ล้าน จากนักธุรกิจที่ชื่อดัง เดวิด อิงแลนด์เดอร์(Ed Harris) ในขณะที่ทำหน้าที่อารักขาเขาอยู่จนต้องถูกดำเนินคดี และเป็นที่โชคร้ายแบบตั้งตัวไม่ติดและโดนตัดสินจำคุก 25 ปีแบบไม่น่าให้อภัย แต่ด้วยไม่รู้ว่าโชคยังมีหวังให้พิสูจน์ นิคจึงหนีจากคุกหวังว่าจะพ้นทางจากที่ไร้ขอบเขตและเถื่อนเกินไปสำหรับเขา แต่เพราะบางอย่างต้องพลิกกลับตาลปัตรเมื่อนิคกลายเป็นที่จับตามองจากหลายคนเมื่อเขาอยู่ขอบระเบียงตึกและทำท่าว่าจะฆ่าตัวตาย แล้วแบบนี่เขาทำไปเพื่ออะไร เพราะอะไรจึงเลือกหนีคุกมาแต่จะฆ่าตัวตายให้จบลง
ถ้าบอกว่าเรื่องนี่เต็มไปด้วยแผนที่แยบยลและฉลาดเอามากแล้วล่ะก็ จะบอกว่าทำได้หักมุมผู้ชมแบบอย่างหนักได้ แต่นั้นกลับไม่ใช่ในเมื่อตัวเรื่องเลือกที่จะเปิดประเด็นทุกอย่างจนกลายเป็นหนังชวนลุ้นระทึกมากกว่าแต่ไม่มีปม เป็นเพียงการอยู่ริมขอบตึก 20 ชั้นเดินไปมาและตัดฉากไปที่การโจรกรรมเพชรแบบเปิดเผยและเด็นชัด ถึงแม้ตัวหนังจะเลือกความเป็นทริลเลอร์ แต่กลับมีแอ็คชั่นเข้าไปในบางจุดซึ่งก็ดูง่ายไม่ได้คิดว่าจะต้องมันส์เพราะรู้กันดีว่าทริลเลอร์นั้นสำคัญกว่าและเป็นจุดขายของเรื่องกับตึก 20 ชั้นที่นิคยืนอยู่และเดินไปมาแบบพาเสี่ยวๆทั้งมุมมองที่สูงและดูกว้าง
Man on a Ledge ในความคิดแรกของผู้ชมดูเรื่องนี่คือเป็นหนังการเจรจากับนิคที่ดูเหมือนจะโดดตึกแล่ไม่โดดตึกแล่ ประมาณว่าถกเถียงไปมาซึ่งยัดปมปัญหาต่างๆเข้าไปด้วยกัน แต่เนื้อเรื่องก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแบบทำตัวเองให้มีนัยความแอบแฝงซึ่งคนดูต่างก็เห็นและเข้าใจจนไม่ต้องให้อธิบาย แต่เพิ่มความเป็นชวนลุ้นแทนให้น่าสนใจ
อารมณ์ที่นิคเผยออกมาช่วงแรกเป็นการทำตัวเองเหมือนคนสิ้นหวังและพร้อมที่จะตาย ด้วยการทำเป็นจัดห้องให้มีอาหารที่หรูหราและข้อความที่สร้างเหตุการณ์จนเหมือนมื้อสุดท้ายที่ว่า"เกิดมาไปอย่างบริสุทธิ์" การดำเนินเรื่องถูกแบ่งออกเป็น 2 ทางการต่อรองระหว่างนิคกับเจ้าหน้าที่เจรจาหญิงไลเดีย สเปนเซอร์ (Mandy Gonzalez) ที่นิคเลือกมาโดยหวังให้เธอเป็นตัวแปรในแผนของเขา และการโจรกรรมเพชรของ โจอี้ (Jamie Bell) และ แองจี้ (Genesis Rodriguez) น้องชายและแฟนสาวที่แอบช่วยนิคพิสูจน์ว่าเพชรของอิงแลนด์เดอร์ยังคง จะบอกว่าโครงเรื่องทั้งการนำเสนอและสภาพจิตใจที่สื่อทางอารมณ์จัดว่าเป็นพฤติกรรมที่ออกมาได้ชัดเจนและสมจริงกับเหตุการณ์ ถึงแม้ว่าเดินเรื่องเร็ว เร่งบอกรายละเอียดแบบตรงไปตรง แต่ก็ปรับให้หนังดูสนุกกับช่วงหลังที่ทำให้ลุ้นน่าตื่นเต้น การโจรกรรมที่มีแผนแต่ใช่ว่าทุกอย่างจะเหมือนที่วางไว้ทำให้เสนอแบบชวนลุ้นๆน่าจับตาดูว่าจะโดนจับได้หรือเปล่าโดยระหว่างนั้นนิคต้องใช้สมองแบบแยกประสาททั้งเรื่องการคุยเจรจาริมระเบียงและแผนที่ต้องที่ทำให้สำเร็จ มีการเสียดสีสังคมทั้งการวางอำนาจจากบุคคลที่ร่ำรวยกว่า โดยไม่คำนึงถึงความยุติธรรม อย่างเช่นนิคที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต้องมาเป็นผู้ต้องหาซะเองเพราะการขโมยเพชร โดยไม่มีใครช่วยได้แต่ใส่ความผิดจนไม่สนความเป็นพวกพ้องทั้งที่ตำรวจด้วยกัน
Man on a Ledge ฉลาดมากกับเฉลี่ยบทของแต่ละตัวละครได้ดี ทำให้จดจำการกระทำของแต่ละตัวละครได้ ส่งผลให้การตามเรื่องราวได้ทัน เพลิดเพลินไปได้ตลอดทั้งนี้เป็นผลมาจากการประติดประต่อที่ชัดเจนและต่อเนื่องอย่างมาก Sam Worthington และ Mandy Gonzalez คือส่วนสำคัญที่ดึงให้ติดตามเรื่องราวไปได้เรื่อยๆ แม้ฉากส่วนใหญ่ที่ทั้งคู่ปรากฏจะอยู่ที่ริมระเบียงของโรงแรมก็ตาม อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Ed Harris แม้การแสดงเป็นนักธุรกิจจอมโกงของเขาจะเป็นไปตามมาตรฐาน แต่การมีเขาอยู่ในหนังก็เสริมให้ตัวละครเดวิด อิ แลนด์เดอร์ นี้ดูร้ายลึกและวางอำนาจได้ดุเดือด