Red Room 2 (2000) ห้องแดงมรณะ 2

Red Room 2 (2000) | ห้องแดงมรณะ 2 | C+
Director: Daisuke Yamanouchi
Genres: Crime | Horror | Thriller

กลับมาอีกครั้งในงานภาคต่อของเกมส์สุดอันตรายสุดความคิดอันผิดแปลกที่สร้างความตื่นตามาแล้วใน Red Room (1999) ที่ได้สร้างกระแสเล็กๆจากทุนสร้างไม่กี่กำมือก็สามารถเรียกร้องให้แฟนๆสร้างภาคต่อได้อย่างสบายๆ และด้วยงานชิ้นนี้ก็ต่างจากคราวก่อนที่เพิ่มความยาวจากชั่วโมงเศษถึง 20 นาที นั้นหมายความว่าตัวหนังจะมีความยาวประมาณ 80 นาทีเศษซึ่งเท่ากับความเนื้อหาของหนังจะเพิ่มละเอียดมากกว่าเดิมหลายเท่า


ด้วยพล็อตเรื่องที่มีอยู่อย่างกระชับเข้าใจง่ายคือมีผู้เข้าร่วมเล่นเกมส์และแข่งกันจากการดวลไพ่ว่าใครได้การ์ดคิง ตรงจุดนี้จะเหมือนภาคแรกทุกประการรวมถึงวิธีการเล่นและกติกา มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เหมือนกันก็คือรูปแบบการเล่นส์ที่จะคั้นมาจากสมองโดยตรง ใครได้การ์ดคิงคิดอะไรได้ผู้ได้การ์ดรองกว่าต้องทำในทันที และปฏิเสธไม่ได้ถ้าไม่อยากแพ้และพลาดโอกาสเงินรางวัลไป ถ้าภาคแรกมีความวิปริตจิตตกมากพอแล้วดูเหมือนภาคนี้จะดังยิ่งกว่าเพราะมีการดำเนินเรื่องที่เสนอมาได้เป็นที่น่าจดจำแบบติดตาด้วยเหตุที่ว่ามีฉากเด็ดที่แรงยิ่งกว่า

ฉากเด็ดที่กล่าวขวัญมากที่สุดใน Red Room คือฉากซดอ้วกขนาดหนึ่งกะละมังที่เพื่อนร่วมเกมส์ได้สำรอกมาแบบสดๆใหม่ๆ เห็นแบบนั้นไม่ทันดูฉากซดก็คงต้องอ้วกก่อนเพราะคนอ้วกที่ใช้มือล้วงให้สำรอกออกมานึกสภาพแล้วไหนจะมุมกล้องที่เห็นปากเลอะอ้วกอีกยิ่งไปกันใหญ่ ถึงแม้จะมีฉากเด็ดฉากเดียวที่สุดยอดที่สุดก็ใช่ว่าจะหมดความสยองเพียงแค่นั้น ยังมีทั้งการนำแปรงสีฟันยัดใส่จมูกที่เรียกว่าเลือดพุ่งเป็นสายโลหิตชวนสลบกันเลยทีเดียว และอีกสรรพัดที่เรียกได้ว่า"คิดกันได้ไง"


Daisuke Yamanouchi ได้รับกล่าวชมและเป็นที่ต้องการของแฟนๆมากขึ้นจากการทำ Red Room ถึง 2 ภาคและต้องการให้มีสร้างภาคต่อขึ้นมาอีก แต่ด้วยความคิดของผู้กำกับเองก็ไม่คิดจะสร้างต่ออีกเพราะพล็อตเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรให้น่าคิดรวมถึงก็แค่เนื้อเรื่องที่มาเล่นส์เพื่อเงินเท่านั้น ถ้ามีการสร้างภาคต่อมันจะจำเจอยู่แค่นั้นและอาจแย่ขึ้นเรื่อยๆก็เป็นได้ ทำให้ Red Room คงความน่ากลัวสุดสยองอันคลาสลิคเอาไว้แค่ 2 ภาคเท่านั้น ซึ่งก็คงดีแล้วล่ะเพราะตอนท้ายของหนังมันจะอย่างไงอยู่เพราะดันมีโรบอทด้วยสิ แต่มันมาได้ไงอย่างไงกัน!


ที่นี่เมื่อลองเปรียบเทียบทั้งสองภาคเข้าด้วยกันก็พบว่าเนื้อเรื่องไม่มีอะไรใหม่เห็นแล้วว่าจุดประสงค์คืออะไร ที่แตกต่างคือตัวเกมส์เท่านั้นว่าจะคิดอะไรมาให้เล่น ซึ่งผู้ชมคงดูเพียงจุดนี้เท่านั้นแล้วมันจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระทันทีถ้าสร้างภาคต่อด้วยวิธีจำเจแบบนั้น ถ้าตัวเกมส์ต่างกันความโหดต้องแตกต่างกัน ในส่วนของภาคแรกดูโหดพอตัวแต่มันมีอารมณ์ขันเข้าแทรกจึงดูไม่จริงจังเท่าไร ในขณะที่พวกฉากเซ็กซ์ลองไม่มีมุมกล้องก็คงเป็น AV ไปเลย


ในส่วนภาคนี้ก็ยังคงไม่มีเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้นคงจุดประสงค์ไว้เหมือนเดิม แต่เพิ่มรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมจนเวลาเพิ่มขึ้นอีกด้วยและรูปแบบการดำเนินก็ยาวขึ้นด้วย ฉะนั้นฉากโหดๆเรียกเลือดจะรุนแรงและยาวนานยิ่งขึ้น ในด้านตัวละครก็มีอารมณ์ที่เด่นชัด ไม่มีอารมณ์ขันให้เห็นจนเหมือนหนังเครียดและจริงจังผิดจากภาคแรก พวกฉากเปลือยยังคงมีแต่เล่นมุมกล้องบังเหมือนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิมคือเนื้อหาที่เพิ่มความเว่อร์เข้ามาในตอนท้ายที่หักมุมไปเลย

นับว่าเป็นชิ้นงานที่เหมือนจะดูดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเมื่อดูโดยรวมแล้วไม่ว่าจะภาคแรกหรือภาคสองก็ล้วนไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแค่ขายไอเดียที่น่าลุ้นน่าโหดกับตัวเกมส์เท่านั้น

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)