The Cell (2000) | เหยื่อเงียบอำมหิต | C+
Director: Tarsem Singh
Genres: Horror | Sci-Fi | Thriller
คาร์ สตาร์เกอร์(Vincent D'Onofrio) ฆาตรกรโรคจิตที่อยู่ในอาการโคม่าได้สร้างห้องกระจกเอาไว้กักขังเหยื่อที่เป็นหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะทรมานให้จมน้ำในนั้น ทำให้ทางเอฟบีไอไม่สามารถหาความจริงเกี่ยวกับเหยื่อที่หายไปได้ถึงแม้จะจับผู้ร้ายได้ก็ตาม คาร์ สตาร์เกอร์เป็นคนเดียวที่รู้ว่าเธออยู่ไหนและมีเวลาเพียง 40 ชม.เท่านั้นก่อนที่เธอจะตาย ทำให้ต้องยื่นขอความช่วยเหลือจากสถาบันแคมเบลที่หน่วยวิจัยขนาดใหญ่ ดีแอน(Jennifer Lopez) เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางเด็กและนั้นทำให้เธอต้องหาทางเข้าไปในจิตใจคาร์ สตาร์เกอร์และหาความจริงว่าดเหยื่อรายสุดท้ายอยู่ที่ไหน
The Cell เป็นหนังจิตวิทยาแนวระทึกขวัญที่สร้างโดยความมุ่งมั่นที่เป็นก้าวแรกในวงการของผู้กำกับชาวอิเดีย Tarsem Singh เคยเป็นผู้ผ่านงานมิวสิควิดีโอและโฆษณามาหลายต่อหลายเรื่อง ในปี 1996 เขายังได้รางวัลหนังโฆษณาจากสมาคมผู้กำกับแห่งอเมริกา และก่อนปี 1999 ยังได้รางวัล Bafta/LA ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในด้านการถ่ายทำหนังโฆษณา
The Cell เป็นหนังจิตวิทยาแนวระทึกขวัญที่สร้างโดยความมุ่งมั่นที่เป็นก้าวแรกในวงการของผู้กำกับชาวอิเดีย Tarsem Singh เคยเป็นผู้ผ่านงานมิวสิควิดีโอและโฆษณามาหลายต่อหลายเรื่อง ในปี 1996 เขายังได้รางวัลหนังโฆษณาจากสมาคมผู้กำกับแห่งอเมริกา และก่อนปี 1999 ยังได้รางวัล Bafta/LA ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในด้านการถ่ายทำหนังโฆษณา
เรื่องนี้ถูกใจด้านเอฟเฟคไปเต็มๆที่นอกจากจะแปลกตาและใหม่แล้วยังแฝงลูกเล่นและไอเดียเข้าไปจนดูเป็นศิป์แอบแฝงอารมณ์ให้คิดได้หลายทาง ถ้าเรื่องนี่จัดแต่งองค์ประกอบเนื้อเรื่องให้ซับซ้อนและดูมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างอาจเป็นหนังในจินตนาการที่ซับซ้อนและดูสนุกขึ้นมาอีก
ปัญหาที่น่าจะเจอมากที่สุดคงเป็นที่เนื้อเรื่องที่ดูตรงตัวไม่ได้ดูมีอะไรให้คิดมากหรือการใช้ทฤษฏีหลักจิตวิทยาให้ดูน่าสนใจแต่เหมือนสิ่งที่พูดบอกมาลอยๆไม่เกิดข้อถกเถียงอะไร การใช้เอฟเฟคที่สร้างออกมาดูให้สอดคล้องกับจิตใจก็ดูจะพอเข้าใจและลุ่มลึกแต่ก็ยังดูไม่ได้เป็นอะไที่ซับซ้อนเกินไปแต่เป็นคล้าย 2 บุคลิกทั้งตอนเด็กที่มีปมปัญหาและอีกแบบที่ดูเป็นราชันย์ทำตามใจที่ต้องการ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ดีในการขยายสภาพจิตใจให้เข้าใจถึงการเก็บอารมณ์และระบายอย่างเป็นรูปเป็นร่าง เรื่องจะลึกและเข้มข้นกว่านี่มากถ้าให้ความรู้สึกที่ชวนระทึกขวัญและมีมุมให้คิดเพราะยังคงเนื้อเรื่องที่ง่ายๆ ทำให้ยังเป็นอะไรที่ยังไม่สุดแต่เป็นอะไรที่ดูศิลป์แทนมากกว่า
ที่สำคัญเรื่องนี่ยังคว้ารางวัลไป 4 รางวัล ได้แก่
- Blockbuster Entertainment Awards (2001)
- MTV Movie Award (2001)
- Phoenix Film Critics Society Awards (2001)
- World Stunt Awards (2001)