Child's Play (1988) แค้นฝังหุ่น

Child's Play (1988) | แค้นฝังหุ่น

Director: Tom Holland

Genres: Horror | Thriller

www.imdb.com/title/tt0094862/

Grade: B

แอนดี้(Alex Vincent)เด็กน้อยที่อยากได้ตุ๊กตากู๊ดกายเป็นของขวัญยอดฮิตของชาวเด็กๆ ทำให้แม่คาเรน บาร์คเล่ย์(Catherine Hicks)ต้องหาซื้อมาให้ด้วยราคาที่ถูกกว่าตามพ่อค้าท้องถนน หลังจากที่แอนดี้ได้ตุ๊กตามาด้วยอารมณ์สบายใจกลับต้องแปลกใจเมื่อบางสิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเพื่อนไม่ธรรมดาและเชื่อว่านี้คือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต แต่ทว่าเรื่องราวอันน่าลึกลับทำให้แอนดี้ปลักใจเชื่อมาตลอดจนเกิดเหตุร้ายขึ้นซึ่งทำให้แม่ของเขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน ด้วยที่ว่าแอนดี้อยู่ในเหตุการณ์และต้องเป็นพยานปากคำ แอนดี้กลับบอกว่าเป็นฝีมือของชัคกี้ตุ๊กตาตัวโปรดของเขา จากทีแรกไม่มีใครเชื่อเพราะคิดเป็นเรื่องโกหกของเด็กแต่ภายหลังเรื่องราวค่อยเปิดเผยทีละเล็กทีละน้อย และแอนดี้ก็คือเหยื่อที่ถูกหมายปองแบบไม่รู้ตัวมาก่อนกับความจริงบางประการ เมื่อแท้จริงแล้วตัวตนของชัคกี้ก็คือฆาตกรโรคจิตชาร์ลส ลี เรย์(Brad Dourif)ที่จำต้องอาศัยร่างของตุ๊กตาเพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไป และอยากจะกลับคืนร่างมนุษย์อีกครั้งโดยมีแอนดี้ที่เหมาะสมที่สุดในการคืนร่างเพราะแอนดี้คือบุคคลที่รู้ความลับการมีตัวตนเป็นคนแรก แต่ด้วยที่แอนดี้เป็นเด็กจะมีใครยอมเชื่อในสิ่งที่เขาเตือนบ้างหรือไม่ว่าเจ้าฆาตกรยังไม่ตายและอยู่ข้างๆตัวเขาว่าคือชาร์ลส ลี เรย์ ในรูปตุ๊กตากู๊ดกายนามว่าชัคกี้

คราวนี้เด็กที่ชอบเล่นตุ๊กตาต้องเปลี่ยนอุปนิสัยจากชอบเป็นเกลียดแน่นอนและอาจกลัวตุ๊กตาจนลืมไม่ลงก็เป็นได้กับเรื่องราวของเด็กแอนดี้ บาร์คเลย์ที่ได้ของขวัญชิ้นใหญ่นั้นคือตุ๊กตากู๊ดกายที่ตนเองอยากได้มานานจากการได้ชมในจอทีวีบ่อยๆผ่านในรูปตัวการ์ตูนที่ชอบมาหาเด็กเพื่อชวนเล่น ซึ่งเป็นขวัญใจของเหล่าเด็กๆไป และในตอนนี้จากการ์ตูนก็กลายเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ที่สามารถพูดได้สามประโยค แต่จะอะไรซะยิ่งกว่าเมื่อกู๊ดกายมีความสามารถมากกว่าที่โปรแกรมตั้งไว้ ที่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระเช่นเดียวกับมนุษย์แถมยังพูดได้อย่างคนเราๆคุยกันที่ไม่ใช่แค่สามประโยคบอกแนะนำตัวเองแล้วเสนอว่าจะเป็นเพื่อนเธอตลอดไป

เรื่องของตุ๊กตาเกิดจากการใช้เวทมนต์ดำที่เริ่มเรื่องของการหลบหนีตำรวจและพลาดท่าจะเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งด้วยเหตุบังเอิญไปเจอตุ๊กตากู๊ดกายเข้าทำให้จำต้องยอมหาร่างเพื่อทำให้ตัวเองต้องมีชีวิตต่อไปและสิ่งเดียวที่ทำได้คือการย้ายวิญญาณลงตุ๊กตาแล้วคอยคิดหาแผนที่หลังว่าจะทำอย่างไงต่อไป และด้วยเหตุบังเอิญอีกรอบเมื่อกล่องตุ๊กตาตัวนั้นไม่ได้อยู่ในร้านสรรพสินค้าแต่เป็นพ่อค้าเถื่อนๆที่ขายของเก่าเพราะไปขโมยมากจากเหตุการณ์ร้านขายของระเบิด ซึ่งบังเอิญตรงที่ว่ากล่องนั้นคือเป็นกู๊ดกายที่มีวิญญาณของฆาตรกร ชาร์ลส ลี เรย์

สิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้รู้แล้วว่าหนังมีเหตุผลของตัวเองที่สามารถหาความเข้าใจได้ว่าเจ้าตุ๊กตากู๊ดกายนี้ทำไมถึงฆ่าคนแล้วทำไมถึงมีชีวิตได้ ถึงแม้จะดูเหลือเชื่อแต่กับบางเรื่องบางทีการให้อยู่นอกเหนือความคาดหมายจัดเป็นความสนุกอย่างหนึ่งที่หาข้อเรียกร้องว่ามีต้นเหตุของในตัว ซึ่งการอธิบายแบบนี้ทำให้เรารู้ถึงความสามารถที่ไม่ธรรมดาของชาร์ลส ลี เรย์ ว่าเป็นพวกเคร่งศาสตร์มืดด้วยเช่นกัน เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่รอดหนทางเดียวที่จะอยู่ต่อได้คือการย้ายวิญญาณเข้าตุ๊กตาที่อยู่ใกล้ตัวในร้านขายของเล่นที่กำลังหลบหนีตำรวจไมค์ นอร์ริส การย้ายวิญาญาณทำให้เกิดปรากฏการณ์ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายพายุเข้า จนสำเร็จพิธีกว่าตำรวจไมค์ นอร์ริสจะรู้ตัวก็ไปเห็นชาร์ลส ลี เรย์ในสภาพแน่นิ่งไปแล้ว เป็นการบ่งชี้ว่าฆาตกรคนนี้ตายแล้วจริงๆ แต่ใครจะรู้เบื้องหลังว่ามีเรื่องพิสดารมากกว่านั้นหลบอยู่ภายใต้กล่องตุ๊กตาที่เด็กๆอยากได้

คาเรน บาร์คเล่ย์ เป็นแม่ของแอนดี้ที่กำลังยุ่งอยู่กับงานเป็นบางเวลาจนต้องหาคนมาช่วยเลี้ยง สำหรับตัวแอนดี้แล้วเขามีความปรารถนาที่อยากจะได้ตุ๊กตาเป็นเพื่อน แล้วความฝันก็กลายเป็นจริงเมื่อแม่ของเขาซื้อมาให้เป็นของขวัญ แน่นอนว่าตุ๊กตาที่สามารถพูดได้นั้นมีราคาแพงทำให้ไม่อาจซื้อให้เป็นขวัญได้ทัน แต่ทว่ามีพ่อค้ารถเข็นที่มีตุ๊กตากู๊ดกายอยู่และด้วยราคาที่ไม่สูงไปกว่าการซื้อตามร้านทำให้การได้มาไม่ใช่เรื่องยากกับผู้เป็นแม่ที่อยากให้ลูกสบายใจ ในตัวแอนดี้แล้วเราเห็นได้ถึงความผูกผันระหว่างแม่กับลูกที่ค่อนข้างจะรักกันมาก เนื่องจากมีฉากเริ่มที่ค่อนข้างน่าประทับใจเกี่ยวกับแอนดี้ที่ตื่นมาทำอาหารเช้าให้แม่ทาน โดยที่แม่ยังไม่ตื่นนอนด้วยซ้ำ การแสดงพฤติกรรมแบบนี้อาจมีให้เห็นโดยทั่วไปแต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เด็กตัวเล็กจะทำได้ดีแบบนี้ ถึงจะปิงขนมปังได้ไหม้ มือยังถือไม่นิ่ง แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าแอนดี้คือตัวละครสำคัญที่ทำให้เนื้อเรื่องมีมิติมากขึ้น

เมื่อแอนดี้ได้กู๊ดกายมาเล่นเวลาที่ไม่มีใครอยู่สิ่งที่ผู้ใหญ่คิดจะกลายเป็นเรื่องธรรมดากับสิ่งที่แอนดี้พยายามอธิบายเพราะคิดว่าเป็นจินตนาการของเด็กที่ชอบสร้างสรรค์เรื่องที่เกินจริงอย่างการบอกว่าตุ๊กตาพูดได้แล้วบอกว่าตัวเองมีชื่อจริงว่าชาร์ลส ลี เรย์ แล้วให้เรียกตัวเองว่าชัคกี้แทนเรียกกู๊ดกาย ซึ่งถ้ายังคงเรียกแบบเดิมๆคงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับเรื่องแน่ๆ

จากจุดนี้ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างน่าคิดเพราะสิ่งที่เด็กจะบอกว่าคือความจริงนั้น ใครจะไปเชื่อได้ล่ะว่ามีตุ๊กตาที่มีชาร์ลส ลี เรย์สิงอยู่ทั้งที่ฆาตกรคนนี้ก็ตายไปแล้วด้วยไม่นาน เมื่อไม่มีใครเชื่อการจะทำอะไรของชัคกี้ยิ่งเริ่มง่ายขึ้นจากการใช้ประโยชน์แอนดี้ให้พาไปนอกบ้านอย่างไม่มีใครสงสัยเพราะคิดว่าเป็นเด็กถือตุ๊กตาเท่านั้น

การให้หนังลงความเห็นเกี่ยวกับความเชื่อทำให้รู้ค่านิยมอย่างหนึ่งของสังคมว่าเด็กนั้นเชื่อได้ยากโดยเฉพาะถ้าเกิดขึ้นอย่างมีแรงจูงใจ ยิ่งกับแอนดี้แล้วการได้ตุ๊กตามาครองกับตัวก้เหมือนการผูกความคิดไว้ที่ของเล่นทำให้ผู้ใหญ่มองไม่ออกหรอกว่าสิ่งที่แอนดี้พยายามสื่อนั้นต้องการจะบอกอะไรที่ไม่ใช่จิรตนาการ และทำให้หนังดูมีความเข้มข้นมากขึ้นเพราะเวลาเกิดเหตุมักมีแอนดี้อยู่ด้วย แรกๆอาจไม่มีอะไรน่าสงสัยแต่หลังๆเริ่มหนักขึ้นจนเหมือนกับแอนดี้คือผู้สงสัยไปกับเขาด้วย รวมถึงพฤติกรรมที่ผิดแปลกก็เป็นที่เลี่ยงสายตาจากผู้อื่นได้ว่าควรลองหาจิตแพทย์

ในขณะที่ฝ่ายแม่เองยังต้องแปลกใจกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายที่มีแอนดี้เข้าผัวผวนอย่างน่าสงสัยและเริ่มแปลกใจว่าเพราะอะไรถึงต้องเอาตุ๊กตาชัคกี้มาอ้างด้วยเสมอ กลายเป็นการดำเนินเรื่องด้วยความลุ้นระทึกผสมแนวสืบสวนที่ต้องหาความจริงควบคู่ไปด้วย บางทีหนังยังดูช้าและเหนื่อยๆแต่การดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้รู้สึกว่าไม่โจ้งแจ้งเกินไปกำลังไปได้ดีกับการสร้างสถานการณ์ที่กำหนดขอบเขตอย่างมีเป้าหมาย

ชัคกี้เป็นเพียงตุ๊กตาที่ขอยืมร่างมาชั่วคราวเท่านั้นการที่ชาร์ลส ลี เรย์ต้องอยู่ในร่างนี้ก็เพื่อเอาตัวเองให้รอด แต่หนังได้เสริมเติมประเด็นเข้าไปอีกเกี่ยวกับการย้ายร่าง เมื่อเข้าได้ก็ออกได้ แต่จะออกได้อย่างไงเมื่อร่างเดิมหมดสภาพไปแล้ว ทีนี้หนังก็เลยเติมแต่งสิ่งที่กลายเป็นเอกลักษณ์หนังชุดนี้ก็คือการย้ายร่างเข้าไปเป็นเด็กแทน ซึ่งก็คือแอนดี้เด็กน้อยผู้โชคร้ายนั้นเอง เนื่องจากชัคกี้ไม่เลือกจะทนเป็นร่างเตี้ยตุ๊กตาไร้ความรู้สึกอิสระแบบนี้จึงมีทางเดียวคือกลับร่างเนื้อ แต่การจะกลับไปเป็นคนได้ยังมีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่งคือต้องเป็นคนที่บอกความลับเป็นคนแรกเท่านั้นที่จะย้ายร่างได้ และนั้นแหละที่บทบาทการไลล่าเริ่มขึ้นระหว่างแอนดี้กับชัคกี้ คนกับตุ๊กตา(นักฆ่า)

การไล่ล่าไม่ได้ตามล่าเหมือนคนกับคนเพราะอีกฝ่ายเป็นมากกว่าคน ฉะนั้นการแต่งลูกเล่นเกี่ยวกับไล่ล่าเป็นจุดที่น่าสนใจ เริ่มจากการพึ่งประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมที่ไม่ต้องเผชิญหน้าตรงๆเลือกจะดักซุ่มหาโอกาสจัดการ หนังจึงมีอารมณ์น่าลุ้นระทึกหรือบางทีเลือกจะมาเงียบๆทำทีเป็นเหมือนทำอะไรให้น่าดึงดูดน่าสนใจเรียกให้สนไปอีกทางแล้วโผล่มาแบบเงียบๆให้ตกใจ

Child's Play ไม่ใช่หนังผีแต่เป็นหนังไสยศาสตร์ที่ย้ายร่างลงตุ๊กตาจนเป็นนักฆ่าชัคกี้ ฉะนั้นเรื่องหลอนๆจะไม่มีนอกจากความน่ากลัวของชัคกี้คล้ายนักฆ่าหนัง Friday the 13th ,Halloween ที่ออกไล่ฆ่าเหยื่อแบบสยดสยอง แต่เดี๋ยวก่อน!ชัคกี้ไม่ใช่นักฆ่าที่ชอบละเลงเลือดแต่เป็นพวกวางแผนการฆ่าแบบมีลวดลายมากกว่า ฉะนั้นชัคกี้ไม่ใช่โรคจิตเพียงอย่างเดียวเพราะยังมีความฉลาดที่ทำให้หนังดูมีระดับมากขึ้น ประมาณว่ามาแวบๆให้เสียวหลังเหมือนเด็กวิ่งผ่าน อีกทั้งรวมถึงตัวละครอื่นๆด้วยที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน จึงเห็นได้ว่าตัวละครแต่ละตัวมีบทสรุปที่แน่นอนและติดตาม ไม่มีตัวละครไหนจะจะกินบทมากเกินไปแต่กำลังพอดีที่ให้แต่บทมีส่วนร่วมในการดำเนินเนื้อเรื่องไปด้วยกัน และนั้นเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าตัวละครในเรื่องมีแรงจูงใจต่อเรื่องราว

หนูน้อยแอนดี้ผู้ทำตามคำเชื่อของตุ๊กตากู๊ดกายตัวโปรดที่อยากได้ทำทุกอย่างในตอนแรกเพราะหลงเชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีและไม่เคยมีมาจนคิดว่าตัวเองวิเศษเพราะไม่เหมือนตุ๊กตาทั่วไปที่พูดได้สามประโยค แต่แล้วเรื่องเริ่มบานปลายมีผู้เสียชีวิตอย่างไม่คาดฝันเพราะชัคกี้ไม่อยากให้มีเสี้ยนหนามทำให้กลายเป็นคดีลึกลับที่มีตัวแอนดี้ในเหตุการณ์ ซึ่งมีตำรวจไมค์ นอร์ริสเป็นผู้สืบสวนและคาเรน บาร์คเล่ย์ แม่ของแอนดี้ที่อยากหาความจริงกับเรื่องไม่คาดฝัน ซึ่งพยานอย่างแอนดี้ก็ลงว่าเป็นตุ๊กตาชัคกี้ที่ต้องการบอกว่าเขาคือชาร์ลส ลี เรย์ และตอนนั้นเองที่ชัคกี้ต้องการร่างของแอนดี้เพื่อกลับเป็นเด็กอีกครั้ง ถือว่าตัวหนังมีไอเดียที่แปลกกับนักฆ่าตุ๊กตาเพราะปกติหนังแนวนี้มักเป็นพวกเรื่องผีๆมากกว่าจึงไม่น่าระทึกเท่าไหร่ แต่กับ Child's Play ทำได้น่าพอใจระดับหนึ่งคือการให้เรื่องราวผูกกันได้ครบองค์ประกอบ ถึงแม้การดำเนินเรื่องบางจุดยังช้าๆบ้าง กระนั้นเมื่อถึงไคลแมกซ์ท้ายเรื่องจะดูสนุกน่าลุ้นน่าติดตาม โดยเฉพาะการแสดงของแต่ละคนจัดว่ากำลังพอดี ตัวละครแอนดี้ที่เล่นโดย Alex Vincent เองก็ทำให้ผู้ชมหลงเชื่อได้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำเหตุการณ์ต่างๆแต่เป็นชัคกี้ ซึ่งแววตาก็ฟ้องขนาดนั้นแต่ด้วยหลักการอธิบายแล้วใครจะเชื่อเด็กได้ล่ะเมื่อเรื่องมันเพ้อฝันขนาดนั้น Catherine Hicks รับบทเป็นแม่ของแอนดี้ที่ดูรู้ว่าเป็นอย่างไงเวลาลูกบอกความจริงแต่ใครไม่เชื่อ ซึ่งในเรื่องแม่ผู้นี้ได้พยายามเข้าช่วยและสืบต้นต่อเองจนพบว่าเป็นชาร์ลส ลี เรย์ กับตำรวจไมค์ นอร์ริส ที่เล่นโดย Chris Sarandon ว่าแสดงพอใช้ได้นะ พอเป็นตำรวจที่น่าไว้ใจได้พอสมควรและตัวละครสำคัญที่สร้างเหตุการณ์เอาไว้คือชาร์ลส ลี เรย์ หรือนักแสดง Brad Dourif ที่ในเรื่องเล่นไม่มากเพราะโผล่มาในช่วงต้นเรื่องเท่านั้น ในขณะส่วนที่เหลือก็ลงตุ๊กตาไปหมดแล้ว ที่ยังไม่หายคือการให้เสียงพากย์ที่ทำให้ชัคกี้มีชีวิตแบบน่ากลัว ออกกวนๆ และโหด

มิหนำซ้ำยังเป็นผลงานเขียนบทของ Tom Holland ที่เคยสร้างหนัง Fright Night (1985)เอาไว้ด้วย อีกอย่างที่ทำให้หนังมีรสชาติคือตุ๊กตาชัคกี้ที่ขยับตัวได้เหมือนคนเป็นๆที่ทำให้ดูมีมิติที่จริงและน่าสนมากๆบวกกับมุมกล้องที่ถ่ายในระดับส่วนสูงของตุ๊กตาด้วยแล้ว ทำให้เห็นว่าเจ้าชัคกี้กำลังไปไหนที่บางทีหนังก็เล่นแบบเสียวๆ

Child's Play จัดเป็นหนังที่เขย่าขวัญพอสมควร ทำได้ดีที่เดียวกับบรรยากาศที่เกิดขึ้นในเมือง ยิ่งท้ายเรื่องหนังมีลูกเล่นมาเยอะใช่ย่อย ฉะนั้นหนังเหมือนจะจบแต่ก็ไม่จบเอาลุ้นระทึกกันต่ออีกแบบไม่พักหายเหนื่อยกันเลย และเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกเรื่องที่น่าจดจำในหมู่แนวหนังสยองขวัญอีกเรื่อง