Piranha (1995)
ปิรันย่า
Director: Scott P. Levy
Genres: Horror | Sci-Fi
Grade: D+
แม็กกี้(Alexandra Paul)และพูล(William Katt)ทั้งคู่ได้มาตามสืบสวนหลานสาวหายตัวไปของนายจ้างที่กำลังเปิดรีสอร์ทขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าสงสัยอาจจมน้ำจึงต้องปล่อยน้ำออกจากสระเพื่อค้นหาดูศพ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อการปล่อยน้ำนั้นหมายถึงการปล่อยปลาปิรันย่าที่ถูกทดลองเป็นนักฆ่าสู่อิสระ แต่ที่ยิ่งอันตรายและน่ากลัวคือการมีนักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำที่รีสอร์ท ทำให้พูลและต้องรีบหยุดยั้งปลาปิรันย่าพวกนี้ก่อนจะกินคนไปไม่เหลือ
ถ้าใครเคยดู Piranha ฉบับปี 1978 แล้วจะพบว่าเมื่อได้ดูในฉบับนี้จะมีเนื้อหาที่ไม่แตกต่างกันทั้งโครงเรื่องหรือการวางตัวละคร อีกทั้งยังรวมถึงมุมกล้องอีกด้วยที่บางฉากถึงกับลอกกันมาเลยทีเดียว แต่ที่แตกต่างคือเป็นหนังที่ลงโทรทัศน์เลย ฉะนั้นจึงไม่แปลกถ้าหนัง Piranha นี้จะมีคนรู้จักกันน้อยเพราะเป็นหนังมุ่งสู่ตลาดเสียมากกว่าในการกลายเป็นหนังแผ่น แต่คงเป็นที่รู้จักดีในการเรียบเรียงรายชื่อหนังชุด Piranha ที่มีหนังประเภทนี้ไม่มากนัก
ก็เหมือนฉบับรีเมคที่เปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อย แต่วัดกันโดยรวมทั้งเนื้อหาแล้วต่างไม่มีอะไรใหม่ นอกจากนักแสดงที่เปลี่ยนแปลงจากชายเป็นหญิงหรือจะประเด็นของเด็กกลัวน้ำที่จู่ๆก็กล้าลงน้ำเพื่อช่วยเพื่อนๆ
ในด้านของเนื้อเรื่องก็ว่าด้วยความอ่อนและโล่งเกินไปทั้งที่ช่วงแรกของหนังต่างก็มาแบบน้ำขุ่น คือการปล่อยน้ำในสระที่คิดว่ามีศพของคนที่กำลังตามหา ซึ่งโดยแท้แล้วเป็นการปล่อยปิรันย่าโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญคนที่ปล่อยเพราะความไม่รู้ก็เป็นบทของพระเอกและนางเอก ทำให้ต้นเหตุแล้วกลายเป็นความผิดไปโดยปริยายอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าครึ่ง
ถึงแม้จะมีการเตือนเรื่องปิรันย่ากลับไม่มีใครวางท่าห้ามลงเล่นน้ำด้วยเหตุผลที่อ่อนเกินไปและที่สำคัญไม่ใช่แหล่งอาศัยอีกด้วยเพราะปิรันย่าเป็นปลาน้ำอุ่นแต่ในเนื้อเรื่องได้กล่าวถึงบริเวณน้ำเย็น ทำให้การผูกเรื่องราวที่ไม่มีใครเชื่อจึงดูเหมาะสมกันดี และที่ปิรันย่าสามารถอยู่น้ำเย็นได้เพราะการวิจัย จากในหนังได้กล่าวว่ามีการทดลองให้ปิรันย่ามีความสามารถอยู่ได้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม นั้นเพื่อการทำลายศัตรูในสงคราม แต่แล้วการวิจัยนี้ต้องปิดลงและยังคงหลงเหลือปิรันย่าพวกนี้อยู่
ข้อเสียของหนังคือการเจาะจงนักท่องเที่ยวได้คับแคบเกินไปทำให้ตัวบรรยากาศดูเล็กไม่มีทัศนวิสัยที่กว้างเหมือนมีคนที่มากมายที่ตอนท้ายของหนังน่าจะจัดได้ดีกว่านี้ ทำให้ความวุ่นวายตอนปิรันย่ามาเหมือนไม่ได้สร้างความเสียหายที่ดูมาก และที่สำคัญฉากชวนสยองชวนแหวะนั้นแทบไม่มี ทำให้อรรถรสการรับความสนุกจากความสยองนั้นเป็นไปแบบโล่งๆและเรียบง่าย ยังดีที่การดำเนินเรื่องเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด ทำให้เนื้อเรื่องเดินเร็ว ทั้งยังมีความน่าตื่นเต้นกับฝูงปิรันย่าที่เข้ามา
การแสดงของนักแสดงนั้นทำได้ดีมีความรู้สึกหวาดกลัวแต่ยังคงมีอารมณ์แข็งๆมาปนเปก็เลยดูได้เรื่อยๆแบบอืดๆ ในเรื่องไม่มีสัดส่วนสปิริตนักแสดงเท่าไรเพราะบทก็ไม่ยากและไม่ได้ใช้ร่างกายเยอะทำให้ไม่มีอะไรเด่นน่าสนใจ
ความสยองหาแทบไม่ได้นอกจากความเสี่ยวและโหดแบบโดนกัดจิกที่มุ่งถ่ายฉากปิรันย่าตอดแขนขาตามส่วนร่างกายที่จะเห็นเนื้อโดนกัดกันแบบชัดๆ ความหวาดกลัวยังมีไม่มากเพราะตอนท้ายยังใส่อารมณ์กันไม่เต็มที่ เพราะหาทางแก้ไขได้เสียก่อนจึงดูรวบรัดไปหน่อย
ถ้าใช้นักแสดงให้มากกว่าเดิมและถ่ายให้เห็นในมุมกว้างและหลายๆสถานการณ์จะช่วยให้ดูน่ากลัวและเต็มไปความสับสนในเหตุการณ์ได้ดีกว่าเดิม อีกทั้งถ้าลงทุนเรื่องเรือสักหน่อยคงได้เห็นแล่นกันหลายๆลำยิ่งดี เพราะเป็นถึงรีสอร์ทแต่มีคนน้อยจัง
ในส่วนของปลาปิรันย่าทำได้ไม่หวังผลเพราะเล่นกับนักแสดงซะมาก การจะเห็นปิรันย่าแบบเต็มคงยากเพราะมุมกล้องเลือกจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นนอกจากส่วนบริเวณปากที่กำลังกัดอย่างรวดเร็ว แสดงถึงประสิทธิภาพที่น่ากลัวของปิรันย่าที่มีฟันแหลมคมและมีเป็นฝูง เว้นแต่ว่าในตอนท้ายของหนังที่จะเห็นขนาดของปิรันย่าพอชัดเจนที่กำลังไล่กัดพระเอกแบบรุมกระหน่ำภายใต้น้ำ
ยอมรับเลยว่าหนังนั้นดูสนุกและลื่นดี แต่ดูง่ายไปและนำเสนอได้คับแคบทำให้ดูไม่เปิดกว้างนักเลยสำหรับเรื่องนี้ที่มีสถานการณ์และโทนที่กว้างขวาง ที่สำคัญควรเพิ่มความสยองให้หนักแน่นเพราะจากในเรื่องเห็นแค่แผลเล็กๆตามด้วยการเล่นเลือดที่ย้อมน้ำให้สีแดง และอีกอย่างหนึ่งถ้าใครรู้จักนักแสดง Mila Kunis จะเห็นเธอตอนยังเด็กๆอายุประมาณ 11-12 ปี รับบทเป็นซูซี่สาวน้อยที่กลัวน้ำ ที่ดูหน้าแล้วก็เห็นแววไม่ต่างจากปัจจุบันเลยที่ยังคงเอกลักษณ์หน้าตาตั้งแต่เด็ก
