Terror of Mechagodzilla (1975)
มหาประลัยก็อตซิลล่าเหล็กถล่มก็อตซิลล่า
Director: Ishiro Honda
Genres: Action | Adventure | Family | Sci-Fi
Grade: C+
ว่าแล้วเนื้อเรื่องที่ต่อจาก Godzilla vs. Mechagodzilla (1974) ที่เคยสู้กับเมก้าก็อตซิลล่ามาแล้ว กลับมาในภาคนี่ตัวปัญหายังไม่จบเมื่อพวกมนุษย์ต่างดาวชาวแบล็คโฮลได้สร้างเมกะก็อตซิลล่าขึ้นมาอีกครั้งหลังจากพ่ายแพ้ให้กับก็อตซิลล่าเป็นรุ่นที่ 2 โดยมีไททาโนซอรัสเข้ามาร่วมรบด้วยเพื่อเป้าหมายเดียวกันกำจัดก็อตซิลล่าพระเอกของเราที่ไปๆมาๆคิดปกป้องโลกซะงั้น แต่โลกต้องวุ่นวายและความหายนะต้องบังเกิดอย่างแน่นอนถ้าแผนของมนุษย์ต่างดาวชาวแบล็คโฮลสำเร็จขึ้นมาทำให้เป็นหน้าที่ของอิจิโนเซะ(Katsuhiko Sasaki)และพักพวกต้องเข้าขัดขวางแผนการ แต่เรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเมื่อแผนการต่างๆต้องดำเนินด้วยความยากลำบากเพราะเจ้าไททาโนซอรัสที่สร้างปัญหาความยุ่งยากที่ฉนวนพาไปสู่เรื่อราวอันไม่พึ่งประสงค์ทั้งเรื่องภายในองค์กรและการร่วมมือกับเมก้าก็อตซิลล่าที่จัดการก็อตซิลล่าแบบ 2 รุม 1
เนื้อเรื่องสานต่อจาก Godzilla vs. Mechagodzilla ได้อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที ทำให้การสานต่อดูฉับไวและไม่มียืดยาดทางเนื้อเรื่องมากนัก แต่ผลข้างเคียงที่จับใส่เนื้อเรื่องมาเพิ่มให้ดูยาวและมีสีสันทำให้ช่วงแรกเต็มไปด้วยบทสนทนาที่ปนๆไปกับฉากไททาโนซอรัสที่ออกอาละวาดและขณะเดียวกันก็มีฉากพัฒนาปรับปรุงตัวเมก้าก็อตซิลล่าไปพลางๆ
ก็อตซิลล่ากลายเป็นเหมือนตัวประกอบที่มาแล้วไปคล้ายๆทำหน้าที่เป็นคู่ชก และยังใช้เวลาปรากฎตัวตั้งประมาณ 40 นาทีถึงจะมา กลายเป็นว่าเหมือนภาคนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรเลยกับก็อตซิลล่า แต่จะมุ่งเน้นไปที่พวกมนุษย์ต่างดาวชาวแบล็คโฮลและมนุษย์โลกเท่านั้น
ซึ่งเนื้อเรื่องตามแบบยังคงเป็นตามสูตรที่ยัดฉากต่อสู้ในตอนท้ายของเรื่องให้ยาวนาน ต้องบอกว่าเมก้าก็อตซิลล่าดูจะปราศจากลูกเล่นที่ไม่มีอะไรมากมายนอกจากความเด่นตรงนิ้วที่ยิงจรวดได้และอานุภาพทำลายล้างสูง(สูงไม่สูงดูจากฉากที่ยิง ถึงขั้นถล่มตึกบ้านเมืองถนนกันเป็นแถบๆ ตอนแรกก็นึกว่าฉากพังแต่เหมือนจริงๆและรุนแรงมากด้วย)
เมก้าก็อตซิลล่าที่พาวเวอร์อัพให้แข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าตัวเป็นรุ่นที่ 2 ในความแปลกใหม่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยทั้งรูปลักษณ์และความสามารถ แต่ในภาคนี่เมก้าก็อตซิลล่าจะแก้ไขด้านจุดที่เคยพ่ายแพ้อย่างตอนสู้กับก็อตซิลล่าที่ทำหัวเมก้าก็อตซิลล่าหลุดไป ยังยิงลำแสงต่อได้เลย ในคราวนี่มาอืดมากกว่าเดิม ข้อแตกต่างจากเมก้าก็อตซิลล่ารุ่นที่ 1 คือมีผู้บังคับทำให้อำนาจการทำลายรุนแรงกว่าของเดิมและสามารถควบคุมไปต่อได้เรื่อยๆ ทำให้เมก้าก็อตซิลล่าดูแกร่งขึ้น
ไททาโนซอรัสเป็นไดโนเสาร์ขนาดยักษ์มีความยาว 60 เมตร น้ำหนัก 30000 ตัน ที่ถูกเลี้ยงไว้ใต้ทะเล และถูกบังคับด้วยคลื่นความถี่สูงจาก ดร.มะฟุเนะ(Akihiko Hirata)ที่จะใช้มันมาแก้แค้น ทั้งนี่กลับยอมร่วมมือกับมนุษย์ต่างดาวชาวแบล็คโฮล และยอมขายลูกสาวคะซึระ(Tomoko Ai)ให้กับองค์กรในการใช้สมองบังคับเมก้าก๊อตซิลล่า เพื่อให้มาร่วมมือกันได้อย่างสูสี
ภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายในยุคโชวะและเป็นภาคสุดท้ายกับการเป็นเหมือนฮีโร่ที่ไม่มีพิษมีภัยกับการจ้องทำลายเมืองแต่สู้กับภัยคุกคามอื่นๆที่มาทำลายเมือง ว่าแล้วช่วงนั้นหนังก็อตซิลล่ากำลังอยู่ช่วงที่ตกต่ำเพราะความฮิตและสนใจในทางฮีโร่ทางทีวีมากกว่าจึงต่างมองก็อตซิลล่าเป็นเรื่องเดิมๆที่ขาดความน่าสนใจและแปลกใหม่ เนื่องจากความเคยชินและพล็อตเรื่องตอนต้นที่เน้นความเครียดและปมซึ่งทั้งนี่แล้วแต่ว่าจะนำเสนอมารูปแบบใด เนื่องในช่วงท้ายของเรื่องเป็นจุดที่ผู้ชมทราบกันดีทำให้ดูเป็นเรื่องจำเจ ถึงแม้จะใช้ลูกเล่นมาใหม่เรื่อยๆแต่สุดท้ายผู้ชมต่างทราบกันดีว่าก็อตซิลล่าต้องออกมาสู้จริงๆจังๆในตอนจบ แต่ยังคงแฝงความสนุกที่น่าประทับใจถึงความพยายามกับงานสร้างสรรค์ที่ตั้งใจมาเพื่อชาวญี่ปุ่นโดยแท้