Zombi 2 (1979) ซอมบี้ คนกัดคน 2,ซอมบี้ กัดทะลุกระโหลก

Zombi 2 (1979) | ซอมบี้ คนกัดคน 2,ซอมบี้ กัดทะลุกระโหลก | B
Director: Lucio Fulci
Genres: Horror

เปิดเรื่องที่มีเรือลึกลับลำหนึ่งแล่นมาลอยอยู่กลางน่านน้ำนิวยอร์ค เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายฝั่ง 2 นาย แต่ถูกทำร้ายโดยซอมบี้ที่จู่ๆก็โผล่ออกมาจากท้องเรือ แต่แล้วแอนน์ โบว์ลส์(Tisa Farrow)ลูกสาวที่เป็นเจ้าของเรือลึกลับนี้ต้องเกิดข้อสงสัยที่ว่าทำไมถึงไม่มีพ่อของเธอกลับมาด้วย และนั้นทำให้แอนน์ต้องตามสืบว่าพ่อของตนหายสาบสูญไปได้อย่างไงและเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยมีผู้ร่วมทางนักข่าวหนุ่มปีเตอร์ เวสต์(Ian McCulloch)ที่อยากรับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดบนเรือเหมือนกัน โดยมีผู้ร่วมทางอีก 2 คนที่ได้ว่าจ้างเป็นคนขับเรือคือไบรอัน ฮัลล์(Al Cliver) และซูซาน บาร์เร็ต(Auretta Gay)ไปยังเกาะแห่งหนึ่งที่ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่พ่อของแอนน์ยังคงอยู่ แต่แล้วสิ่งไม่คาดคิดเกี่ยวกับคนตายที่ฟื้นคืนชีพต้องเกิดขึ้นหลังจากมาถึงเกาะ นั้นไม่ใช่เรื่องของวิทยาศาสตร์ที่จะอธิบายได้หรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนต์ที่เกิดความเชื่อ เมื่อถึงเกาะ Matul พวกเขาทั้ง4คนได้พบว่าด็อกเตอร์เมอนาร์ด(Richard Johnson)กำลังทดลองรักษาคนไข้ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ปลุกคนไข้ให้กลับคีนชีพในรูปแบบของซอมบี้ผีดิบ


ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมื่อทั้งหมู่บ้านกลายมาเป็นหมู่บ้านซอมบี้ จนทุกอย่างควบคุมไม่ได้ ทางรอดทางเดียวของพวกเขาคือไม่สู้ก็ต้องหนี แต่ที่แน่ๆคือการมาเยือนเกาะเท่ากับมาหาเรื่องตายดีๆตั้งแต่ต้นแล้ว

สำหรับคนที่สงสัยมานานและแปลกใจจนงงที่ว่ามี Zombi ภาค 1 หรือเปล่าเพราะไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาเกี่ยวกับเรื่องหนังนี้เลย คำตอบนี้คือไม่มีอยู่จริง ที่มาของชื่อหนัง Zombi 2 นั้นมีที่มาหลังจากหนังซอมบี้ของ George A. Romeo เรื่อง Dawn of the Dead (1978) ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วโลก

ผู้กำกับชื่อดัง Dario Argento ซึ่งมีชื่อเป็นผู้อำนวยการสร้างได้นำมันออกฉายในอิตาลี โดยเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น Zombi จนมีผู้อำนวยการสร้างหัวใสรายอื่นคิดจะรวยทางลัดหวังผลพลอยได้จากความสำเร็จ ของ Dawn of the Dead ประกาศสร้างหนังเกี่ยวกับซอมบี้โดยมี Lucio Fulci นั่งแท่นผู้กำกับ และใช้ชื่อว่า Zombi 2 เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าอย่างน้อยมันน่าจะประสบความสำเร็จในฐานะภาคต่อ ของ Dawn of the Dead ทั้งที่ตัวผู้อำนวยกาสร้าง ตัวผู้กำกับและคนเขียนบทไม่มีส่วนใดๆเลยกับหนังที่ใช้ชื่อว่า Zombi 2 ส่วนด้านเนื้อหายังคงเป็นซอมบี้กินคนเหมือนกันแต่ยังแฝงตามแบบฉบับงานของ Lucio Fulci ที่สยองและแหวะเกินทน


ถึงแม้ตัวหนังจะตั้งใจพยายามหาความจริงเกี่ยวคนตายคืนชีพก็ตามแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถอธิบายเกี่ยวกับเหล่าซอมบี้ได้อย่างชัดเจน แต่กระนั้นตัวหนังกลับเพิ่มประเด็นตามความเชื่อที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของวิทยาศาสตร์หรือที่เรียกกันว่าเวทมนต์ ทั้งนี้เพราะตัวหนังมีเนื้อหาที่ก่ำกึ่งกับความเชื่อที่หาคำตอบไม่ได้จึงมีความเชื่อมโยงที่สุดท้ายคำถามก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนหรือบอกได้เลยว่าซอมบี้มาจากอะไร รู้แต่เพียงข้อสันนิฐานที่เป็นสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติเท่านั้น แต่เชื่อได้อีกอย่างสำหรับใครที่ดู Zombie 2 มาก่อนแล้วจะนึกได้ทันทีถึงฉากที่เสียวและน่าขนลุก ซึ่งน่าจะติดตาติดใจใครหลายคนไปอีกนาน นั้นคือฉากซอมบี้จับหัวภรรยาสาวของหมอเมอนาร์ด ที่ค่อยๆดึงหัวอย่างช้าๆและการแสดงกิริยาต้านไม่ได้ถูกดึง ในขณะที่ข้างหน้าคือแทงไม้ที่ซอมบี้พังประตูเข้ามาจนเกิดรูปร่างไม้แหลม จัดว่าเป็นฉากที่ดูเสียวแบบอยากปิดตากันอีกหลายคนที่ไม่กล้าดู ลองคิดดูการที่ไม้แหลมๆอยู่ตรงหน้าและตรงตาพอดีแถมซอมบี้ค่อยๆดึงเข้าไปยิ่งเพิ่มทวีความผวาขึ้นสมองได้เลย และหลังจากนั้นจะมันจะเป็นสูตรความกลัวที่เป็นตัวเอกของฉากเรื่องนี้ไปทันทีแบบลืมฉากอื่นๆไปถนัด

อีกทั้งเดิมทียังเป็นเครื่องหมายการค้าของ Lucio Fulci อยู่แล้ว หนังของเขาทุกเรื่องมักจะต้องมีฉากไม้หรือเหล็กแหลม ของมีคมแทงทะลุเข้าไปในร่างกายของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และความโหดที่เรียกความจัดจ้านอีกด้วย แต่มีอยู่อีกอย่างนั้นคือการสร้างบรรยากาศบรรยกาศที่ไม่มีผู้กำกับหนังสยองขวัญคนไหนทำได้ คือบรรยาการที่มีลมพัดฝุ่นกระจาย ข้าวของปลิวตามลม บรรยาการดูเวิ้งว้างเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยแถวนั้นเลย กลายเป็นฉากที่ร้างตาและชวนแห้งแล้ง


หนังของ Lucio Fulci จึงเป็นหนังสยองขวัญที่ดูสวยงามในแต่ละมุมมอง แต่เศร้าในบรรยากาศแถมความหดหู่ที่ชวนแห้งแล้งขาดความมีชีวิตชีวา จนเรียกว่าน่าจะไม่มีผู้กำกับคนไหนเลียนแบบได้ในการสร้างบรรยากาศที่เหมือนดีแต่ร้ายแอบแฝง

ดนตรีประกอบช่วยให้เพิ่มอาการระทึกได้อย่างดีกับจังหวะที่เล่นกับการเต้นของหัวใจที่เหมือนทิ่มแทงความรู้สึกและให้อาการอยากเกร็งขึ้นมาขณะชม ต้องบอกได้อีกหลายอย่างถึงความแปลกที่แปลกจริงๆเพราะมีความแตกต่างจากหนังซอมบี้ทั่วไปและฉากที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่เรามักไม่ค่อยได้พบจริงๆจังๆนักกับซอมบี้ในน้ำ


การที่มีซอมบี้ในน้ำช่วยให้แสดงถึงอันตรายที่รายล้อมไม่ว่าจะมหาสมุทรก็ยังมีได้ แต่ที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่ชัดและไม่เคยเห็นคือฉากซอมบี้ที่ฟัดกับฉลามกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ซึ่งก็เล่นกันจริงๆซะจนมีมากกว่าที่เคยสัมผัสกันบนบก และแน่นอนว่าซอมบี้ก็พลิ้วแถมมีโยกซิกแซกจับจังหวะอีกต่างหาก ก็จัดว่าเพิ่มมุมมองและมิติใหม่ที่เคยเห็นซอมบี้แต่บนบกได้อย่างมีลูกเล่นและแปลกใหม่ไปเลยกับเค้าเดิมๆ
ซอมบี้มีลักษณะที่เพิ่มความสยองและน่ากลัวจากการแต่งเสื้อผ้าที่ขาดและโทรม แต่ด้านหน้าตาก็หน้ากลัวเหมือนกันเพียงแต่รู้สึกจะดูแหวะและออกเละเทะนิดๆแต่ไม่มากเกินไป เพราะมาแห้งและวีดเผือกแบบแข็งๆจนเหมือนซากโบราณมากกว่า แต่ยิ่งแบบนั้นกลับให้ความรู้สึกหน้ากลัวแบบมีมาดอำนาจ ถ้าสังเกตดีๆซอมบี้ในเรื่องนี้จะมาแปลกและดูมีข้อสงสัยอีกหนึ่งอย่างคือทำไมเหล่าซอมบี้ถึงหลับตากัน พอไม่ได้ลืมตามันก็เหมือนพวกซอมบี้ที่เดินละเมอแต่ทำไมการละเมอถึงกัดแม่นจังล่ะ

การดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อยๆเริ่มจากข้อสงสัยและสืบไปจนถึงเกาะ และเริ่มไปต่ออย่างรวดเร็วเพราะปล่อยเวลากับช่วงแรกที่หาข้ออธิบายมามากมาย แต่เหมือนเนื้อเรื่องจะยังไม่แน่นพอมากนักเกี่ยวกับซอมบี้ที่ไท่รู้ว่ามาจากไหนเพราะอะไร และเป็นแบบนั้นได้อย่างไง จะมีก็แต่เรื่องเวทมนต์ที่ใส่เข้ามากับบทสนทนาที่ต่างบอกว่าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด แต่ทำไมถึงพูดกันจัง จนดูเหมือนช่องเกินๆที่ไม่จำเป็นและน่าจะหาเรื่องอื่นพูดคุยกันมากกว่า


ถ้านับความสยองแล้วจัดว่าดูน่ากลัวอยู่ไม่กี่ฉากแต่พอได้จังหวะก็ใส่กันเต็มที ทั้งเรื่องการเมคอัพที่ดูแหวะและน่ากลัวไม่อยากลอง แถมชวนผวากับการกัดที่เล่นกันแบบเนื้อหายไปเลย เป็นหนังที่ลงทุนต่ำจึงไม่แปลกถ้ามองโดยรวมแล้วมีฉากใช้จริงๆไม่กี่ฉาก แต่ว่าทำได้ถึงองค์ประกอบแบบจริงจังและชวนหดหู่

ตอนท้ายของหนังเหมือนตั้งใจทำบังคับให้ซอมบี้เกิดคืนชีพชึ้นมาพร้อมๆกันหลายตัวและมากมายจากหลุมดินที่ฝัง ซึ่งมีคำถามที่ว่าเวลาการเกิดซอมบี้เฉลี่ยไม่เท่ากัน แต่นั้นช่วยให้ดูน่ากลัวกับสถานการณ์ชวนบีบและกดดันที่แรกไม่ค่อยมีเท่าไรแต่จู่ๆก็โผล่ออกมาหลายตัวจนเอาไม่อยู่

นับว่าเป็นหนังซอมบี้อีกแบบที่ต้องการเล่าเรื่องราวที่ George A. Romeo ไม่ได้ลงรายละเอียดถึงที่มาของเหล่าซอมบี้ ซึ่งในตอนจบจะเห็นซอมบี้เดินอยู่หลายตัวบนสะพานในนิวยอร์คและนั้นก็น่าจะเป็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ใน Dawn of the Dead ก็เป็นได้

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)