Last Action Hero (1993) | คนเหล็กทะลุมิติ
Director: John McTiernan
Genres: Action | Adventure | Comedy | Fantasy
Grade: B-
คอนเซ็ปเรื่องราวถือว่าเป็นพล็อตที่น่าสนใจอย่างมากกับโลกคู่ขนานระหว่างโลกแห่งมายากับโลกแห่งความจริง โดยเรื่องเกิดขึ้นจากเด็กน้อยแดนนี่ เมดิเกน(Austin O'Brien)ที่ชื่นชอบหนังแอ็คชั่นเป็นชีวิตจิตใจ ในทุกวันมักจะโดดเรียนหรือหาเวลาว่างมาดูหนังในโรง ซึ่งมีคุณปู่นิค(Robert Prosky)ที่รู้จักกันดีในฐานะคนฉายหนัง หลังจากเดนนี่ได้ดูหนังโปรดเรื่อง Jack Slater ภาคสามจบลง ลุงนิคได้แนะนำให้มาดูต่อในวันพรุ่งนี้ที่จะมี Jack Slater ภาคสี่ ซึ่งจะได้ดูเป็นคนแรกก่อนใคร ทำให้เดนนี่พลาดไม่ได้ที่จะไปดูหนังโปรดแอ็คชั่นของตัวเอง แต่ก่อนเข้าโรงหนังลุงนิคได้เสนอตั๋วทองใบหนึ่งที่มันเป็นตั๋ววิเศษแต่ก็ไม่เคยสัมผัสมาก่อนจึงคิดว่าสมควรให้เดนนี่คงจะเหมาะกว่า พอได้เข้าชมหนังเท่านั้นเองสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อเดนนี่หลุดเข้าไปอยู่ในหนังและได้เจอกับแจ็ค(Arnold Schwarzenegger)ในหนังโปรดเขาอย่างเหลือเชื่อ จากชีวิตจริงที่เข้าไปในโลกแห่งมายาทำให้หลายๆอย่างทุกเปลี่ยนไปและกลายเป็นว่าเดนนี่ต้องจับคู่กับแจ็คเพื่อร่วมสู้กับวายร้าย
ประเดิมได้ว่าเรื่องนี้น่าสนใจไม่น้อย ใครจะคิดล่ะว่าดูหนังอยู่ดีๆคนเดียวกลับต้องหลุดไปในชีวิตของหนังเพราะตั๋วใบเดียวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ก็ดูล่ะกันว่าถ้าไม่ใช่เพราะหลุดเข้าไปในเรื่องที่มีอาร์โนลด์เล่นเป็นพระเอกล่ะก็...อย่างหลุดเข้าไปใน The Terminator (1984) คนเหล็กภาคแรกมีหวังโดนไล่ฆ่าแน่เลย(ยิ่งโหดๆอยู่ด้วย) เอาเป็นว่าแม้จะหาที่มาที่ไปเกี่ยวกับตั๋วนั้นไม่เจอจนกระทั่งหนังจบก็ตามที ด้วยรวมแล้วคงเข้าใจได้ว่ายังเป็นหนังแอ็คชั่นผสมความหลากหลายเข้าไปทั้งความเป็นไซไฟจากเรื่องของโลกคู่ขนานหรือจะเรื่องของเวทมนต์จากตั๋วที่พาข้ามเวลาได้
Last Action Hero มีมุมมองของความเป็นแอ็คชั่นที่กัดจิกหนังแอ็คชั่นโดยยึดหลักสูตรทั่วๆไปมาใส่แล้วมีเจ้าหนูเดนนี่เป็นคนกัดจิกเสียดสีว่าควรเป็นอย่างโน้นอย่างนี้เพราะแบบนี้ตัวร้ายจึงตายอะไรประมาณนั้น ซึ่งจริงอย่างว่าโดยเฉพาะหลายอย่างที่หนังแอ็คชั่นมักเป็นกันมากในยุค 80-90 ที่ทุกคนดูออกทันทีว่าพระเอกควรเป็นเช่นไรเวลาเจอสถานการณ์แบบนี้หรือจะฉากต่างๆที่ตัวร้ายเอาชนะไม่ได้
อย่างเรื่องของกระสุนปืนที่น้อยครั้งจะเห็นการบรรจุลูกกระสุนใหม่ เพราะเดิมทีแล้วฉากบรรจุแม็กใหม่ทำให้เสียเวลาที่มักจะโยนหน้าที่ให้ตัวโกงเพื่อให้พระเอกใช้จังหวะนี้ในการเอาคืน ที่ชอบจริงๆคือพอกลับมาโลกแห่งความจริงจะพบว่าเมื่อยิงหมดต้องบรรจุใหม่ซึ่งในโลกของหนังไม่จำเป็นหรอกให้เสียเวลา หรือจะตัวโกงที่จะจัดการพระเอกได้แต่เสียท่าเพราะพูดมาก และอีกหลายอย่างที่คอแอ็คชั่นจะรู้ว่านี้คือสูตรหนังแอ็คชั่น
สำหรับ Last Action Hero นอกจากเสียดสีวิธีการของหนังแอ็คชั่นเท่านั้นยังไม่พอยังปรับเปลี่ยนมุมมองด้วยการทำให้ตัวหนังดูยากขึ้นเมื่อมีเจ้าหนูเดนนี่ คงเพราะเดนนี่รู้ไปซะทุกอย่างเพราะดูหนังแอ็คชั่นมาก ในโลกแห่งหนังจึงต้องทำให้ยากขึ้นตามเพื่อตอบสนองให้เรื่องราวเข้มข้น ก็มันเป็นหนังนี่นะใช่ว่าตัวร้ายอยากจะตายกันง่ายๆซะที่ไหน
นอกจากประเด็นของการเสียดสีข้ามโลกแล้วยังแง่คิดที่ดีๆมากจนถูกมองว่าโลกมายาที่เป็นหนังเกิดขึ้นจากโลกแห่งความจริงเพราะคนเขียนบทแต่ยังไงชีวิตก็ยังเป็นชีวิตต่อไป ไม่ได้ถูกกำหนดตามอำเภอใจโดยง่าย ฉะนั้นตอนที่แจ็คออกมาจากโลกแห่งหนังแล้วเห็นว่าตัวเองในโลกแห่งความจริงคืออาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ก็ทำใจรับไม่ถูกเพราะสิ่งที่เดนนี่พูดเสมอว่าเป็นเพราะหนังนั้นคือเรื่องจริง แจ็คจริงระลึกได้ว่าถ้างั้นตอนที่ต่อกรกับริปเปอร์(Tom Noonan)จนพลาดพลั้งให้ลูกตัวเองตายก็เพราะการกำหนดเรื่องราวจากโลกแห่งความจริง เจอแบบนี้เป็นใครคงรับไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะตามมีตามเกิดแต่เป็นการแต่งเรื่องแต่งราวจนไม่ได้แคร์ความรู้สึกทางนั้นบ้างเลยว่าจะรู้สึกยังไง ก็เหมือนกันกับชีวิตที่ต้องรู้สึกว่าอะไรจริงอะไรปลอมถึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่ถ้าไปหลอกว่านี้ไม่ใช่จริงไม่ใช่ปลอมสุดท้ายมารู้ในตอนท้ายคนที่เสียใจก็คือคนที่ไว้ใจ สุดท้ายเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการถูกชักใจของใครอีกคนหนึ่งให้คิดไปเองเหมือนถูกหลอกให้ทำโดยที่ไม่รู้ว่านั้นไม่ใช่ตัวตนที่จริงของเรา
ที่ชอบเห็นจะเป็นการหยิบเทคนิคเก่าๆมาใช้จนว่าเป็นอารมณ์หนังแอ็คชั่นที่มันส์ ตลก เศร้ากันได้ โดยเฉพาะเรื่องมุมกล้องที่โชว์เอกลักษณ์ของตัวร้ายอย่างน่าเกรงขาม(บางทีให้อารมณ์อยากฮาซะเอง) กับตัวร้ายมีมาดเป็นของตัวเองเช่นเรื่องลูกตาของเบเนดิกต์(Charles Dance)จากตัวร้ายระดับนักฆ่ากลายเป็นตัวร้ายตัวใหญ่จริงๆของเรื่อง ซึ่งตัวร้ายในเรื่องก็อย่างที่รู้ว่ามีความเก่งขึ้นมาบ้าง แต่กับเบเนดิกต์นี่สินอกจากจะฉลาดแล้วยังเก่งเรื่องความรอบคอบอีกด้วย ไม่นานก็รู้แล้วว่าหนูน้อยปริศนาเดนนี่มาจากไหน และไหนจะเรื่องตั๋วอีก คือไม่นานก็รู้วิธีการใช้งานของตั๋วจนหลุดไปโลกแห่งความจริงจนเดนนี่กับแจ็คต้องไปหาตัวกลับมา อีกแง่คิดหนึ่งคือถ้าอาร์โนลด์ตายในโลกแห่งความจริง แจ็คจะตายด้วยเช่นกัน เพราะถึงแบบนี้เบเนดิกต์ถึงใช้ตั๋วดึงริปเปอร์ออกมาจากหนังเพื่อใช้มากำจัดอาร์โนลด์เพื่อแจ็คจะได้ตายไป ไม่รู้ว่าแนวคิดจะใช้ได้หรือไม่แต่ถ้าเป็นโลกคู่ขนานยอมอาจจะเป็นไปก็ได้
ในส่วนของแอ็คชั่นจัดว่าเอาสนุกไม่น้อยทั้งยังผสมความมันส์แบบไม่สนความเว่อร์เข้ามา ก็เหมือนกับรถของแจ็คว่าทำไมถึงไม่พังสักทีหรือการมีเสื้อกันกระสุนเตรียมมาอย่างดีทำให้ตัวพระเอกตายยาก ทั้งนี้ต้องเป็นผู้กำกับ John McTiernan ที่สร้างหนังระดับตำนานมาแล้วสองเรื่องที่แอ็คชั่นสุดเหวี่ยงกับ Predator (1987) กับ Die Hard (1988) คราวนี้มาจับมือร่วมงานกับอาร์โนลด์ถือว่าไม่ผิดหวังกับแนวแอ็คชั่นแน่นอน
แม้แอ็คชั่นไม่น่าผิดหวังเช่นเคยแต่ปัญหาจะอยู่กับคนที่คิดว่ามันแปลกๆเพราะยังมีความเว่อร์ไม่น้อย ข้อดีคือสามารถแยกได้ความเว่อร์ในโลกแห่งหนังกับความจริงมันต่างกันยังไง ตอนที่แจ็คเอามือทุบกระจกรถกับบอกว่ารู้สึกเจ็บเพราะเป็นโลกแห่งความจริง ฉะนั้นในโลกของหนังเขาไม่เคยรู้สึกว่าเจ็บจริงๆเลย กรณีเดียวกับการไม่ต้องบรรจุกระสุนแต่เรื่องจริงต้องบรรจุ แล้วยังมีอยู่ฉากหนึ่งที่เดนนี่พยายามพิสูจน์ว่านี่เป็นโลกของหนังด้วยการหาหนังเรื่องหนึ่งที่เป็นตำนานของอาร์โนล์ดคือเรื่อง The Terminator ที่เป็นหน้าปกของภาคสองที่ขี่ซอบเปอร์กับมืออีกข้างถือลูกซอง พอไปดูกลายเป็นหน้าของพี่แรมโบ้(Sylvester Stallone)ไปซะอย่างนั้น เป็นการแซวนักแสดงแอ็คชั่นร่วมสมัยที่น่าฮาจริงๆ
การดำเนินเนื้อเรื่องแรกเปิดด้วยหนังในหนังที่จะได้เห็นลุงอาร์โนลด์ลุยเดี่ยวไปจัดการริปเปอร์ ก่อนจะย้ายไปที่โลกของจริงที่เดนนี่กำลังชมอยู่ในโรงหนังคนเดียวกับลุงนิคที่นอนฉายอยู่ข้างบน หนังก็ไปเรื่อยๆจนหลุดมิตินั้นแหละถึงเริ่มมันส์จริงเพราะระหว่างที่เดนนี่หลุดเข้าไปต้องมีการปรับตัวอะไรหลายอย่างช่วงนี้เลยดูช้าๆไปหน่อย การดำเนินเรื่องอาจมีอืดๆบ้างก็พอสนุกมีลูกเล่นมาเรื่อยๆ
หนังยาวประมาณ 2 ชั่วโมงพอจะเกือบเรื่องเก็บราวได้มากอยู่เหมือนกันทั้งในโลกของหนังที่ต้องฟัดกับตัวโกงหรือจะตัวร้ายที่หลุดออกมาหาโลกแห่งความจริง มันต่อเนื่องก็ตรงนี้แหละ ที่สำคัญอย่าไปว่าเลยเรื่องความสมเหตุสมผลเพราะยิ่งคิดไปคิดมา ถ้าโลกของหนังเกิดเพราะคนโลกจริงสร้างขึ้นมา ถ้างั้นเอาแสดงมาเล่นหนังโน้นหนังนี่มันไม่ยาวเลยเหรอเนี้ย เอาเป็นว่าสนุกและมันส์แบบแอบกัดจิกคอแอ็คชั่น ใครชอบดูได้ไม่เบื่อกับ 2 ชั่วโมงแน่นอน
