Return to House on Haunted Hill (2007)
บ้านเฮี้ยนหลอนผวาโลก
Director: Victor Garcia
Genres: Crime | Fantasy | Horror | Mystery | Thriller
Grade: C
จะว่าไงดีกับหนังที่เคยลงโรงกลายมาเป็นลงแผ่นในภาคต่อที่ห่างมาประมาณ 8 ปี จะว่านานพอดูทำเอาเกือบคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องมีภาคต่อกันอีกแล้ว ก็ทำไงได้ถ้าแรกทำออกมาได้ถูกใจขนาดนั้น ทั้งความหลอนที่เหมาะกับการเป็นบ้านผีสิง(จริงๆมันเป็นโรงพยาบาลบ้า) ทั้งมีลูกเล่นอีกเพียบที่ประเมินไม่ได้อย่างเดียวว่าผีจะร้ายกว่าคน เพราะคนยังร้ายกว่าผีทุกเมื่อที่มีโอกาส ซ้ำยังเพิ่มความมันส์จากความสยองที่ลุ้นใช้ได้ เอาเป็นว่ากับภาคแรกนั้นจัดว่าน่าสนใจกับคอหนังสยองขวัญ ก็ไม่รู้อรกละว่ามาภาคนี้เนื้อเรื่องจะเป็นยังไงบ้างก่อนจะหยิบมาชม ซึ่งถ้าคิดๆหน่อยการที่หนังเคยหนังกับการมีรอบสื่อผ่านโรงหนังต้องเป็นที่รู้จักกันพอประมาณ และมีเนื้อเรื่องที่ไม่ตามสูตรหรือกลุ่มคนเฉพาะเสมอไป ไม่รู้ว่าทำไมหนังสมัยนี้บางครั้งมีค่านิยมสร้างหนังเกรดบีที่ขาดเรื่องสร้างสรรค์ และพยายามเอาหน้าเอาตาจากต้นฉบับที่ดีมาสร้างภาคต่อ ซึ่งนั้นอาจเป็นไปได้น้อยที่ภาคต่อจะทำกว่าภาคก่อน เนื่องจากต้นฉบับยังมีดีกรีความเป็นฉบับมาก่อน ฉะนั้นการจะหนังฟอร์มใหญ่มาเป็นฟอร์มเล็กแต่ไม่ด้อยภาคแรกคือการไม่ย้ำรอยภาคเดิมมากเกินไป และควรมีพื้นฐานของเหตุผลให้เนื้อเรื่องมีทิศมีทางมาบ้าง ไม่ใช่รู้ว่าตัวละครนี้คือตำนาน ก็เอาตัวละครนี้มาใส่เอาไว้ชูหน้าหนังเฉยๆ กับเรื่องแบบนี้เริ่มเห็นได้ชัดกับตอนต่อๆของ Hellraiser ที่มีดีจริงแค่สองภาค ส่วนหลังจากนั้นคุณภาพค่อยๆดรอปลงไปกลายเป็นพินเฮด(หัวตะปู)โผล่มาเซอร์ไพรส์กันไม่กี่ฉาก และทิศทางหนังกลายเป็นแนวสอบสวนที่พาง่วงมากกว่าเอาลุ้นซะแล้ว
ลองเกริ่นๆแบบไม่มีการเปรียบเทียบกับภาคแรกหรือเทียบไปพร่างๆ ก็ถือว่าบ้านผีหลังนี้ไม่ค่อยน่าหลอนน่ากลัว แต่ไอ้ความสยองนี่สิมากันเต็มที่เชียว อ่ะลืมบอกเรื่องย่อไปซะสนิทเลย คือเนื้อเรื่องโยงหาภาคแรกนิดนึงตรงที่เอเรียล วูล์ฟ (Amanda Righetti) เป็นพี่สาวของซาร่าที่รอดชีวิตจากบ้านผีเฮี้ยนหลังนั้นจากภาคแรก ที่ติดงานไม่ได้ติดต่อน้องสาวซาร่าเลย ซึ่งก็พยายามหาทางติดต่อมาคุยแทบตลอดเวลา จากนั้นไม่นานที่เอเรียลว่างถึงรู้ว่าน้องสาวกำลังติดต่อหาเธอทุกหนทาง และเร่งด่วนมาก ทำให้สงสัยว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรกันแน่ ไม่นานมีข่าวว่าน้องสาวของตัวเองฆ่าตัวตายคาห้อง เอเรียลจึงช็อคมาก และสงสัยว่านี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่เลยพยายามประติดประต่อสิ่งที่เหลือทิ้งเอาไว้ เป็นสมุดบันทึกเก่าๆเล่มหนึ่งจากดร.แวนนาคัต (Jeffrey Combs)
ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นเองที่เธอได้พบชายแปลกหน้าดร.ริชาร์ด แฮมเมอร์ (Steven Pacey) ที่มาหาเธอเพราะน้องสาวติดต่อไปด้วยเรื่องบางอย่าง แต่ด้วยความที่ยังไม่รู้แน่ชัดจึงไม่สามารถบอกอะไรได้มาก และให้กลับไปเนื่องจากยังทำใจเรื่องน้องสาว แต่ยังมีมาอีกรายเดสมอนด์ ไนล์ (Erik Palladino) ที่มาร้ายพร้อมลากเธอออกจากบ้าน ด้วยเหตุเพราะน้องสาวได้เก็บข้อมูลบางอย่างเอาไว้ ซึ่งมันอยู่ที่คฤหาสน์โรงพยาบาลแห่งนั้น แต่อะไรกันที่พวกเขากำลังตามหา แล้วน้องสาวของเธอทำไมต้องฆ่าตัวตาย ไม่ว่ายังไงก็ตามหลังจากได้เข้าไปในบ้านแห่งนั้นเรื่องแปลกประหลาดได้เกิด และดูเหมือนว่าสถานที่ร้างเช่นนี้มีความเฮี้ยนที่กำลังจ้องทุกคนที่เหยียบเข้ามา
ดีนะเนี้ยที่การผูกเรื่องมีทิศทางถึงเหตุผลที่ต้องเข้าบ้านผีสิงนี้ให้ได้ ไม่ใช่มาง่ายอยากพิสูจน์เดินเข้าแล้วอยากออก แต่ออกไม่ได้ ซึ่งภาคนี้ได้ขยายความให้ลึกลงไปเกี่ยวกับคฤหาสน์ โดยมีนัยว่าเดิมที่ดร.แวนนาคัต เป็นจิตแพทย์ที่ไม่ได้โหดเหี้ยมตั้งแต่แรก ด้วยความที่ว่าหลงใหลในผลงานเก่าๆและรักศิลปะจึงมีของสะสมเก็บไว้ และนั้นแหละมีอยู่ชิ้นหนึ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป หนึ่งในของสะสมนั้นเองที่ทำให้เกิดเรื่องหลอนน่ากลัวแบบนี้จนสถานที่เช่นนี้มีความวุ่นวายกลายเป็นบ้านผีสิง คือรูปปั้นบาโพเมท สำหรับบาโพเมท คือปีศาจหรือจะเทพก็ได้ในฐานะผู้นับถือลัทธิซาตาน เป็นลัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย และมนต์ดำ เป็นเครื่องหมายตัวแทนแห่งซาตาน ในแง่ของรูปลักษณ์ที่พบกันบ่อยจะเป็นส่วนผสมระหว่างคนกับแพะ โดยตัวเป็นคนมีขา ตัว แขน ครบองค์ประกอบ ในขณะที่หัวเป็นแพะ ฉะนั้นคงไม่ต้องอธิบายว่าหมอดีกลายเป็นหมอเพี้ยนได้ยังไง ด้วยอำนาจจากรูปปั้นบาโพเมท ทำให้ดร.แวนนาคัตคือโรคจิตอำมหิตสุดโหดใช้คนไข้คนการเชือดและทรมานคนไข้ไปอย่างไม่สนใจ และบ้านหลังนี้เองที่เฮี้ยนไม่หยุดแม้จะตายกันหมดหลังแล้วก็ตาม
พอรู้รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเริ่มเข้าใจว่าจุดประสงค์มาบ้านที่นี้ ทั้งริชาร์ดและเดสมอนด์ต่างก็สนใจครอบครองรูปปั้นนี้ กับคนแรกเป็นความใฝ่ฝันทางการศึกษาที่อยากได้มานาน กับอีกคนมาเพื่อไปใช้ทางธุรกิจตลาดมืด ประเด็นคนที่เจอปัญหาเป็นเอเรียลที่ต้องหลงเรื่อหลงราวอย่างไม่ตั้งใจซะงั้น จะว่าซวยก็คงได้ ทั้งที่เรื่องเป็นของน้องสาวแล้วเหตุไฉนเราต้องไปเกี่ยวด้วยใยเล่า เอาเถอะประเด็นของหนังจัดว่าทำได้ไม่เลว มีเหตุมีผลรับได้
Return to House on Haunted Hill มีความหลอนที่แบบว่าเกือบจะศูนย์ เพราะทดแทนด้วยความแหวะสุดสยองหลายฉาก ประมาณระดับนองเนื้อนองเลือด นี้แค่เริ่มเรื่องหนังก็โคมด้วยการเดินเรื่องที่เร็วทันทีที่เหยียบบ้าน ฉะนั้นความสยองจึงเริ่มต่อไม่หยุดบวกกับตัวละครมีหลายตัว จึงได้เห็นฉากอย่างว่ามาหลายฉาก แหวะเอาเรื่องอ่ะนะ ที่เด็ดคือฉากผีดร.แวนนาคัตโผล่มาจ๊ะเอ๋ต่อหน้าแล้วใช้มีดสั้นหมอวาดลวดลาย(มั่วๆ)บนใบหน้า จากนั้นจี้ดเลย หรือจะอีกฉากที่โหดเอาเรื่องไม่น้อย เป็นฉากที่หยิบสมองออกมา ทำไมยิ่งดูมันยิ่งโหดจังแหะ
พล็อตเรื่องก็เข้าท่าดีแต่ถ้าพูดถึงฟอร์มดารากลายเป็นของเล็กไปเลย จึงไปแปลกถ้าภาคแรกยังเป็นต่ออยู่ ยิ่งการจับจังหวะดนตรียังไม่เข้าหลักเข้าที่อย่างที่ควร จึงไม่หลอนไม่น่ากลัว แต่มันแหวะวุ้ย ถ้าลองเทียบกับภาคแรกตามที่รู้สึกได้ทันทีคือความน่ากลัวแบบผีๆหายไปหมดเลย ไม่ลุ้นระทึกหรือมันส์ นอกจากหนีๆวิ่งๆพอได้ที่ก็ตายด้วยความสยองขั้นเลือดเนื้อ
ถ้าพูดถึงแล้วการที่เรื่องเดินเร็วไปเนี้ยจัดเป็นข้อเสียหายได้เหมือนกัน(ยาวไม่เกิน 90 นาที) เพราะหลังจากนั้นหลังมันรั่วเกินไป เหมือนพร้อมใจกันไปตาย เรื่องคติเดิมอีกคือการแยกกระจายกันตามหารูปปั้น ไม่ต้องบอกว่าเป็นยังไงถ้าแยกออกจากกัน ดังนั้นหนังสดอย่างเดียวกับเรื่องสยองไม่หลอน กลายเป็นคอโหดเลยภาคนี้ เรื่องบรรยากาศเองก็เปลี่ยนไปหนักทางความมืด ไม่ได้เอาสถานที่เข้ามาเป็นส่วนเกี่ยวข้องเช่นภาคแรกที่เอาเป็นของหลอกได้ จะว่ามีอยู่อย่างเดียวที่ตะหงิดใจมากที่สุดคือบทนางเอกของเราที่เกิดมาโชคดีแบบรอบเดียวไม่พอต้องขอดับเบิ้ล ขนาดไปเจอผีนี่ยังจัดว่าโครตมีโชค ไปเจอผีที่อยากไปเกิด ประมาณว่าเป็นพวกต่อต้านดร.แวนนาคัตตั้งแต่ยังเป็นคนจนผียังอยากต่อต้านอยู่ อีกอย่างคือถ้าไม่ใช่เพราะผีใจดีช่วยคงหารูปปั้นกันไม่เจอ แล้วไมพล็อตเรื่องแบบนี้ไม่เกิดกับภาคแรกล่ะ ฟังดูจะตีกันยังไงไม่รู้ ก็ถือว่าภาคแรกเป็นเนื้อเรื่องชวนเข้าบ้านเพื่อร่วมสนุก เผอิญกลายเป็นสยองซะแทน แล้วเกิดไปโยงกับพวกรูปปั้นเข้าบางทีอาจจะคุมหนังไม่อยู่ก็ได้ แล้วไอเดียนั้นยังไม่เกิดด้วย เพราะคนเขียนบทภาคนี้เป็นผลงานชิ้นแรกของ William Massa ไม่ใช่มือเขียนเดิม
น่าเสียดายที่หนังออกมาสั้นไปนิดนึง จึงไม่แปลกว่าการดำเนินเรื่องต่อเนื่องแล้วก็ลื่นไหลได้ดี ไม่มีจุดอืด จะมีคงเป็นช่วงแรกของหนังที่ยังไม่เข้าบ้าน แต่พอเข้านี่สิไปยาวเลย จะว่าไปหนังไม่รีรอด้วยการทำให้ประสาทหลอนให้ตกใจ เนื่องจากใครเจอผีก็เตรียมตัวตายได้เลย แม้จะไม่เด็ดดวงเช่นภาคแรก ความตื่นเต้นที่ให้ความสยองจัดว่าเหมาะสำหรับคอหนังเรื่องราวสไตล์บ้านผี(แบบโหดๆ) แม้จะขาดความหลอน มีแหวะ น่ากลัว แต่ก็ยังพอรับได้ โดยส่วนตัวไม่ถึงกับแย่หรือไร้ทิศทาง น่าจะเรียกว่าดีเกินคาดกว่าที่คิดเอาไว้พอตัว ถึงรายละเอียดจะไม่ครบถ้วนอย่างภาคแรกที่เป็นบ้านผี ภาคนี้ก็ให้ผีมีหลายรูปแบบ และการเล่าเรื่องที่มาของการถูกทรมานว่าเพราะอะไรจึงตาย จัดว่าพอเข้าท่าเข้าทาง แม้จะง่ายและนิ่งไปหน่อย พอกับความโหดถือว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ