Commando (1985) | คอมมานโด | B
Director: Mark L. Lester
Genres: Action | Adventure | Thriller
ได้ที่ไปกับโคแนนทั้งสองภาค (Conan the Barbarian (1982),Conan the Destroyer (1984)) และ The Terminator (1984) ที่แจ้งเกิดสมญานามคนเหล็กกันไปไม่นาน ก็ถึงคราวหนังแอ็คชั่นที่แจ้งเกิดความมันส์จากสถิติการฆ่าตัวละครนับร้อยกับเรื่องราวของจอห์น เมทริกซ์ (Arnold Schwarzenegger) นายทหารหน่วยพิเศษที่เกษียณตัวเองมาอยู่กับลูกสาวเจนนี่ (Alyssa Milano) ท่ามกลางความสงบจากการฆ่าฟัด และดินปืน แต่แล้วความสงบกับลูกสาวต้องจางหายไป เมื่ออดีตลูกน้องคนสำคัญที่เคยร่วมรบของจอห์นทุกคนล้วนถูกเก็บไปหมด จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าจอห์นอาจโดนเก็บไปด้วย นายพลลอว์สัน (Drew Snyder) จึงตามมาเตือนถึงบ้านให้ระวังตัวเอาไว้ เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่ พอเตือนได้ไม่ทันไรพวกตัวร้ายก็แห่ไปถล่มบ้านจอห์นจนย่อยยับ แถมลูกสาวของตัวเองยังถูกจับตัวไปด้วย ทำให้เขาต้องยอมทำตามเงื่อนไขแลกเปลี่ยนของเรียส (Dan Hedaya) ที่ต้องการใช้ฝีมือของจอห์นไปฆ่านายกเทศมนตรีไม่งั้นลูกสาวไม่ปลอดภัย เขาจึงต้องเดินทางไปเยี่ยมนายกถึงที่ ทว่าถ้าทำแบบนั้นมันก็ง่ายเกินไปนะสิ หลังจากที่ขึ้นเครื่องบินตามคำสั่ง เขาได้หลบหนีอย่างลับๆจากเครื่องบินเพื่อกลับไปตามหาลูกสาว แต่ทั้งนี้เขาต้องหาแหล่งที่อยู่ให้เจอเสียก่อน ซึ่งเขามีเวลาก่อนความแตกเรื่องหนีออกมาเพียง 11 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นเขาต้องแข่งกับเวลาเพื่อลูกสาวตัวเอง และเจอพวกนั้นเมื่อไรเขาจะถล่มให้เละไปข้างหนึ่งเลย
เป็นไปได้สูงว่าสาวๆสมัยนั้นถ้าเห็นการเปิดตัวของอาร์โนลด์รับรองมีกรี๊ดกันบ้างล่ะ ทำไมนะเหรอ เพราะว่าสไตล์อันมาดเท่ที่เป็นจุดขายได้ลงความอย่างเด่นชัดกับกล้าม และพลังที่เดินถือเลื่อยไฟฟ้าข้างหนึ่งพร้อมกับแบกของใหญ่อย่างต้นไม้บนบ่ามาทั้งต้นแบบสบายๆ โดยก่อนหน้านั้นได้แสดงถึงกล้ามเนื้ออย่างใกล้ชิดที่บรรจงความเท่จากจุดเล็กๆมาปรากฏรูปโฉมของชายหนุ่มกล้ามโตที่ดูดีมีพลัง เป็นการเปิดตัวที่เอาใจแฟนๆได้น่าปลื้มไม่น้อย ทว่าจะปลื้มดีใจแค่ไหนต้องดูกันก่อนว่าหนังจะสนุกหรือเปล่า โดยส่วนตัวคิดว่าสนุกได้น่าพอใจระดับหนึ่งกับฉากแอ็คชั่นที่มีใส่กันไม่ยั้งตลอดเรื่อง ที่ยิงกันตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง การประติดประต่อเรื่องราวเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ชวนน่าเบื่อมีแอ็คชั่นให้มันส์เกือบทั้งเรื่อง และมีมุขเข้าสอดแทรกเป็นของแถมที่ได้ตัวละครเสริมอย่างคิดดี้ (Rae Dawn Chong) ที่กลายเป็นคนติดตามจอห์นแบบโดนลูกหลงไปด้วย ตอนแรกเป็นคนขับรถให้เฉยๆพอไปๆมาๆต้องร่วมมือกับจอห์นไปด้วยในการตามหาลูกสาว ที่ดีคือเป็นตัวละครที่ทำประโยชน์ได้ดี แม้หลังๆจะเริ่มแปลกในถึงเหตุผลของการร่วมมือไปบ้าง เพราะไม่คิดว่าผู้หญิงที่เจอคนแปลกหน้าจะยอมช่วยแบบไม่สนใจชีวิตตัวเองว่าจะเสี่ยงแค่ไหน ซึ่งในตอนแรกคิดว่าเป็นพวกโรคจิต พอได้รู้ความจริงถึงเข้าใจจนกลายเป็นผู้ช่วยไปในที่สุด และทั้งนี้เองความบังเอิญที่หนังได้จงใจทำขึ้นมาคือคิดดี้มีความสามารถในเรื่องของการบิน ขณะที่จอห์นดูจะไม่ค่อยดูเรื่องดูราวอะไรกับทางนี้นัก อีกทั้งการตามล่าหาพวกเหล่าร้ายที่จับลูกสาวไปจำเป็นต้องอาศัยทักษะในการบิน เริ่มจากการตามรอยตั๋วการใช้เครื่องบินส่วนตัวที่ตัวละครอย่างคิดดี้ช่วยสืบจนรู้อะไรหลายอย่าง ทำให้บทบาทของผู้ช่วยที่น่าจะเป็นเพียงตัวเสริมได้โดดเด่นขึ้นมาบาง แต่ที่น่าจะจะทำให้ตัวละครนี้เป็นที่น่าจดจำคือความตลกใจกล้าที่แบกจรวดยิงใส่รถตำรวจเพื่อช่วยจอห์น
ภาพพจน์ของพ่อรักลูกสาวเป็นมุมมองที่มีเสน่ห์ที่ได้ฝีมือการแสดงของ Alyssa Milano ที่รับบทเป็นเด็กน้อยเจนนี่ได้อย่างน่ารัก มีการแสดงออกถึงความใกล้ชิดคุณพ่อค่อนข้างสูงจนคิดอยู่ว่าถ้าเพิ่มความรักเข้าไปบ้างคงดีไม่น้อย(แต่นี่หนังแอ็คชั่นนะ) เอาเป็นว่าทุกครั้งที่ได้อุ้มลูกหรืออยู่ใกล้ลูกเป็นภาพพ่อลูกได้สมบทบาทกันจริงเชียว ด้วยเสน่ห์ตรงนี้ทำให้เราเชื่อถือได้ถึงความเอาจริงเอาจังในตัวจอห์นที่บุกน้ำลุยไฟอย่างไม่ย่อท้อบวกกับความสามารถจึงกลายเป็นตัวละครที่เก่งเกินคนธรรมดา ถ้าให้แสดงถึงความเว่อร์อันแสนร้ายกาจของหนังเรื่องนี้แล้วล่ะก็ จะมีอยู่ที่ความสมบทบาททั้งหน้าตากับร่างกายของจอห์นที่ได้ Arnold Schwarzenegger มาเล่นได้อย่างทรงพลังจนกลายเป็นตัวละครที่เก่งกาจแบบไม่มีใครหยุดเขาได้ ซึ่งในความเว่อร์ในหลายๆฉากที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นจุดแสดงถึงความสนุกกับเพิ่มสีสันเข้ามาให้ดูมีสไตล์ของมาดพระเอกกล้ามโตที่ต้องมีจุดขายสักจุด และลุงอาร์โนลด์คนนี้คือเรื่องบ้าพลังตามภาพลักษณ์ของตัวเอง
ถ้าพูดถึงพระเอกคนอื่นในวงการแอ็คชั่นสมัยนั้นจะพบว่ามีพระเอกในเรื่องที่มีความเก่งกาจอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นแรมโบ้ที่เล่นโดย Sylvester Stallone ที่จะมีความเว่อร์ในเรื่องการลุยเดี่ยว แม้จะถูกตัวละครนี่จะถูกสร้างมาให้ไม่แสดงความเก่งกาจเกินตัว ให้ใช้เป็นทักษะการเอาตัวรอดเป็นหลัก ซึ่งเป็นการบีบเค้นไปในตัวอีกด้านหนึ่ง แต่ด้วยยิ่งสร้างภาคต่อความเก่งกลับยิ่งเพิ่มขึ้นจนระดับที่ Rambo ภาคสามได้กระทำลงตัว แต่อีกด้านหนึ่งกลับมีนักแสดงที่เล่นได้อย่างเว่อร์มาตลอดหลายเรื่องคือ Chuck Norris ที่ถูกตั้งฉายาว่าเป็นถึงระดับพระเจ้า ด้วยเหตุที่ว่าใครได้ดูหนังของเขาคงงงกับความพลึกของหนังที่ทำให้ตัวละครนี่เก่งกาจยิ่งกว่าสองคนก่อนอย่างมาก แต่ทั้งนี่เพราะการเป็นพระเอกจึงมีการรับประกันแน่นอนว่าห้ามตายก่อนได้เท่ เช่น Commando ที่หยิบศักยภาพทางร้างกายของลุงอาร์โนลด์คนนี้มาใช้กับอดีตนักกล้ามคนนี้อย่างหมดจด ปืนกลที่ยิงรัวดังสายฝนกับแรงสั่นสะเทือนที่กระเทือนมาตรงอก แสดงให้เห็นถึงกล้ามเนื้อที่หน่าแน่นตลอดจนแขนที่เกร็งจนเส้นเลือดขึ้น ซึ่งพระเอกกล้ามโตแบบเขาคนนี้จะมีสักกี่คนที่เรียกเสน่ห์ได้ขนาดนี้
Commando มีเนื้อเรื่องที่ว่าง่ายสอนง่ายมายังไงก็เป็นไปตามนั้น เมื่อลูกสาวถูกจับก็ต้องไปตามลูกสาวกลับคืนมา ส่วนที่เหลือคือการดำเนินเนื้อเรื่องที่แอ็คชั่นล้วนๆ ไม่รู้ว่าจะเคยสังเกตกันมากน้อยเพียงใด แต่บอกก่อนเลยล่ะกันว่าหนังเรื่องนี้มีตัวละครที่ถูกฆ่าเอาไว้เยอะมากในหมู่หนังแอ็คชั่นที่ไม่นับเอาหนังสงครามนะ ด้วยการตายถึง 102 ศพ ส่วนจะจริงหรือไม่ลองดูไปนับไปเผลอๆอาจมากกว่านี่ก็เป็นได้ ที่แน่นอนคือฉากท้ายเรื่องที่ไปถล่มเกาะฐานทัพก็กวาดเรียบไม่ต่ำกว่า 80 กว่าศพแล้ว เป็นสถิติ Body Count ที่เยอะกว่าหนังสยองภาคต่อหลายเรื่องรวมกันซะอีก แต่อย่าไปจับผิดจุดเรื่องนักแสดงที่โดนยิงในตอนท้ายเรื่องซะล่ะ เพราะเชื่อเลยว่าถ้าในเรื่องจะตายเยอะขนาดนี้มีหรือว่าจะไม่ใช้นักแสดงให้ไปเล่นซ้ำอีก ไม่แน่อาจเล่นวนให้ถูกยิงไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบก็เป็นได้ พวกตัวประกอบเล่นกันคุ้มไปเลย ส่วนตัวหนังใช้เวลาถ่ายทำเพียงแค่ 45 วันเสร็จ(ขยันเสร็จเร็วกันจริง)
ย้อนมาที่ส่วนของแอ็คชั่นที่เริ่มเรื่องด้วยการตายของลูกน้องจอห์นทีละคน โดยหนึ่งนั้นมีอยู่คนที่วางท่าแปลกๆอันเป็นจุดที่ทำให้เดาง่ายไปหน่อยเรื่องแผนลวงของตัวโกง ซึ่งตัวร้ายอย่างเรียสนั้นมีบทบาทที่ไม่ได้โดดเด่น ทำให้เป็นหัวหน้าตัวร้ายที่ไม่มีเสน่ห์ แม้จะสู้ยิงกันตัวต่อสู้กับพระเอกแล้วก็ตามก็อดนึกคิดไม่ได้ว่าเป็นตัวร้ายจริงๆหรือไม่ และถ้าเป็นแบบนั้นหนังคงจบง่ายมาก ยังมีตัวละครที่เข้าทางอยู่ตัวหนึ่งที่ร้ายกาจจนมีบทมากกว่าตัวหัวหน้าตัวร้ายคือเบนเนตต์ (Vernon Wells) ที่ต่อสู้กับพระเอกอย่างสูสีด้วยมีด นี่ถ้าเป็นตัวละครตัวอื่นสู้กันไม่เท่าไรรู้ผลแน่ แต่ตัวนี่สู้กันนานหน่อยแล้วยังเก่งกาจเรียกเลือดจากพระเอกได้ด้วย ถ้าจะเรียกเลือดได้นี่นับว่าเก่งแล้วนะ เพราะตั้งแต่เปิดเรื่องมาพระเอกของเราบ้าพลังขนาดทำอะไรที่ยากๆกลายเป็นของกล้วยๆได้ เริ่มจากการเข็นรถที่พังจากที่สูงเพื่อตามรถตัวโกงที่วิ่งตามขอบเนิน ฉากเข็นรถเป็นอีกหนึ่งการโชว์พลังที่เข็นด้วยแรงล้วนๆ หรือจะการยกตู้โทรศัพท์ที่มีคนอยู่ข้างในมาขว้างใส่พื้น รวมถึงการโดนตำรวจนับสิบรุมล้อมที่ผลักทุกคนออกจากวง แต่ที่เด็ดสุดคือการผลักรถที่เอี้ยงให้พลิกมาใช้ได้ตามเดิมกันอย่างสดๆแล้วขับไปต่อคือพลังของพระเอกคนนี้ที่มหาศาล ที่ยังไม่หมดคือการเกาะล้อเครื่องบินที่กำลังไต่ระดับขึ้นสูงก่อนจะกระโดดลงมาจากเครื่องบินลงน้ำแล้วกลับมาเดินต่อ จึงไม่แปลกใจถ้าสู้กับคนระดับธรรมดาจะเสร็จกันง่ายๆ แม้จะเว่อร์จนเหลือเชื่อก็นับเป็นอีกความภาคภูมิใจของหนังแอ็คชั่นที่ต้องเอาสะใจกันอยู่แล้ว นับว่าเป็นการบ่งบอกฉายาพระเอกคนนี้ว่าเป็นคนเหล็กอย่างแท้จริงในโลกของหนัง
แม้จะมีความเว่อร์เรื่องพลังกันอยู่บ้าง ถ้าคิดว่าเท่านั้นยังน้อยไปโดยเฉพาะในช่วงท้ายเรื่องที่ยิงกันแทบไม่หยุด มีมากี่คนก็ยิงตายกันเกลี้ยง เป็นฉากแอ็คชั่นมันส์ระเบิดเผากระท่อมของแท้ที่มีพระเอกสู้อยู่คนเดียว ประมาณว่าเรื่องนี้ขอลุยเดี่ยว สุดท้ายไม่อดมีตัวละครแถมที่น่าจะมาแค่ชั่วคราวแต่พอเอาจริงต้องให้ติดไปด้วยจนจบ ซึ่งจะว่าเป็นตัวละครที่เกินก็ไม่ได้ เนื่องเป็นตัวขับมุขขึ้นมาอย่างการแซวลุงอาร์โนลด์ที่บอกว่ากินเนื้อแดงมากเกินไป แหมก็พลังเกินคนแบบนั้นเป็นใครต้องตะลึงในความสามารถนี้กันบ้างแหละ สำหรับคนนี้คือ Rae Dawn Chong เป็นตัวละครคิดดี้อย่างที่บอกไปเมื่อข้างต้น เป็นตัวละครที่มีในเนื้อเรื่องประมาณกลางๆเรื่อง มีมาท้ายเรื่องหายไปเลย จริงๆไม่ได้หายไปไหนเพียงตอนนั้นคือช่วงรุ่งของลุงอาร์โนลด์ที่ต้องหยิบปืนยิงโชว์มาดเท่อยู่คนเดียวกับศพอีกไม่รู้ตั้งกี่ศพที่ยิงไป ระหว่างที่ดูลองพยายามนับตามไปด้วยแล้วจะทึ่งในฝีมืออดีตนายทหารคนนี้ มันมีข่าวด้วยนะว่าเกือบได้ผู้กำกับ John McTiernan มาทำแทน แต่เกิดไม่เอาไปทำหนังเรื่องอื่น สุดท้ายต้องมาเจอกันอีกใน Predator (1987) จนได้ หรือว่าจะมาจากเรื่องเรื่องนี้ที่ไปต่อยกับพรีเดเตอร์ ฝีมือก็เลยสุดยอดไร้เทียมทาน(ก็เล่นเป็นทหารเหมือนกัน สมมติว่าไปต่อยกับพรีเดเตอร์ก่อนมีลูกสาวอันนี้ก็ไม่แน่)
คงไม่มีอะไรมากับเนื้อเรื่องที่ไม่สลับซับซ้อนมายังไงก็ไปตามนั้น เป็นสูตรสำเร็จสำหรับหนังแอ็คชั่นที่เกิดมาเพื่อเอามันส์เป็นหลัก ส่วนการเล่าเรื่องกระชับลื่นไหลมีจังหวะ มุมหนังมีการถ่ายทอดจัวจอห์นได้อย่างละเอียดตั้งแต่หนีจากเครื่องบินตลอดจนถึงเกาะฐานทัพ ทำให้ผู้ชมได้ใกล้ชิดตัวละครนี้มากกว่าใครๆ และจะเห็นได้ว่าเป็นตัวละครที่ให้ความสำคัญในการวางแผนเรื่องเวลาที่สังเกตได้จากตั้งเวลาที่เครื่องบินจะถึงที่ภายในกี่ชั่วโมง โดยต้องใช้เวลาที่เหลือในการสืบหาแหล่งที่อยู่ให้เจอก่อนเครื่องบินลง พร้อมกันนั้นหนังยังให้ความสำคัญกับกิริยาที่ดูนาฬิกาว่าเหลือเวลาเท่าไหร่
ในด้านการแสดงของ Arnold Schwarzenegger คงไม่มีอะไรต้องคิดมาก เพราะเกิดมาเพื่อแนวนี้อยู่แล้ว เอาเป็นว่าแม้จะไม่มีเนื้อเรื่องอะไรให้คิด แต่ Commando ให้ความมันส์ความสนุกได้ครบเครื่องตามยุคสมัยนั้นจริงๆ ถ้าอยากบู๊แบบโดยไม่ขอคิดมากต้องเรื่องนี้เท่านั้นที่แนะนำก่อน
