House of 1000 Corpses (2003) อาถรรพ์วิหารผีนรก

House of 1000 Corpses (2003)
อาถรรพ์วิหารผีนรก
Director: Rob Zombie
Genres: Horror

ผลงานชิ้นแรกของนักร้องวงร็อคที่สานความน่ากลัวจากบทเพลงสู่หนังที่เริ่มด้วยความสยองกันอย่างจุใจที่ไม่ต่างอะไรกับหนังคัลท์ดีๆนี่เอง เชื่อไหมว่าเรื่องนี้อันที่จริงถ่ายทำเสร็จตั้งแต่ปี 2000 แล้ว แต่มาปล่อยให้ชมกันในปี 2003 ส่วนเพราะอะไรนั้นน่าจะมาจากบริษัทยูนิเวอร์แซลที่ตอนแรกลังเลอย่างหนักที่ตัวหนังออกมาในรูปของ NC-17 หรือห้ามต่ำกว่า 17 ปีรับชม เนื่องจากตัวหนังมาแรงจนคัลท์อย่างที่บอกข้างต้น ส่วนเรื่องราวความสยองเป็นไงนั้นไปฟังเรื่องย่อต่อไปนี้


เมื่อเทศกาลวันฮาโลวีนมาถึง มีกลุ่มวัยรุ่นทั้งสี่ ได้แก่ เจอร์รี่ (Chris Hardwick),บิล (Rainn Wilson),เดนิส (Erin Daniels) และแมรี่ (Jennifer Jostyn) ที่กำลังเดินทางไปเที่ยวท่ามกลางความมืดกลางดึก พวกเขาได้แวะเติมน้ำมันกับพักผ่อนสักหน่อยนึง ก่อนจะพบว่าเจ้าของร้านเติมน้ำมันคือกัปตันสปอลดิ้ง (Sid Haig) ที่แต่งหน้าเป็นตัวตลกกับสำเนียงการพูดคุยที่ขำร้ายๆจนหัวหด ระหว่างที่พักอยู่นั้นเองก็เกิดคุยกันไปมาถึงเรื่องต่างๆจนกัปตันสปอลดิ้งได้เชิญชวนให้พวกเขาได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ข้างๆ ทว่ามันไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ธรรมดา เมื่อเข้าไปแล้วต้องแปลกใจในความประหลาด โดยอย่างแรกคือความน่าสะพรึงกลัวที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าต่างๆที่กัปตันสปอลดิ้งกำลังเล่าเกี่ยวกับพวกโรคจิตที่ฆ่าคนจนเป็นตำนานในแถบนั้น แถมยังมีหุ่นรูปประกอบที่ชวนสยดสยองกับการกระทำที่เลวร้าย หลังเยี่ยมชมเสร็จสรรพทุกอย่างลงตัวที่ทุกคนเริ่มกลัวกับความทรงจำที่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์

ด้วยการดำเนินแบบตามสูตรเข้าบ้านคนแปลกหน้าเจอของแปลกย่อมต้องเจอเรื่องดีตามติดตัว ส่วนจะดีแค่ไหนนั้นมันเท่ากับว่าการมาเยือนที่นี่ไม่ต่างอะไรกับชีวิตที่ตกนรกทั้งเป็นจากการบังคับของครอบครัวโรคจิตอันแสนวิปริตผิดแปลกที่ชื่นชอบความรุนแรงเป็นชีวิตจิตใจ การดำเนินเรื่องมันแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องเจออะไรกันบ้างกับพวกนักท่องเที่ยวที่แวะลงผิดบ้าน ซึ่งมันก็แน่นอนอีกแหละว่าต้องไม่ธรรมดา แต่ที่แตกต่างคือลูกบ้าที่เอาบ้าอย่างหนัก พฤติกรรมผิดแปลกที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เจ้าของบ้านที่ปล่อยว่างอิสระจนสภาพดูเพี้ยนหมดทั้งบ้าน สมาชิกครอบครัวที่มากนิสัยจนไม่น่าวางใจ มีลูกสาวที่มากลีลา สุดท้ายค่ำคืนวันฮาโลวีนก็วีนแตกสุดขีด การทรมานได้เริ่มขึ้น ความสยองระรานถึงจิตใจ ความดิบที่กินเลือดเนื้อ นี่คือผลงานชิ้นแรกที่บ้าสิ้นดี(หมายถึงความวิตกจริตที่ไม่ด้อยกว่าหนังสยองในตำนานบ้างเรื่องที่หลุดโลกสติแตกเลย)


ด้วยใจความของตัวหนังที่เอาครอบครัวโรคจิตมาใช้เป็นตัวละครร้ายถือเป็นเอกลักษณ์ที่น่าใกล้เคียงกับ The Texas Chainsaw Massacre (1974) มากที่สุด ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกนี้มีการกระทำการล่อเหยื่อที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงตอนจบ(จบจริงๆ)ที่เหมือนจะใช่แบบเดียวกัน ยิ่งถ้านึกไปถึงฉากโดนจับนั่งบนเก้าอี้เพื่อดูเลเทอร์เฟซพร้อมเสิร์ฟอาหารแล้ว การแสดงที่เจาะจงเข้าที่ใบหน้ามันก็ยิ่งชัดเจนจนนึกคิดเข้าหัวในทันที ส่วนที่น่าแตกต่างออกไปคือบรรยากาศที่ดิบคนละแนว

House of 1000 Corpses มีความดิบที่โหดเป็นวิธีการ หรือจะว่าง่ายๆคือพวกครอบครัวโรคจิตนี้มีวิธีรับมือเหยื่อที่คิดหนี หรือคนนอกที่เข้ามาหาความจริงเช่นตำรวจ การเตรียมพร้อมทำให้เป็นอีกเรื่องที่ตัวละครหนีได้ยาก แถมยังถูกจับและจัดการตั้งแต่แรกโดยแทบจะไม่มีการลังเลให้เวลาด้วยซ้ำ ก็ลองมองเหยื่อรายแรกในวัยรุ่นทั้งสี่คนสิจะรู้ได้เลยว่ามันเร็วแบบไม่ให้รอดกันเลย ในขณะที่เหลือนั้นล้วนเป็นการทรมานด้วยความหฤโหดเอาสะใจอยู่ข้างเดียว แม้รูปหลักจะโหดพอตัว แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังไปไม่ถึงที่สุดของความสยองที่หลั่งเลือดเนื้อได้ เพราะเท่าที่เห็นเป็นการแสดงออกทางรูปลักษณ์ของหน้าตาที่ต้องดิบ โหดเสมอ ในขณะที่คำว่าเสน่ห์ยังขาดๆเกินๆอยู่บ้าง ทำให้ดูๆแล้วพวกวัยรุ่นที่พลาดเข้าบ้านผิดหลังแทบไม่มีโอกาสให้รอดเลยสักนิดเดียว


ไม่แปลกใจที่เป็นผลงานชิ้นแรกของผู้กำกับหน้าใหม่ แต่อีกแง่หนึ่งก็ไม่แปลกใจที่หนังจะอยู่สภาพแบบบ้าบิ่นที่มีจังหวะร็อดผสม ในมุมมองโทนของหนังที่เสนอออกมามันดูออกตั้งแต่แรกเริ่มของหนังทันทีว่าต้องมีแต่ความรุนแรงเท่านั้นที่เป็นเหตุผล ก็เห็นกันอยู่ว่าตอนอยู่ที่ร้านปั้มน้ำมันเป็นยังไงบ้าง มีโจรเข้ามาปล้นที่สุดท้ายก็กลายเป็นว่ารนหาที่ซะแทน ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ายังไงดีนอกจากความบ้าๆที่สื่อสารเดี๋ยวรู้เรื่องเดี๋ยวทำเป็นไม่รู้เรื่องเหมือนจะโวยหากันได้ตลอดที่ติดไฟ สรุปกลายเป็นหนังที่มีการบอกถึงเรื่องราวที่ออกจะหดหู่ และน่าผิดหวังที่ไม่ปล่อยให้ตัวละครมีโอกาสรอดได้เลย ด้วยเหตุนี้อารมณ์คงประมาณแบบเอาเถอะยังไงก็ตายอยู่แล้วจะมีอะไรก็รีบๆงัดออกมาให้หมด

เพราะเป็นตัวละครที่มีญาติจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตามสืบหาคนที่หายตัวไป แล้วเชื่อไหมว่าพวกตำรวจในเรื่องมีไหวพริบที่หัวไวดี เริ่มจากสืบคนหายจนไปเจอที่น่าสงสัยอย่างง่ายดาย แต่หัวไวไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเรื่อย เมื่อตัวร้ายมีหนทางรับมือเก็บได้รอบคอบกว่า(อันที่จริงต้องเรียกว่าผิดพลาดทำให้ต้องเก็บมากกว่า) ซึ่งจุดๆนี้จะต่อยอดต่อไปเป็นภาค The Devil's Rejects (2005) ที่ดำเนินเรื่องต่อเกือบจะต่อเนื่องกันที่กลายเป็นว่านายอำเภอที่ฆ่าไปนั้น มีญาติสนิทสายเลือดตามมาแก้แค้น ที่นี่จากสยองขวัญดิบคัลท์กลายเป็นทริลเลอร์ดิบแทนไปทันที แต่ยอมรับอย่างหนึ่งเลยว่ามันคนละแนวอย่างสิ้นเชิง แถมคนออกมาดีขึ้นกว่าของเก่าจนเกือบจะเป็นเรื่องที่ลงตัวมากอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าใครได้ชมเรื่องนี้แล้วยอมรับว่าสยองขวัญโหดแท้แล้ว ถ้าไปดู The Devil's Rejects คงประมาณว่าจากเกลียดเป็นชอบไปเลย


ตัวละครค่อนข้างเกือบจะเยอะอยู่ไม่น้อยที่ค่อยๆหลั่งไหลตัวละครออกมาทีละนิดแล้วมารวม ณ ที่เดียวกันก่อนจะจบลงด้วย...(หาดูก่อนล่ะกันจะได้รู้) ในตัวผู้กำกับ Rob Zombie คล้ายจงใจเอาใจพวกครอบครัวโลกจิตมากกว่าจะเอาใจช่วยเหงื่อรายอื่นๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าหนียังไงก็ไม่พ้น แถมไม่มีความปราณีกันเลยสักนิด จัดว่ารุนแรงต่อผู้หญิงแบบไม่คิดความเป็นลูกผู้ชายเลย กะเอาสะใจกันอย่างเดียว แล้วถ้าถามว่าโหดขนาดเป็นหนังต้องห้ามเลยไหม โอ้อันนี้ขอบอกว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น ความจริงมันก็แค่ประมาณว่าโหดด้วยความรุนแรงเป็นหลัก ไม่ถึงขั้นชวนเสียสติวิปริตจนง้อหัวไม่ขึ้น แต่ก็นะอะไรๆก็ดูจะร้ายแรงไปหมดเลยทั้งที่มันน่าจะมีแฮปปี้กันบ้างอย่างตอนจบที่แบบว่า...นะ

ความสยองอาจจะโหดเกินผิดมนุษย์อยู่บ้างกับความทรมานที่เห็นกันอยู่ ที่น่าชมคือลูกเล่นที่ขนกันเข้ามาจนเรื่องราวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทีแรกคิดว่าเป็นแนวจับทรมานโหดอย่างเดียว แต่พอช่วงหลังๆจะเป็นแนวเอาตัวรอดๆกึ่งไล่ล่าจากบางสิ่งที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน อย่างตอนที่ถูกส่งไปยังห้องใต้ดินแล้วมีพวกอะไรไม่รู้โผล่ออกมา ตรงนี้แหละที่หนังบอกไม่กระจ่างคล้ายช่วงหลังๆจะพาหลุดไปอีกโลกหนึ่งที่มีแต่ความโหดเช่นกันที่โหดมากกว่า

House of 1000 Corpses เอาแต่ความบันเทิงด้านมืดเป็นของหลัก ฉะนั้นอะไรที่คิดว่ามีแสงสว่างเข้ามาลบล้างด้านมืดแล้วล่ะก็ มันคงไม่พอที่จะเข้ามาย่างกร่ายด้วยซ้ำ ยังไงซะผลงานชิ้นแรกยังขาดแก่นเนื้อหาอยู่ดี อะไรที่เกิดรวมถึงเหตุผลอีกมากมายต่างไม่มีการปูให้เข้าใจกันเลย จะมีแต่ความบันเทิงทางโหดอย่างเดียว ซึ่งแนวๆนี้ก็มีอยู่เยอะไป แต่ที่เอาใจได้สำหรับเรื่องนี้คือความสะใจที่ไม่ค่อยลงสูตรหนังสยองขวัญ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)