Robo-geisha (2009)
สวยดุจักรกลสังหาร
Director: Noboru Iguchi
Genres: Action | Comedy | Sci-Fi
Grade: C+
เห็นชื่อผู้กำกับทำให้หลายคนคุ้นกันดีในผลงานก่อนๆกับ The Machine Girl (2008) ที่มาละเลงเลือดกันอย่างจุใจพร้อมหลายๆอย่างที่บ้าเว่อร์ คราวนี้หนังแนวเกรดบีที่ลงทุนไม่เอาสูงกลับมาอีกครั้งในแบบเกอิชาผสมเครื่องจักรที่ดูยังไงก็เว่อร์มากๆแถมเอาฮาอีกด้วยนะเอ่อ
เรื่องราวได้เริ่มต้นที่ครอบครัวหนึ่งที่มีพี่น้องสองคนเป็นหญิงทั้งคู่ ฝ่ายพี่มีชื่อว่าคิกุเอะ (Hitomi Hasebe) ทำหน้าที่เป็นเกอิชาคอยบริการลูกค้าอย่างดิบดี ทว่ากับฝ่ายโยชิเอะ (Aya Kiguchi) ที่เป็นน้องด้วยแล้วกลับมองในฐานะแค่คนรับใช้เท่านั้น ซ้ำโยชิเอะยังถูกฝ่ายพี่เหยียดหยามเสมอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอทำได้แค่เก็บอาการไม่โมโหแสดงอารมณ์ต่อหน้าเว้นแต่ลับหลังที่โกรธสุดขีด แต่วันหนึ่งระหว่างที่คิกุเอะได้ทำหน้าที่เป็นเกอิชาอยู่นั้น เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยจนเป็นต้องสายตาของฮิคารุ (Takumi Saito) ลูกเจ้าของบริษัททำเหล็ก จนคิกุเอะเกิดอิจฉาในตัวน้องสาวตัวเอง ด้านฮิคารุหลังจากเห็นบางอย่างในตัวโยชิเอะจึงนัดหมายสองพี่น้องมาแสดงเกอิชาที่บริษัท แต่แล้วความจริงก็เปิดเผยเมื่อการนัดหมายแสดงเกอิชาครั้งนี้ทำไปเพื่อดึงคนมีความสามารถเข้ามาเท่านั้น เพื่อนำมาฝึกเป็นหน่วยนักฆ่าเกอิชา ทำให้สองพี่น้องที่แต่เดิมไม่ถูกหน้ากันยิ่งทวีคูณแข่งขันกันเองอย่างไม่หยุดหย่อนจนทั้งคู่ค่อยๆเป็นเครื่องจักรทีละเล็กละน้อยก่อนจะมารู้ที่หลังว่าฮิคารุมีแผนจะทำลายญี่ปุ่น ซึ่งนั้นเองที่เป็นการผูกมิตรภาพของทั้งพี่น้องเข้าเอาไว้ด้วยกัน แต่ว่าจะยับยั้งได้หรือไม่นะ
ประเดิมก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้คัลท์จนรุนแรงขนาด The Machine Girl น่าจะเป็นเพราะโทนของตัวหนังที่ให้กลิ่นอายแบบเกอิชาผสมเครื่องจักร และความตลกโป้กฮาแทน จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเอียนกับเลือดเนื้อพาแหวะสมราคาหนังเกรดบีทุนต่ำ แต่ถึงงั้นยังแอบๆใส่ความความโหดเป็นบางฉากที่มีทั้งหน้าเละเพราะนมกรด(นมที่คั้นจากเต้าเทนงู) หรือจะดาวกระจายปลักหน้า ทั้งนั้นต่างสามารถชมได้อย่างสบายตาแบบไม่เครียด เนื่องจากทั้งเรื่องมักประเดิมแบบมุขตื้นๆสไตล์วิถีญี่ปุ่น ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นคงทราบในฉากต่างๆอย่างเช่นมุขฮาๆที่ขยับเทมาเกือบทั้งเรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวหนังจะออกมาเพี้ยนเชิงปัญญาอ่อน แค่ออกมาแนวดูฮาเว่อร์ๆแบบขำขัน ฉะนั้นใครไม่คุ้นเคยมุขแอบขำขันจากญี่ปุ่นอาจไม่เข้าใจในประสงค์ของตัวหนังแล้วพาลบ่นอะไรว่ะก็ได้ ดังนั้นถ้ารู้สไตล์แนวทำนองนี้จะเพิ่มอรรถรสให้น่าสนุกยิ่งขึ้นกว่ามาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะรับลูกเล่นที่เดี๋ยวทีเล่นทีจริงได้มากน้อยแค่ไหนอีกด้วย แต่ว่าทีเล่นทีจริงเกิดจากรูปแบบตัวหนังที่ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน รวมถึงเหตุผลการทำลายญี่ปุ่นที่ละหลวมจนฟังไม่ขึ้น เพราะเป็นทางด้านอารมณ์กับทัศนคติส่วนตัวมากกว่า ผลลัพธ์ที่พอฟังได้จึงกลายเป็นแนวเหตุผลแบบการ์ตูนๆไป
ถ้าเกิดอยากดูแบบยามว่างสบายจิตอาจเป็นเรื่องที่พอรับประทานได้บ้าง เพราะทั้งเรื่องมีผู้หญิงให้มองอยู่หลายคน แม้ว่าส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบแต่งหน้าแต่งตาเป็นเกอิชาแล้วก็ตามที ซึ่งบางคนอาจจะชอบในวัฒนธรรมเช่นนี้แบบเดียวกับคนญี่ปุ่นในแง่ของศิลปะชวนลุ่มลึกก็เป็นไปได้ แต่โดยส่วนตัวขอผ่านเพราะการแสดงของเหล่าสาวเกอิชาทำให้ตัวเองเหมือนโดนยากล่อมประสาทที่อาจหลับเมื่อไรก็ไม่รู้(โชคดีที่ตัวหนังไม่ได้ให้ความสำคัญหรือยื่นเวลาการแสดงให้ยาวนาน ทำเพียงเป็นส่วนประกอบของเรื่องเท่านั้น)
ไม่คัลท์เรื่องความสยอง งั้นเปลี่ยนเป็นเอามันส์แทนล่ะกัน ซึ่ง Robo-geisha มีความโดดเด่นชวนแปลกไม่น้อยในหลายฉากที่แอ็คชั่นว่าจะมันส์ดีหรือพิลึกดี แต่ที่แน่กะเอาเว่อร์ไปทุกโอกาสเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กันด้วยดาบที่ตรงก้นสามารถงอกดาบออกมาได้ มีหน้าอกเป็นปืนกล และบั้นท้ายดาวกระจาย อย่าว่าแต่ความพิสดารตรงจุดนี้เลยเพราะยังมีแม้กระทั่งตัวบอสใหญ่ยักษ์เป็นหุ่นยนต์ถล่มบ้านเมืองเป็นว่าเล่นในท้ายเรื่องที่โชว์กำลังประสิทธิภาพของตัวหนังเองว่ายังมีทีเด็ดที่เจ๋งกว่าซ่อนอยู่ และแน่นอนว่าเทคนิคการถ่ายทำให้มีหุ่นใหญ่ยักษ์ถล่มเมืองไม่ต่างกับหนังประเภทคนส่วมชุดเดินเหยียบเมืองที่พบบ่อยในอุตตร้าแมนหรือก็อตซิลล่า ดูเหมือนว่าเทคนิคอันเก่าแก่เช่นนี้ยังใช้ได้เรื่อยๆมาไม่ปรับเปลี่ยน นอกจากใส่เอฟเฟคเพิ่มเข้าไปให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้นที่เดี๋ยวจะดีหรือร้ายลองหาชมกันดู
มาถึงเรื่องก็เปิดด้วยฉากแอ็คชั่นที่สู้กันอย่างดุเดือดระหว่างเกอิชามีปากเป็นใบเลื่อยกับโยชิเอะ(ในโหมดต่อสู้)ก่อนจะลงเอยด้วยคำถามสะกิดใจโยชิเอะตกลงตัวเองเป็นตัวอะไรกันแน่ และหลังจากนั้นปมในอดีตก็คือหนังตลอดเรื่องราวนี่แหละ อย่างที่รู้ข้างต้นคือโยชิเอะมีพี่สาวเป็นเกอิชาที่พยายามผลักใสน้องตัวเองไม่ให้ก้าวเท่าเทียมตัวเองได้ ทำให้กลายเป็นเสมือนคู่พี่น้องที่กัดกันตลอดเวลาไม่เว้นแม้จะโดนจับให้กลายเป็นสมุนนักฆ่าเกอิชาก็ตาม แต่สถานการณ์ดันเกิดผลิกเมื่อพี่น้องสองคนต้องมาสู้กันเองเพื่อเอาคนเก่งเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ชนะคือโยชิเอะ แต่ก่อนหน้านี้โยชิเอะไม่มีกะจิตกะใจอยากสู้คิกุเอะพี่สาวตัวเองเลยแม้แต่น้อย ทว่าเพราะตัวคิกุเอะเองที่ตัดสินเด็ดขาดขอสู้กำจัดน้องตัวเองดีกว่ายอมตาย ทำให้โยชิเอะโกรธถึงขีดสุดเปลี่ยนไปอีกคนหนึ่งจากที่รักพี่สาวตัวเองกลายเป็นคนที่ชิงชังมุ่งมั่นในตัวเองเพียงอย่างเดียว และหลังจากที่คิกุเอะแพ้นั้นฐานะของตัวเองจึงกลายเป็นได้แค่คนรับใช้แถมยังถูกน้องสาวตัวเองแกล้งหลอกดูหมิ่นเช่นอย่างที่ตัวเองเคยทำมาก่อน นี่ล่ะนะกรรมใดใครก่อกรรมนั้นคืนสนอง ทว่าถึงแม้จะต่างฐานะต่างจากเดิมก็ใช่ว่าความเก่งแย่งจะหายไป ในขณะที่โยชิเอะพยายามฝึกอยู่นั้นคิกุเอะก็หาทางขอฮิคารุเพิ่มความแข็งแกร่งให้จนได้ ในความแข็งแกร่งที่ว่าคือการทำให้ตัวเองเป็นเครื่องจักรเสริมอำนาจสังหารมากขึ้น เมื่อโยชิเอะเห็นพี่สาวตัวเองได้ของดีจึงไม่สนใจร่างกายตัวเองว่าจะเป็นยังไง เพราะในฐานะคนที่ต้องเหนือกว่าต้องเสียแค่ไหนก็ยอม ทำให้โยชิเอะดัดแปลงตัวเองเป็นเครื่องจักรเช่นเดียวกัน และทั้งคู่ยังคงแข่งขันกันเองไม่จบสิ้นจนทั้งสองฝ่ายกลายเป็นเครื่องจักรเต็มตัวที่พร้อมด้วยอาวุธสังหารตามร่างกายภายใต้หน้ากากตัวตนเกอิชา ทว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำเหตุการณ์จึงเปลี่ยนไปอีกแบบที่แม้แต่ฮิคารุยังคาดไม่ถึง
Robo-geisha นำเสนอเนื้อเรื่องในเชิงแง่ประเด็นมิตรภาพระหว่างสองพี่น้องกันอย่างดุเดือดที่ต่างไม่ยอมซึ่งกันและกัน จนต่างผลักใสอีกฝ่ายเพราะคิดว่าอิจฉาในสิ่งดีกว่าตน ฟังอาจจะน้ำเน่าไปหน่อยเพราะเรื่องราวทะเลาะของพี่น้องนั้นสุดท้ายแล้วต้องคืนดีปรับความเข้าใจในท้ายที่สุด แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อตัวหนังพยายามใส่ประเด็นทางใจของทั้งคู่ให้ลึกซึ้ง และทางกลับกันไม่ได้ชวนน่าประทับใจมากเท่าที่ควร เนื่องจากใช้ความเว่อร์กับลูกเล่นมากพอตัวจนกลิ่นอายของหนังออกมาทีเล่นทีจริงจนในโลกของสองพี่น้องที่จริงจังถูกตัดขาดโดยง่าย และตัวผู้ชมเองคงไม่สนใจในจุดนี้อยู่แล้วในเมื่อยังมีความสนุกแบบเว่อร์ๆให้ดูอยู่ฉาก ฉะนั้นประเด็นเรื่องเลือดย่อมข้นกว่าน้ำหรือการทะลาะกันในแง่เสียดสีอะไรนั้นเป็นเพียงตัวช่วยเสริมให้ดูมีมิติมากขึ้น ก็เพื่อเอาไว้กันข้อกล่าวหาที่ตัวหนังมีเนื้อเรื่องไร้สาระ นอกจากนี้ยังแอบมีสาระไปกับการสั่งสอนแบบลูกคนเดียวที่อิงตามเจตนารมย์ของผู้ใหญ่ที่กำลังหลงในอำนาจ ซึ่งก็คือตัวฮิคารุที่ไม่มีพี่น้องใดๆ มีความคิดเป็นของตัวเอง อยากทำโน้นนี้ตามใจจนมีความคิดทำลายญี่ปุ่น ถึงงั้นปมทั้งหลายทั้งหมดยังเบาบางเพราะมัวแต่กับลูกเล่นของเรื่องไปเรื่อย
ความคัลท์น้อยลงไปใช้เอฟเฟคมากขึ้นให้กลมกลืนกับโทนของหนัง โดยส่วนตัวแล้วเรื่องการใช้เอฟเฟคคอมนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ด้วยความไม่สมบูรณ์ในบางฉากจึงรู้สึกแปลกๆอย่างฉากยิงที่ไม่มีแผลที่ตัวสักนิด เหมือนตั้งใจให้มองข้ามมากกว่า เพราะอย่างที่รู้คือไม่มีอะไรจริงในเรื่องเอาขำๆแทน พอนึกถึงมุขตลกแบบชาวญี่ปุ่นทำให้นึกถึงฉากเอากุ้งยัดลูกตาที่เหมือนมีเขางอกซะงั้น จะเอาฮาหรือสยองดีเนี้ย
สำหรับคนไม่คิดมากหวังมาดูเอาเพลินๆไปกับแอ็คชั่นแหวกแนวก็ลองหยิบ Robo-geisha ไปชิมรับรองไม่ผิดหวัง ดูสนุกได้ระดับหนึ่ง เห็นยังงี้มีขาแปลงร่างเป็นรถถังได้ด้วยนะแถมวิ่งไต่ตึกได้สบายๆอีกด้วย แหม่แค่มีหุ่นยนต์ยักษ์ถล่มตึกก็ว่าเว่อร์หนักแล้วนะ นี่ยังไม่รวมถึงรักแร้ที่มีดาบงอกได้ด้วย ที่ฮาสุดเห็นจะเป็นใช้เข่ายิงเป็นปืนได้ด้วย เว่อร์เข้าไป