The Island (2005) แหกระห่ำแผนฅนเหนือโลก

The Island (2005)
แหกระห่ำแผนฅนเหนือโลก
Director: Michael Bay
Genres: Action | Sci-Fi | Thriller

ดอลลี่ โคลนแกะตัวแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการก็อปปี้ตัวเองจากเซลล์เต้านมของแกะอีกตัวหนึ่งในฐานะต้นแบบ มนุษย์เริ่มทดลองสร้างในสิ่งที่พระเจ้าให้ไม่ได้ด้วยการทำให้อยู่นอกเหนือความเป็นไปของกฏธรรมชาติ นั้นคือสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่โดยไม่มีเรื่องการคลอดบุตรมาเกี่ยวข้อง ไร้ซึ่งเพศสัมพันธ์ ไม่แม้แต่การเลี้ยงดูตามลำดับขั้นตอนธรรมชาติ โคลนคือสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่ถ่ายทอดมาจากต้นฉบับเปรียบดังเอกสารที่เซ็นสำเนารับรองว่าถูกต้อง มีทุกอย่างที่เหมือนกับต้นแบบ ตั้งแต่ใบหน้าตลอดจนนิ้วเท้า


เว้นแต่สำนึกการมีชีวิตที่ถูกปลูกฝังมาว่าเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น อยู่กับที่ๆดีย่อมดีตาม อยู่กับสถานที่จอมปลอมย่อมมีสักวันที่พบความจริง โคลนไม่ได้ถูกสร้างเพื่อทดแทนแค่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ เราที่กล่าวว่าเป็นสัตว์ประเสริฐที่สุดในโลกนี้มีอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง ณ ตอนนี้เราสามารถให้กำเนิดชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งแม่ได้แล้ว และต่างมองว่าชีวิตมันไม่ได้ดีแด่อะไรนักหนาสำหรับโคลนที่สร้างขึ้นเป็นผลิตผลในยามฉุกเฉิน โคลนไม่ได้สร้างเพื่อทดแทนตัวตนที่กำลังตาย เราโกงความตายไม่ได้ถ้าสำนึกยังเป็นของเรา

ฉะนั้นมนุษย์อย่างเราๆจึงเลือกคิดเสียว่าโคลนคือสินค้าติดรูปแบบชีวิตที่สักวันต้นฉบับต้องการนำมาเสริมในส่วนที่พังทลาย คนเรามีร่างกายที่เสื่อมตามเวลาจะผิดอะไรเล่าถ้าวันใดวันหนึ่งต้องป่วย เพราะไม่ใช่ธรรมชาติลิขิตจะมีแต่เราที่สร้างปัญหานี่เอง ทุกวันนี้สภาพแวดล้อมถือว่าสดใสน่าชื่นสัมผัส ผิดกับยุคนี้ที่เต็มไปด้วยความระรานจากสิ่งประโลมโลกมากมาย มีแต่ของร้ายๆที่เรียกว่าอบายมุขที่ยิ่งเสพที่พาดับชีวิต สุดท้ายของเหล่านี้ต่างพามาซึ่งโรคมากมายที่ประสบต่อร่างกายจนเสื่อมยิ่งกว่าเวลา แต่จะอะไรซะอีกเมื่อทุกปัญหามีทางออก


แต่ทางออกที่ว่ากันทุกวันนี้เคยจะคิดหรือวงเล็บเอาไว้หรือเปล่าว่าต้องเป็นความถูกต้อง ใช่ทุกคนเข้าใจในทางออกดีและเลือกมันด้วยเจตนารมย์ของตัวเองเสมอทุกครั้ง เหมือนการตัดสินเซ็นสัญญาสร้างโคลนที่เรากำหนดเองว่าจะทำเพื่ออะไร ในยามที่เราพบว่าอวัยวะของเราเสื่อมแล้วเราต้องตายนั้น ทางเดียวที่รอดได้คือการสร้างขึ้นใหม่ บ้านที่เก่าทรุดโทรมต้องรื้อสร้างใหม่จึงจะอาศัยอยู่ต่อได้ ถ้าอยากมีชีวิตที่ยาวกว่าเดิมต้องเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ดีออกไป แล้วเราจะทำยังไงกับร่างกายของเราที่ใช่ว่าจะหาทดแทนกันง่ายๆ

คำตอบคือโคลนนิ่งไงล่ะ สิ่งมีชีวิตที่ถูกถอดแบบตั้งแต่รหัสพันธุกรรมที่ให้กำเนิดร่างกายใหม่เอี่ยมแบบไร้มลทินใดๆจากสิ่งสกปรก แล้วมันยังไงต่อหลังจากได้โคลนที่เหมือนตัวเองแล้ว เราก็นำสิ่งที่บริสุทธิ์กว่ามาแทนสิ่งที่กำลังตายลงในต้นแบบเพื่อให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งที่ดีกว่าเดิม ตอนนี้เราตัดสินใจอะไรไม่ได้แน่ชัดเท่าไหร่ นอกจากว่าตอนนี้มนุษย์อย่างเราๆเริ่มเสื่อม และเคร่งกับการมีชีวิตมากเกินไปจนรับรู้ความตายเป็นเพียงตัวตลก เพราะพวกเขาโกงได้ แต่โกงความผิดพลาดที่ถือกำเนิดโคลนไม่ได้หรอก ตอนนี้เรากำลังวิทยาการที่ก้าวล้ำมากขึ้น ทางกลับกันคุณค่าทางจิตใจกำลังไต่ระดับลงเรื่อยๆจนไร้สามัญสำนึกไปซะแล้ว


ในอนาคตอันใกล้  ลินคอล์น ซิกซ์-เอ็กโค (Ewan McGregor) ตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้ายของตัวเองที่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับเขาบนเรือที่ไม่รู้ว่ากำลังไปแห่งใด แต่กลายเป็นว่าความสุขได้หายไปเพราะเขาจมน้ำ แล้วพบว่าตัวเองอยู่ในที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาอยู่มาได้ 3 ปีแล้ว สถานที่แห่งนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อรวบรวมผู้รอดชีวิตจากภาวะปนเปื้อนจากโลกภายนอกที่เลวร้าย ที่นี่เต็มไปด้วยคนมากมายนับพันที่อาศัยอยู่ตามอัธยาศัยอยู่กันอย่างสบาย มีเสื้อผ้าพร้อมให้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องทำงานซักเสื้อผ้าให้สะอาดในตู้เก็บให้เสมอ มีบริการตรวจสุขภาพตั้งแต่ตื่นยันนอนแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย เวลาหิวจะมีอาหารให้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่พอเหลือ รวมถึงสิ่งต่างๆมากมายที่อยู่แบบไม่มีเงินตรา ไม่มีค่าแลกเปลี่ยน ทุกสิ่งสรรหามาพร้อมฟรีทุกอย่าง ที่แห่งนี้เสมือนความสบายที่หาแบบที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แต่พวกเขาต้องทำตามกฎของสถานที่ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่ห้ามใกล้ชิดเพศตรงข้ามจนมากเกินไป ต้องทำตามระเบียบเวลาทำงาน ห้ามเกิดการทะเลาะวิวาท หรือกระทั่งแอบหนีไปตามที่ห้วงห้าม ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะทำไม่ได้ เพราะที่นี้มีทุกอย่างพร้อมจะเกิดบอกปฏิเสธ ทุกคนอยู่อย่างสบายแบบไม่คิดมากต่ออนาคตของชีวิตที่ปลอดภัยอยู่แล้ว แต่เวลานั้นมาถึงทุกคนจะลืมที่แห่งนี้ไป เนื่องจากจะมีเวลาช่วงหนึ่งที่เรียกว่าจับสลาก ผู้ที่ถูกเลือกจากคนในกลุ่มหนึ่งรายจะได้ไปยังสถานที่ใหม่ที่หลายคนใฝ่ฝัน ที่นั้นเรียกว่าเกาะสวรรค์ ที่ๆสวยงาม เป็นสถานที่เดียวที่ไร้สารปนเปื้อนใดๆเข้ามา ด้วยธรรมชาติเกาะริมทะเลทำให้หลายคนต่างภาวนาว่าสักวันคนที่ถูกเลือกน่าจะเป็นเราบ้าง

ที่นี้ไม่มีอะไรใหม่นอกจากการเจอผู้รอดชีวิตจากสารปนเปื้อนที่พบเป็นประจำ บ้างเหมือนคนปกติ บ้างกลายเป็นเด็กแรกเกิดที่เรียนรู้ใหม่หมด ก็ไม่รู้ว่าโลกข้างนอกเลวร้ายแค่ไหน แต่ลินคอล์นยังแอบคิดในใจว่าเพราะอะไรหลายสิ่งหลายอย่างดูสมเหตุผลมากเกินไป ทำไมต้องใส่เสื้อผ้าสีขาวสีเดียว คนที่ทำความสะอาดคือใคร ทำไมต้องมียามเฝ้าระวังตลอดเวลา ลินคอล์นคิดหลายสิ่งหลายอย่างจนกระทั่งเขาไปเจอสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งเป็นแมลง ถ้าว่ากันตามจริงแมลงน่าจะตายไปหมดแล้วในภาวะสารปนเปื้อนของนอกนั้น แต่นี่เปล่าเลยมันยังบินได้ แล้วมันมาจากไหน นี่เป็นคำถามในใจของเขา และเขายังคงเก็บความลับนี่เอาไว้ก่อนในภาชนะขวดแก้ว นั้นยิ่งเป็นตัวจุดประกายความสงสัยของเขามากขึ้นไปอีกจนยอมเสี่ยงทำเรื่องแหกกฎกว่าที่เคย ซึ่งนั้นทำให้เห็นความหมายที่แท้จริงของเหาะสวรรค์ว่าคืออะไร ดินแดนที่สวยงามไร้ที่ติแท้จริงมันไม่ได้มีอยู่จริงตั้งแต่แรก และคนที่ถูกเลือกก็ไม่ได้กลับมาชีวิตแสนสุขอีกครั้ง ลินคอล์นเห็นสิ่งเหลือเชื่อกับตาของตัวเอง ทำให้เริ่มเข้าใจแล้วว่าเกาะสวรรค์สถานแห่งความสุขมันคือความตายดีๆนี่เอง สำหรับเขานี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนตายต่อหน้า แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องทำแบบนี้ มันเพราะอะไรล่ะ ถึงลินคอล์นจะไม่เข้าใจดีพอ แต่ด้วยสัญชาตญาณกำลังบอกว่าที่นี้ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว และตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะลองดูกับแมลงที่จับได้ แต่การจะหลบหนีไปเขายังคงระลึกได้ว่ายังมีคนที่เขาต้องพาไปด้วยคือจอร์แดน ทู-เดลต้า (Scarlett Johansson) ซึ่งเธอคือเพื่อนที่สนิทกับเขามากที่สุด และยังเป็นผู้ถูกเลือกไปเกาะสวรรค์ เขาจึงไม่รีรอให้เกิดเรื่องร้ายๆแบบนั้นอีกแล้ว ทำให้พวกเขาไปตามทางที่แมลงออกไป ตอนนี้เขาหลบหนีไปข้างนอกได้แล้ว


การออกไปของลินคอล์นกับจอร์แดนกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที เพราะไม่คาดว่าลินคอล์นจะมีความสามารถลักลอบหนีได้ขนาดนั้น จึงทำให้ดร.เบอร์นาร์ด (Sean Bean) ต้องตามล่าพวกเขาก่อนจะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างต้องพัง อีกทางหนึ่งทั้งตัวลินคอล์นกับจอร์เองยังต้องเจอกับปัญหาชิ้นใหญ่ เมื่อพวกเขาไม่เคยรับรู้เรื่องภายนอกแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคือการถูกปลูกฝังในที่ๆเดิมจึงกลายเป็นเรื่องตื่นตัวกับสถานที่แห่งใหม่ เช่นเด็กตื่นโลกที่ยังขาดประสบการณ์ นอกจากต้องหนีจาการถูกไล่ล่าแล้ว ยังต้องหาความจริงหลายอย่างที่แม้แต่ตัวเองเท่านั้นที่ให้คำตอบได้ คำตอบคือ"เรายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป"

พล็อตเรื่องโคลนนิ่งเพื่อสร้างอวัยวะที่ดีกว่ามาชดเชยอวัยวะที่เสื่อมแล้ว ไม่ใช่เนื้อเรื่องใหม่อะไร เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องต้องห้ามอยู่แล้วกับวงการวิทยาศาสตร์ที่ให้แง่คิดที่ว่าโคลนคืออวัยวะใหม่ที่สามารถทดแทนกับเซลล์ต้นทาง ซึ่งจะผิดหลักทางด้านมนุษย์ธรรมอย่างมากที่มองว่าโคลนคือยารักษาเคลื่อนที่ ที่เรายึดมาได้แบบไม่ต้องห่วงเรื่องชีวิตของโคลนว่าเขาคือมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่กินได้อย่างเราๆ อีกทางคือการสร้างกองทัพ ในแง่ของการเพิ่มจำนวนคนๆเดียวเป็นสิบเป็นร้อยอาจทำได้ไม่ยากถ้าวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าขึ้นทุกวัน และเป็นไปได้อีกว่าถ้าโคลนนิ่งเกิดขึ้นได้อย่างไม่ผิดศีลธรรมด้วยแล้ว โอกาสสองอย่างข้างต้นย่อมเกิดได้อย่างสบายๆ แต่เพราะสมัยที่เปลี่ยนไปจากยุคเก่าแก่ การทำสงครามอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจอีกต่อไป เนื่องจากสงครามต้องมีการสูญเสีย และการสูญเสียนี่เองที่เป็นผลพลอยเกิดด้านลบมากมายที่ล้วนแต่เสี่ยงถ้าแพ้สงคราม หรือชนะสงครามแต่ผลลัพธ์ไม่สวยหรู ตอนนี้การโคลนถูกสร้างขึ้นเพื่อธุรกิจ เพราะมันตรงใจลูกค้าเรื่องอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ใครที่มีโรคร้ายป่วยสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำสิ่งที่ดีกว่าในตัวโคลนมาใส่


ตัวหนังค่อนข้างมาถูกทางพร้อมความน่าสนใจในการค้นหาความหมายของคำว่าอยากมีชีวิต ที่ให้ลินคอล์นเริ่มตั้งคำถามในความสงสัยของชีวิตตัวเองที่ทำไมถึงต้องมายึดติดกับสถานที่สะดวกสบายแห่งนี้โดยไร้เป้าหมาย จนเขาได้เจอสิ่งที่เป็นแรงขับดันตัวเองเกิดการอยากลองในสิ่งที่กฎห้ามเอาไว้ จนได้เจอเจอเรื่องไม่ได้เชื่อแล้วเป็นเหตุให้ต้องหลบหนีในที่สุด เรื่องโคลนหลบหนีเพราะไม่อยากตายไม่ใช่เรื่องแปลก เว้นแต่ว่าการเพิ่มเนื้อเรื่องให้น่าสนใจ มีแรงดึงดูดมากขึ้น คือความละเอียดที่มีในเรื่องนี้

ที่ว่าพล็อตเดิมแต่รายละเอียดใหม่คือการจำลองรูปแบบการมีชีวิตของโคลนขึ้นมา โดยอ้างเหตุผลว่าพวกคุณคือกลุ่มคนที่รอดชีวิตมาได้จากภาวะสารปนเปื้อนที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลก โดยพวกโคลนนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข สบาย เรียกได้ว่าอยู่ดีกินนอนเหมือนคนรวย ไม่มีงานหนักให้ทำ เว้นแต่ว่าต้องเข้มงวดกับสุขภาพของตัวเองที่มักจะมีการแจ้งเตือนเวลาพบสิ่งผิดปกติ ตัวหนังพยายามอธิบายผ่านตัวลินคอล์นเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้อย่างละเอียดตั้งแต่ตื่นนอนตลอดจนได้เข้านอน รวมถึงการแนะนำตัวละครต่างๆบางตัวช่วยเพิ่มให้ดูมีชีวิตมากขึ้น อย่างจอร์แดนที่เขาสนิทมากที่สุดในเรื่อง สังเกตได้จากพฤติกรรมความใกล้ชิดที่พบปะเป็นประจำ ช่วงแรกของหนังเรายังเชื่ออย่างที่ลินคอล์นกับคนอื่นๆเชื่อว่าเป็นแบบนั้น ที่แห่งนี้คือความสะดวกที่ปลอดภัย มีการดูแลที่ดีเยี่ยม จนกระทั่งลินคอล์นฝันในเรื่องที่เขาเองยังตอบไม่ได้ว่าคืออะไร เขาเห็นเรือที่ลอยบนทะเล น่าแปลกที่ตัวเขาเองยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร นอกจากนี้ในใจยังมีคำถามหลายอย่างที่เขาอยากรู้และได้คำตอบมาให้ได้ จึงบ่อยครั้งที่ชอบออกไปหาเจมส์ (Steve Buscemi) ที่ทำหน้าที่ซ่อมเครื่อง โดยไม่ให้ใครรู้ได้เพราะเป็นกฎ ทำให้ลินคอล์นได้รับรู้บางอย่างเล็กมาจนเกิดอาการสงสัยหลายเรื่องที่เจมส์มักหลุดปากพูดออกมา อย่างพระเจ้า ลินคอล์นไม่รู้ว่าพระเจ้าคืออะไร มีความหมายหน้าตาเป็นยังไง หรือแม้แต่รูปเปลือยที่เขาเห็นไม่รู้ว่าคืออะไร นอกจากสงสัยเพียงอย่างเดียวว่าเสื้อผ้าพวกเขาหายไปไหน ลินคอล์นมีสภาพการเลี้ยงดูไม่ต่างจากเด็กน้อย เขารู้ได้แค่เท่าที่ได้รับรู้เท่านั้น นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอธิบายเรื่องนอกเหนือที่เขาสงสัยไม่ได้ เช่นเดียวกับที่ตอนพบแมลงที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ได้ และมันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน และแน่นอนว่าเขาไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ มันต้องมีคำตอบซ่อนอยู่ คำตอบที่มาจากข้างนอกนั้นที่อาจจะใช่ก็ได้


The Island มีจุดการเล่าเรื่องในช่วงแรกที่หลายคนคงพาลบ่นในใจว่ายืดยาด อืด เสียเวลา เมื่อไหร่จะถึงเวลาที่พระเอกหนีเสียที เชื่อว่าหลายคนที่คิดแบบนี้ตั้งค่าความหวังในตัวผู้กำกับ Michael Bay มากเกินไปในส่วนของแอ็คชั่น เพราะเดิมทีผลงานเก่าๆต่างล้วนเป็นสายแอ็คชั่นเร้าใจตื่นตาแบบได้อารมณ์อย่างผลงานสร้างชื่อ Bad Boys (1995),The Rock (1996) และ Armageddon (1998) ที่ต่างฝากฉากลุ้นระทึกแอ็คชั่นเอาไว้แบบเต็มอิ่มแถมยังให้อารมณ์แฝงความดราม่าเอาไว้ชวนประทับใจ ซึ่งการดำเนินเรื่องไม่ได้ช้าอย่าง The Island ที่กัดกินเวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงจึงจะหนีได้ ซึ่งหลังจากนั้นความสนุกจึงจะเกิดขึ้นกับฉากแอ็คชั่นที่โหมแบบมันส์ สะใจ ในเรื่องของแอ็คชั่นยอมรับว่ายังวางมุมกล้องได้แม่นในหลายๆจังหวะ รวมถึงภาพที่ถ่ายทอดมุมมองได้สวยงาม ที่น่าประทับใจคือดนตรีประกอบที่คล้ายกำลังบ่งบอกถึงดินแดนแห่งใหม่ เต็มไปด้วยการค้นหา และความหวัง อีกทางหนึ่งคล้ายกำลังบอกความงดงามกับสิ่งที่ยังไม่รู้มาก่อนในชีวิต อีกอย่างคือถ้าแอ็คชั่นคือสายที่ตัวเองถนัดด้วยแล้ว เรื่องการเร้าอารมณ์ก็ถือว่าช่วยได้มากเวลาจะหนังจะจบ เห็นได้จากผลงานก่อนๆอย่าง The Rock ที่ใช้เกียรติของทหาร ความผูกพันมาใช้ในเรื่อง พร้อมกับดนตรีประกอบที่อินกับฉากอย่างเหลือเชื่อ หรือจะ Armageddon ที่ดึงความรักความสัมพันธ์ออกมาจนซึ้งได้อย่างน่าประทับใจพร้อมกับตอนจบที่หลายคนรู้สึกได้จากการเสียสละ สิ่งสำคัญของผู้กำกับ Michael Bay คือการทำให้พวกเราอินกับตัวละคร มีความใกล้ชิด และเข้าใจในปมเด่นปมด้อยเพื่อให้เราความผูกพันกับตัวละครนั้นก่อนจะลงฉากแอ็คชั่นตามลำดับที่แล้วแต่จะมากน้อย แต่ยังไงผู้ชมต้องรู้สึกและสัมผัสได้ในอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครอย่างแน่นแฟ้นแน่นอน

ฉากแอ็คชั่นอาจจะมาน้อยไปหน่อย แต่ที่ว่าน้อยไม่ได้วัดกันด้วยนาทีเพียงเป็นจำนวนครั้งที่เกิดความมันส์ขึ้นมา หลังจากหลบหนีไปโลกภายนอกสำเร็จแล้วยังต้องมานั่งฟังเจมส์พูดเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ไม่รู้ว่าประสบการณ์เด็กน้อยทั้งสองคนจะเรียนรู้ทันหรือไม่ แต่ที่แน่คือเป็นจังหวะของหนังที่เรากำลังรู้สึกน่าฟัง มีคำพูดเชิงประชดประชัน และมุขตลกที่พอทำเราหายเบื่อในช่วงแรกที่ผ่านมาได้ โดยอย่างยิ่ง"เวลาเราจะกินแฮมเบอร์เกอร์ ไม่ได้แปลว่าเราจะอยากเห็นวัว" เปรียบกับมนุษย์คงประมาณว่าเราเห็นสิ่งที่ต้องการมีคุณค่ามากกว่าชีวิตที่มีค่ายิ่งกว่า แน่นอนว่าเราอาจจะทึ่งไปเลยที่รู้ว่าลินคอล์นกับจอร์แดนคือโคลนนิ่งที่รอวันมอบอวัยวะ แต่จะทึ่งได้ตอนที่ไม่ได้รู้เรื่องย่อหรอกนะ ไม่งั้นเราอาจจะตั้งความหวังอย่างที่กล่าวข้างต้นว่าเมื่อไหร่จะถึงฉากหนีสักทีจะได้มันส์เร็วๆ กลับมาที่พวกเรื่องแอ็คชั่นกันว่าจะเด็ดแค่ไหน ตอบได้ว่าไม่ผิดหวัง ทั้งมุมกล้อง จังหวะ รวมถึงไอเดียเรื่องระเบิดระเบ้อที่ให้อารมณ์ได้อย่างสะใจ(ถึงจะชวนแอบเว่อร์ไปนิด) แต่ที่เด็ดจริงคือตัวละครของเราไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัว ถึงจะหนีไปได้ก็ใช่ว่าจะหนีไปซะเฉยๆ เพราะเมื่อได้รู้ว่าข้างในกับข้างนอกเป็นยังไง  ทำให้เขาเลือกจะเห็นคุณค่าของชีวิตกับคนอื่นๆ


หลังจากหลบหนีรอดมาได้อย่างเหน็ดเหนื่อย(แม้จะเป็นการดูฟลุ้คไปหน่อย) ความคิดเด็กๆในตัวของลินคอล์นทำให้เขาคิดว่าการทำประกันชีวิตนั้นไม่น่าเป็นที่เปิดเผยถึงตัวลูกค้าได้ โดยอย่างการทำโคลนนิ่งขึ้นมา เพราะมันเป็นเรื่องเห็นแก่ตัวที่ผิดศีลธรรมเกินไป จึงพยายามหลบหนีเพื่อไปบอกความจริงกับตัวเขาอีกคนที่เป็นตัวต้นแบบให้กำเนิด ทว่าการไปบอกความจริงมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือลินคอล์น(ตัวจริง)กลับไม่ได้รู้สึกสะเทือนในการบอกเล่าของลินคอล์น(โคลน)เลยสักนิด เพราะอะไรนะเหรอ? ลองคิดสิว่าถ้าลินคอล์น(ตัวจริง)ยอมช่วยเปิดโปร่งความลับนี้ออกไปสู่โลกภายนอก ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่องค์กรนี้เท่านั้นที่พังยับเยินแต่รวมถึงเขาที่เป็นลูกค้าทำประกันชีวิตที่จำเป็นต้องอาศัยอวัยวะจากลินคอล์น(โคลน)เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปต้องพลอยสูญเสียสิทธิ์ไปด้วย เนื่องจากถ้าเรื่องโคลนถูกสังคมรู้เข้า โอกาสที่จะยืดชีวิตอยู่ต่อไปจะไม่มีอีกแล้วกับอวัยวะที่หาทดแทนได้ สุดท้ายลินคอล์น(ตัวจริง)ไม่เลือกช่วยเปิดความลับนี้ และยังคิดด้วยว่าตัวเองยังต้องมีชีวิตต่อไปอีกด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์อีกครั้ง ไม่ใช่ตายเพราะโรคร้าย

นอกจากความเห็นแก่ตัวแล้วยังแสดงถึงเหตุผลการยึดครองชีวิตอีกด้วย ตอนที่ลินคอล์น(โคลน)ยังอยู่ในสถานที่ดังกล่าว เขาได้พบชายคนหนึ่งที่พอออกมาโลกภายนอกพบว่าคือนายก แสดงว่าไม่ใช่แค่คนรวยเท่านั้นแต่ยังรวมถึงคนมีอิทธิพลอำนาจที่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก ในที่นี่หมายถึงคนมีตำแหน่งคือนายกที่มีอำนาจครอบครองประเทศ แต่ยังไงยังคงรักตัวกลัวตายและโลภมาก ขนาดผู้นำประเทศยังใช้บริการได้อย่างใสซื่อ เท่ากับว่าเป็นช่วงเวลาของสังคมที่กำลังถดถอยเรื่องศีลธรรม ถึงแม้ในโลกกว้างจะเจริญด้วยวิทยาการก้าวล้ำมีเครื่องมือที่ไฮเทคแค่ไหน ในจิตใจความเป็นคนไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเลย ซ้ำยังตีค่าความรู้สึกเป็นเพียงธุรกิจที่กอบกำไรมหาศาลจากโปรเจ็คสร้างโคลนที่ใช้หน้าตาว่าเป็นหน่วยประกันชีวิตช่วยเหลือสังคม ในแง่การช่วยเหลือไม่ต่างกับการพาโคลนไปเกาะสวรรค์ที่ลงเอยด้วยการตายอย่างไร้เหตุไร้ผล และไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมด้วยแท้จริง


คนเราอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปจึงต้องเอาชีวิตคนอื่นมาแลก ถามว่าคุ้มแล้วเหรอในเรื่องแบบนี้ ในยุคที่สร้างโคลนได้ทำไมจะทำไม่ได้ เรื่องการทดลองนั้นมนุษย์เราไม่แคร์เรื่องชีวิตอยู่แล้วตั้งแต่นำหนูมาลองโน้นลองนี้อย่างสบายใจ เพราะว่าหนูพูดให้เราเข้าใจไม่ได้ ในความเป็นจริงพวกหนูอาจกำลังภาวนาอ้อนวอนว่าอย่า...หรือได้โปรด...ก็เป็นได้ ซึ่งกรณีเดียวกับที่ลินคอล์นเจอโคลนที่ได้ไปเกาะสวรรค์แต่อยู่ในห้องผ่าตัดกำลังเปิดหน้าอกเพื่อนำหัวใจออกไป ทว่าโคลนคนนั้นได้สติฟื้นขึ้นมาก่อนจะถูกควักพร้อมบาดแผลหน้าอกพร้อมกับโวยวายในความเจ็บปวดแบบไม่ไม่คยเจอมาก่อน แต่กระนั้นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้คือการขอให้ไว้ชีวิตเพราะยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก ถ้าโคลนที่ถูกปลูกฝังมากับเรื่องโกหกมากมายแล้วทำไมยังเข้าใจในเรื่องการอยากมีชีวิตอยู่ล่ะ ทำไมพวกเขาไม่รู้สึกสิ้นหวังหรือเกลียดชังตัวเองไปซะยังดีกว่าที่โดนหาว่าเป็นได้แค่โคลนจอมปลอมที่ถูกก็อปออกมา ก็ไม่รู้ไม่ทราบว่าทำไม ที่ตอบได้คือสัญชาตญาณสอนกันไม่ได้ และมนุษย์ยังคงถูกเรียกว่าสัตว์ชนิดหนึ่งที่ยังไงต้องการใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปแม้จะไร้หนทางในชีวิตก็ตามแต่ ฉะนั้นเรื่องที่เราทำอยู่ยังเหมาะสมกับการเป็นคนพอหรือไม่ ในเมื่อเราได้ฆ่าคนที่เป็นมนุษย์เชื้อสายพันธุ์เดียวกับตัวเอง ลองถามตัวเองดู

ถ้าจะว่าตามตรง The Island มีเนื้อเรื่องที่เสียดสีความเป็นคนอยู่ไม่น้อย แต่เสียดายที่ว่าสาระตรงนี้ยังแผ่วไปหน่อยในท้ายเรื่องที่ลงเอยกลายเป็นแอ็คชั่นเอามันส์เสียมาก แนวคิดเชิงปรัชญาที่ตัวหนังถ่ายทอดออกมาจึงแลดูเบาบางกลืนหายไปกับเสียงปืน เสียงระเบิดซะมาก แต่ดีคือยังพยายามใส่เนื้อหาให้น่าสนใจออกมาบ้าง แม้จะลงสรุปได้ไม่หมดก็ตามที ทางนักแสดง Ewan McGregor สามารถรับช่วงต่อกับตัวเองได้ดี(ในเรื่องต้องเล่นทั้งตัวจริงกับโคลน ที่นิสัยกับสำเนียงการพูดไปคนละอย่าง) และยังรับส่งบทต่อกับนักแสดง Scarlett Johansson ได้เข้าขา น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องหนักไปทางตัวลินคอล์นมากไปหน่อยจึงไม่ค่อยได้เห็นจอร์แดนที่เล่นมากนัก แต่ช่วยให้ตัวหนังมีมิติเพิ่มขึ้นได้ดีไม่น้อย และในเรื่องเธอยังสวยกินใจไม่เปลี่ยน โดยรวมแล้วเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)