Night of the Living Dead (1990) ซากดิบไม่ต้องคุมกำเนิด

Night of the Living Dead (1990) | ซากดิบไม่ต้องคุมกำเนิด
Director: Tom Savini
Genres: Horror

จะว่าเป็นชื่อไทยที่ตั้งได้แปลกดีนะ อารมณ์ประมาณจะฮาดีหรือไม่ฮาดีก็ดูเอาล่ะกันกับคำว่า"ไม่ต้องคุมกำเนิด" คือซอมบี้มันไปเกี่ยวอะไรกับคุมกำเนิด?! แต่ประโยคมันฟังลื่นดีนะไม่ชวนขัดหู นึกแล้วก็งงกับตัวเองที่ฟังดูแปลกแต่ไม่คิดว่าจะน่าแปลกตรงไหน(อะไรของเองเนี่ย) สรุปไปดูหนังกันเถอะไร้สาระพอสมควรล่ะ


"มันคือเรา เราคือมัน มันคือเรา"

เรื่องได้เปิดที่ 2 พี่น้อง คือจอห์นนี่ (Bill Moseley) กับบาบาร่า (Patricia Tallman) ที่ทะเลาะกันตลอดทางระหว่างนั่งรถเพื่อไปเยี่ยมสุสานแม่ ก่อนจะเซอร์ไพร์สไปเจอซอมบี้ไล่งับจนเหลือบาบาร่าเพียงคนเดียวที่รอดมาได้ ซึ่งเธอได้วิ่งไปเจอกับบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเธอได้พักอยู่ที่นั้นสักระยะก่อนจะมีแขกมาเยือนเพิ่มอีกคนคือเบน (Tony Todd) แต่เหมือนเรื่องราวยังไม่หมดที่แค่หญิงหนึ่งชายหญิง เพราะเวลาต่อมาได้เจอผู้รอดชีวิตเพิ่มเข้ามาอีกหลายคน ทว่าเรื่องราวดูแทนที่จะดีขึ้นกลับตรงข้ามเพราะความวุ่นวายของเจ้าซอมบี้ที่พยายามบุกทลายเข้าบ้านให้ได้ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นใหญ่หลวงเกินตัวเมื่อคนที่รอดชีวิตดันมาทะเลาะกันเองจนสร้างความวุ่นวายกันตลอด สุดท้ายอะไรๆที่น่าจะดีขึ้นจากคนที่มากขึ้นเพื่อช่วยกันกลายเป็นชุลมุนสร้างปัญหา แล้วแบบนี้หายนะที่รออยู่นอกบ้านที่กำลังใกล้เข้ามาจะยับยั้งไม่ให้ถูกกินได้ยังไงกัน

พล็อตเรื่องคงเส้นคงวาจากต้นฉบับปี 1968 ที่ใช้บ้านเป็นจุดศูนย์กลางที่พักพิงในการรวมตัวละครทั้งหมดเอาไว้ก่อนจะมีฝูงซอมบี้ย่างกรายเข้ามาทีละตัวสองตัวก่อนจะมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ซึ่งความแปลกใหม่ระหว่างต้นฉบับกับรีเมคประการแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องของภาพ ของดั้งเดิมจะเป็นภาพขาวดำแยกไม่ค่อยออกว่าใครเป็นใครนอกจากเริ่มรู้พฤติกรรมว่าใครยังเป็นคนอยู่ ทั้งยังเป็นอารมณ์แบบหลอนๆกดประสาทไปในตัวด้วย ส่วนของฉบับนี้คือภาพสีที่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของยุคสมัย ดังนั้นอะไรที่ดูไม่ค่อยออกในฉบับเก่าจะชัดเจนในฉบับนี้ ประมาณว่าเลือดเป็นเลือด เนื้อเป็นเนื้อ สีแดงข้นๆชวนพาแหวะได้ตามสไตล์คอหนังโหดสมัยใหม่ที่ต้องมีความรุนแรงผสมเป็นประปราย ที่สำคัญเป็นงานชิ้นแรกของผู้กำกับ Tom Savini ที่เดิมทีเป็นมือเมคอัพมาตลอด งานนี้จึงเป็นงานที่ค่อนข้างหนักพอตัว แต่โชคดีที่ได้โปรดิวเซอร์ดีคุ้นเคยกับประสบการณ์หนังเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ George A. Romero ผู้ให้กำเนิดต้นฉบับอันขลึงขลังจนได้ฉายา"เจ้าพ่อหนังซอมบี้"มาในภายหลัง นับว่าการโดยรวมยังพอมีเค้าความเดิมอยู่บ้าง โดยอย่างยิ่งในทางเสียดสีที่ไม่ได้จางหายกลายเป็นเอาโหดอย่างเดียว


คล้ายกับว่าสิ่งที่เราเห็นได้จากการดำเนินเนื้อเรื่องตลอดทั้งเรื่องคือความสามัคคี การคุมสติให้ใจเย็น และความรอบคอบอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากตั้งแต่เปิดเรื่องมาเรายังไม่ได้มีโอกาสได้พักผ่อนไปกับตัวละครเลยสักนิดที่ดันมาทะเลาะกันทั้งเรื่องเพียงแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง แสดงให้เห็นแล้วว่าเวลาคับขันเกิดขึ้นความเห็นแก่ตัวจะแรงมากยิ่งขึ้นด้วยกัน ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้แสดงผ่านได้ชัดเจนผ่านตัวละครแฮร์รี่ (Tom Towles) ที่กลายเป็นคู่กัดคุ่ทะเลาะกับเบนทั้งเรื่อง

ส่วนบาบาร่าได้กลายเป็นคนกลางที่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนแน่ชัดนักจนท้ายเรื่องที่บอกสรุปได้อย่างสะใจนึกว่าเธอรู้สึกยังไงกับแฮร์รี่ ถ้าว่ากันตามตรงแล้วในภาวะเช่นนี้สิ่งแรกที่คนเรามักจะเป็นคือความกลัวที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะรอดได้ไหม กลัวอันตรายจะมาคุกคาม ดังนั้นบ้านจึงเสมือนกับแหล่งหลบภัย(ชั่วคราว)ที่กั้นระหว่างคนเป็นกับคนตาย ทว่าบ้านที่ไร้ซึ่งความแน่นหนาจึงเป็นเหตุให้เกิดการสร้างกำแพงปิดหน้าต่างปิดประตูเพื่อไม่ให้ซอมบี้พังทลายเข้าบ้านได้ แต่เหมือนการทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างกับขังตัวเองไว้ข้างในที่ไม่แน่ว่าจะออกไปได้ด้วยเช่นกัน อีกมุมมองหนึ่งการขังตัวเองเอาไว้ในบ้านที่ไม่สมบูรณ์พร้อมแล้วยังมีศึกภายในที่ย่ำแย่ไม่ต่างจากภายนอกคงไม่ต่างกับประเทศชาติที่รับศึกจากภายนอกที่ขาดความเป็นระเบียบจากภายในจนไม่ดูตัวเองเลยว่าควรจัดการกับศึกไหนกันอย่างไร้สติรอบคอบ


ดังนั้นอันตรายที่อยู่รอบตัวยังน้อยกว่าอันตรายที่อยู่ใกล้ตัว เพราะในเรื่องซอมบี้มีการเคลื่อนที่ที่ช้ามาก บาบาร่ายังเอ่ยปากบอกให้ทุกคนออกจากบ้านดีกว่าให้พวกมันทยอยเข้าหาบ้าน เพราะพวกเราวิ่งผ่านมันได้ อันที่จริงเดินผ่านยังได้เลยด้วยซ้ำ แต่แล้วไงล่ะในเมื่อทุกคนยังกลัวไม่กล้าลองเผชิญกับหนทางที่รู้ว่าทำได้แต่ไม่ทำ สุดท้ายบ้านคือที่หลบภัยจากอันตรายภายนอกที่ค่อยๆถูกกัดกินจากภายในเพราะอันตรายใกล้ตัวอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ก็นับว่าจุดประสงค์ที่ George A. Romero ทำเอาไว้ไม่ได้จางหายไปหมดในเรื่องการทำหนังซอมบี้เพื่อแสดงค่านิยมของสังคมว่าจริงๆมันเลวร้ายยิ่งกว่าพวกเชื้อซอมบี้เสียอีก ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังคงเล่าผ่านเรื่อยมาในตระกูลหนัง of the Dead ของ George A. Romero ตลอดเวลาแม้ว่าภายหลังจะเริ่มไม่เป็นที่นิยมซะแล้วเพราะความสมัยใหม่ที่ดัดแปลงซอมบี้ให้เก่ง คล่องแคล้ว และฉลาดมากขึ้น ซึ่งสังเกตเริ่มได้จาก The Return of the Living Dead (1985) ที่นอกจากจะทำให้วิ่งได้บ้างแล้วยังพูดได้คิดเป็นจนไม่ได้โง่งมเช่นของเดิมที่เป็นหุ่นชักใยไร้ความคิดมีแต่กระหายอย่างเดียว ถึงอย่างนั้นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคงไม่พ้นพวกเราที่เป็นมนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละ


ในท้ายเรื่องเราจะเห็นว่ากลุ่มพวกที่รอดชีวิตใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนานด้วยการยิงซอมบี้เหมือนของเล่นด้วยการมาแขวนคอไว้ที่ต้นไม้แล้วปล่อยตามนั้นอย่างไร้เยื่อใยทั้งที่อดีตเคยเป็นคนไม่ต่างกับเรา ซึ่งในฉากนี้ใน Night of the Living Dead ต้นฉบับเดิมมีฉากนี้อยู่แต่ถูกตัดไปเนื่องจากเหตุผลความมั่นคงของประชาชาติ จะว่าไปแล้วเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษย์ธรรมอยู่ไม่น้อยที่เห็นคนตายมาใช้เป็นเครื่องมือหาความสำราญทั้งที่จริงคนเราสมควรตายกันอย่างมีศักดิ์ศรี

ในด้านของสาระยังมีอะไรหลายอย่างให้น่าขบคิด แต่เหมือนอารมณ์ทางนี้ดูจะไม่ค่อยเท่าไหร่เหมือนตั้งใจดำเนินเรื่องให้เร็วไปหน่อยจนมิติตัวละครดูเป็นไปฉับไว ส่วนความสยองดูจะว่างเปล่าไม่ค่อยน่ากลัวกับเราซอมบี้เพราะมุ่งเน้นไปทางฝั่งคนซะมากกว่าจนซอมบี้คล้ายตัวประกอบไป ส่วนความสยองไม่ค่อยมีเน้นความน่ากลัวของสถานการณ์อันแสนเลวร้ายมากกว่า ฉะนั้นถ้าจะดูเอาแหวะเอาสยองคงไม่ใช่ประเด็นของเรื่องนี้ เพราะต้องการกระตุ้นความคิดของคนกับซอมบี้ว่ามีข้อแตกต่างกับเหมือนกันตรงไหนยังไงบ้าง แม้จะไม่ได้ลึกในรายละเอียดมากมายจนน่าสนใจแต่อย่างน้อยก็เห็นแล้วว่าพวกซอมบี้มันไม่เคยทะเลาะกันเลย จริงไหมพวกคุณมนุษย์ทั้งหลาย

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)