"พึ่งจะเข้าใจคำว่าท่าดีทีเหลวก็เรื่องนี้แหละ"
คือฉากเปิดเรื่องของหนังยอมรับโดยบริสุทธิ์เลยว่าทั้งช็อคทั้งเหวอจนคิดแบบเต็มสูบว่าเป็นหนังผีที่สยองได้ใจจนน่าติดอันดับหนังโปรดก็เป็นได้โดยเฉพาะในความคัลท์ที่เข้าใจเปิดเรื่องด้วยการกระตุ้นเลือดเนื้อได้ดิบจริงๆ ใครจะไปคิดล่ะว่าจุดเริ่มต้นของเรือผีจะสุดยอดขนาดนี้มันเจ๋งมากเลยนะบอกตรงๆ เพราะอะไรนั้นต้องขอบคุณความสามารถในการจับจุดได้ตรงจังหวะเรียกความสนใจได้อย่างอยู่หมัดแบบเส้นกราฟที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นจากต่ำสุดแล้วพุ่งไปสู่สูงสุดในทันที ทำไมรึ? จากฉากเต้นรำท่ามกลางแสงราตรี เสียงเพลงที่อ่อนละมุน หน้าตาของผู้คนที่ยิ้มแย้ม เด็กน้อยที่มีความสุข อะไรจะทำให้ผู้ชมสนใจสิ่งอื่นได้นอกจากช่วงเวลาดีๆของงานเต้นรำเช่นนี้ ใช่ทุกอย่างเรียบเรียงได้สวยหรูไม่ต่างกับการห่อของขวัญอย่างพิถีพิถันไม่รีบร้อน ทว่าขณะเดียวกันคล้ายทุกสิ่งที่เกิดเป็นเพียงสิ่งต่อหน้าหาใช่เบื้องหลังที่กำลังค่อยๆเกิดทีละนิดอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มันคืออะไรที่ขัดขวางความสุขของคนบนเรือ อะไรที่ทำให้ผู้ชมเบิกตากว้างได้หลังจากวินาทีนั้น นี่จะเป็นสิ่งเซอร์ไพรส์ที่สุดของหนังและเราจะจำฉากนี้ได้อย่างดีเพราะมันคือฉากเดียวที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่องและตลอดจนจบ
จะ Event Horizon (1997) ที่พบยานที่หายไปแล้วเกิดเต็มไปด้วยเรื่องหลอนสะพรึงกลัวนรกแตก หรือจะ Thir13en Ghosts (2001) ที่ได้บ้านแห่งหนึ่งโดยหารู้เป็นแหล่งสะสมผีอันเลวร้าย พล็อตเรื่องด้วยรวมๆก็ไม่แตกต่างจากมุมมองการพบสิ่งที่หายไปหรือไม่มีใครรู้จักที่แห่งนั้นมาก่อนแล้วมารู้ความจริงภายหลังว่าไม่ใช่สถานที่ธรรมดาๆ สำหรับเรื่องราวคงไม่ต้องพูดอะไรมากก็แค่นักกู้เรือที่มีกัปตันฌอนเมอร์ฟี่ (Gabriel Byrne),เอ็พส์ (Julianna Margulies),กรีเออร์ (Isaiah Washington),ดอดจ์ (Ron Eldard) และซานโตส (Alex Dimitriades) ที่ได้รับการจ้างจากแจ็ค เฟอร์รี่แมน (Desmond Harrington) ให้ไปกูเรือที่หายสาปสูญไปนานจากทะเลเมื่อกว่า 40 ปีก่อนนามว่าเรือแอนโตเนีย กราซ่า และเป็นไปตามสูตรคือเรือที่หายไปก็มาอยู่ต่อหน้าอย่างไม่คาดฝันและทำการกู้เรือด้วยการสำรวจในตัวเรือ ทว่ายิ่งสำรวจก็เริ่มเห็นความเก่าแก่ของเรือพร้อมกับบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับผู้โดยสารเรือที่ไร้ร่องรอย แรกๆไม่ต่างกับเรือเก่าลอยน้ำที่ไร้คนพบแต่เมื่อมีคนพบกลับกลายเป็นเรื่องหลอนขวัญประสาทเมื่อยิ่งอยู่นานทุกอย่างก็เริ่มดึงพวกเขาไม่ให้กลับ
เอาสิอย่างกับ House on Haunted Hill (1999) ฉบับเปลี่ยนจากโรงพยาบาลผีเป็นเรือผีที่พอเข้าไปก็ออกไม่ได้ แต่อันนี้ออกจะหดหู่กว่าถ้าไตร่ตรองดูเพราะอยู่ท่ามกลางทะเลอันไกลโพ้น ไม่เหมือนอยู่บนพื้นดินหรือสถานที่ที่ยังพอจะลุยไปหาคนช่วยได้ ส่วนนี้ออกจะตามว่านอกจากน้ำกับเรือก็ไม่มีใครให้ช่วยกันล่ะ จะเรียกว่าซวยก็ได้มั้งที่มาเลือกเรือแสนอาถรรพ์เช่นนี้แต่เดี๋ยวนะมันก็ไม่ได้น่าหลอนน่ากลัวไปทุกอย่างนอก เพราะเด็กสาวที่ชื่อเคธี่ (Emily Browning) ไงล่ะที่ทำให้ตัวหนังดูมีมิติมากขึ้นไม่ต้องไปตามสืบเรื่องราวที่หาเค้าความไม่ได้จากสิ่งเก่าๆและที่สำคัญยังเป็นเด็กผีที่น่ารักตามช่วยเอ็พส์ให้รอดพ้นจากภัยเรือนี้อีกด้วย คนดีผีคุ้มว่างั้นเถอะ แต่เนื้อเรื่องออกจะยังไงก็ไม่รู้ถ้าได้ดูจนจบเพราะเมื่อเวลานั้นมาถึงขอให้เตรียมรับประกันความเหวอให้ดีๆเนื่องจากเป็นการเซอร์ไพร์สที่ไม่ใช่แค่หักมุมแต่มันคืออะไรก็ไม่รู้ที่หนังยัดเข้ามาจนลำดับความเข้าใจแสนงงงวย จะว่าตอนหักมุมปิดท้ายเรื่องยังอาการหนักเท่ากับข้อผิดพลาดเกี่ยวกับตัวละครของเรื่องนี้ที่เหมือนจะไม่สะท้านกับผีเอาเสียเลย คือแบบนั่งคุยกับผี ผีส่งแก้วให้ดื่ม?! โดยไม่มีอาการตกใจแค่แตกตื่นเบาๆจากนั้นคุยต่ออย่างเป็นเรื่องเป็นราวอย่างกับคนจริงๆ นี่หลอนมากจนลืมว่าเป็นผีไปเลยสินะ
แม้ว่าสูตรยังเป็นแบบสำเร็จเล่นกับสถานที่ปิดในเรือแต่ด้วยภาพลักษณ์และมุมมองเกี่ยวกับตัวเรือถือว่าใช้ได้เลยทีเดดียวที่เนรมิตรฉากตัวเรือได้เก่าสนิทขึ้นตามทางและผนังเหมือนใกล้พังทุกทีที่เหยียบลงไป และอีกอย่างคือด้วยตัวเรืออันใหญ่ยักษ์ยังอุตส่าห์เล่นไปตามที่ต่างๆได้ทำให้ตัวเรือที่ใหญ่แลดูสมจริงกับสถานที่ต่างๆภายในตัวเรือ(ถึงแม้เอาเข้าจริงจะวนเวียนอยู่กับฉากเดิมๆในท้ายที่สุด) กับฉากไม่น่ามีปัญหาที่สร้างได้อับชื้นดูอึดอัดเหมือนทิ้งร้างมา 40 ปี ทว่าความบังเอิญยังมีไม่สิ้นสุดเมื่อจังหวะตอนไปพบเรือดันเป็นช่วงที่พบว่าใต้ท้องเรือมีรูขนาดใหญ่ทำให้น้ำเข้ามาเรื่อยๆจนเป็นชนวนที่ว่าเรือเก่าแก่ลำนี้กำลังจะจม บางทีรู้สึกว่ามันจงใจเกินความน่าตื่นเต้นในปัญหาเฉพาะหน้าไปหน่อยแต่อย่างว่าจะมาเจอเรือและลากกลับไปคงง่ายเกินไป ดังนั้นมันต้องมีแรงดึงดูดหลายทิศทางโดยเฉพาะสิ่งที่เจอในตัวเรือ ซึ่งคือทองแท่งที่แอบซ่อนเอาไว้ที่มีค่าพอจะใช้ได้ทั้งชีวิต แล้วยังไงระหว่างเรือกับทองคำที่มากมาย สุดท้ายก็เลือกทองอยู่ดี ประเด็นในส่วนนี้จะนำเสนอความโลภของคนถ้าความต้องการมากผลที่ตามมาย่อมสูญเสียมากด้วยเช่นกัน ถ้าอยากรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบนเรือในฉากเปิดเรื่องจะได้รู้ในฉากที่เคธี่พอระลึกเหตุการณ์ในวันนั้น เพราะต้นเหตุมาจากความโลภอย่างไม่สิ้นสุด กระนั้นประเด็นหลุดลอยไปนานมากจนเราไม่สนใจในสิ่งนี้เท่าไหร่เพราะกว่าวามจริงจะปรากฎก็เข้าบทสรุปพอไปตอนจบพอดี ซึ่งถามว่าทำไมไม่พาระลึกตั้งนานมัวทำอะไรกันอยู่
อีกอย่างที่น่าหนักใจคือการแสดงที่มีทั้งดีทั้งแข็งปะปนกันไปโดยเฉพาะ Julianna Margulies ที่ออกอาการได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่จะบอกว่าเป็นหญิงแกร่งก็ไม่น่าจะขนาดนั้น คืออารมณ์ทำนองหนังผีมันควรจะมีท่าทีตกใจหรือตื่นกลัวแต่นี่ออกจะนิ่งด้วยซ้ำ จะมี Gabriel Byrne ที่เล่นได้ดีออกอาการจะประสาทหลอนแต่เรื่องให้รายละเอียดน้อยไปหน่อยทำให้เหมือนตัดจบตัวละครนี้ออกจนมาอีกทีร้องแล้วกัน อีกคนที่เด่นไม่แพ้กันคือ Emily Browning ในบทเด็กสาวผีที่คอยช่วยเอ็พส์ อันที่จริงค่อนข้างน่ารักทีเดียวในตอนเปิดเรื่องช่วงเวลาที่มีความสุขแต่พอเป็นผีก็แอบหลอนได้เช่นกัน จะชอบก็คือฉากพาระลึกถึงเหตุการณ์บนเรือในคืนสุดท้าย ซึ่งฉากนี้ว่าตัดต่อได้ดีแถมมีจังหวะพามันส์(อาจเป็นเพราะดนตรี)ได้อย่างลื่นไหลและเป็นฉากที่เคธี่จะได้เห็นตัวเองในวันนั้นอีกด้วย จึงมีทั้งความเจ็บปวดและวุ่นวายที่สำคัญคือช่วงเวลาสุดท้ายก่อนตาย ส่วนคนอื่นแสดงได้ดีแต่อารมณ์ยังมีห้วนไปนิดอาจเพราะการตัดต่อเหมือนข้ามเหตุการณ์ไปหน่อยทำให้บางจุดยังไม่เคลียร์ โดยรวมการดำเนินเรื่องถือว่าไปได้เรื่อยๆอาจมีเบื่อบ้างแต่ยังดีที่หาเรื่องมากระตุ้นให้ตื่นตัวตลอดเวลาแม้จะเป็นความผิดหวังก็ตาม
สำหรับ Ghost Ship นะเป็นหนังผีที่ดีจริงในฉากเปิดเรื่องที่ไม่รู้จะว่ายังไงกันแล้วเพราะช็อคชวนเหวอมากๆกับวิธีการฆ่าแบบทีเดียวเหมาเกือบหมดแต่พอหลังจากนั้นก็เริ่มจะมีความเบื่อเข้าแทรกมาเป็นระยะๆเพราะมัวแต่กั๊กไม่ยอมเล่นให้สุด(หรือว่าทำได้แค่นั้นก็ไม่รู้) แต่ที่แน่ๆคือการที่ตัวหนังไม่ยอมอธิบายใดๆให้ฟังอย่างกระจ่างเหมือนเติมแต่งเข้ามาตอนหลังกะให้หักมุมยังไงไม่รู้แต่ที่รู้ๆคือมันไม่เคลียร์สุดๆ คืองงมากกับตัวละครที่บอกว่าตัวเองคือนักสะสมวิญญาณ ประเด็นคือเขาเป็นใครแล้วต้องการอะไรกันแน่ คืออาจไม่ถึงขั้นกับงงแต่เร็วเกินไปจะยอมรับได้ไม่งั้นไม่คงมานั่งเกาหัวด้วยความสงสัยว่าสรุปแบบนี้เลยหรือเนี้ย แต่เอาเถอะจะยังไงก็แล้วจะสรุปยังไงตัวหนังก็เต็มไปด้วยจุดว่างเปล่าที่หละหลวมเต็มไปหมดในการโยงเรื่องราว ถึงอย่างงั้นยังมีสิ่งที่ค้างคาใจที่สุดคือตอนจบของหนังก่อนจะเข้าสู่เครดิตท้ายเรื่องว่าตกลงมันยังไงกันแน่ว่ะเนี้ย