Gremlins (1984) เกรมลินส์ ปีศาจแสนซน

Gremlins (1984)
เกรมลินส์ ปีศาจแสนซน
Director: Joe Dante
Genres: Comedy | Fantasy | Horror

"พร้อมจะดูแลรับผิดชอบไหมภายใต้กฎ 3 ข้อ โดยเฉพาะเวลาที่กลายเป็นพวกมัน คุณต้องรับผิดชอบมากกว่าเดิม"

นับเป็นหนึ่งในความอัศจรรย์ที่สุดที่รวมความสยองขวัญกับความน่ารักเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ความน่ารักไม่มีหรอกนะหากไม่ใช่เพราะ Steven Spielberg ซื้อบทหนังจาก Chris Columbus ที่ดั้งเดิมกะเอาโหดไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว แต่เมื่ออยู่ในมือของพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดคราวใดมันย่อมเปลี่ยนแปลงไม่พ้นเหมาะสมสำหรับเด็กด้วยเช่นกัน แม้จะรู้สึกแปลกไปบ้างเพราะดั้งเดิมนั้นเริ่มต้นด้วยสไตล์ระทึกขวัญอย่างที่เราพอจะเห็นอย่าง Jaws (1975) จนทำเอาต้องเลิกเล่นน้ำทะเลไปชั่วระยะหนึ่ง จนกระทั่งความชัดเจนได้ปรากฎในเรื่อง E.T. the Extra-Terrestrial (1982) ที่กลายเป็นว่าทำออกมาเหมาะสมกับเด็กเป็นอย่างยิ่งยวด ไม่สิต้องบอกเหมาะกับครอบครัวเสียด้วยซ้ำ ด้วยภาพลักษณ์หนังเอเลี่ยนที่มองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกระหายการทำลายก็กลายเป็นอีกแบบที่แม้แต่เด็กยังเข้าใจได้ดีกว่าผู้ใหญ่บางคนจนเป็นการเปิดกว้างให้กับอวกาศที่ยังมีเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนที่รักสงบและรู้ค่าของการมีชีวิตให้คุ้มค่า ถึงจะไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดมากนักแต่การสร้างความโด่งดังที่ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงแต่เป็นตัวหนังเพียวๆกับคุณภาพเรียกน้ำตานี่สิ กลายเป็นแม่แบบที่ดัดแปลงได้อย่างน่าชื่นชม เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่แรกๆหวังสยองขวัญโหดสุดๆกลับกลายเป็นความสยองนั้นคือเรื่องตลกแถมไม่แน่ว่าจะเรียกว่ามันคือความสยองได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เห็นเป็นเพียงการป่วนเมืองเท่านั้น เป็นเพียงการอาละวาดให้ผู้คนตกใจกลัว ก็แบบกลัวจนอยู่ไม่ได้อ่ะ


และแล้วความวุ่นวายก็เริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆที่เกิดจากคุณพ่ออยากหาของขวัญให้ลูก ในที่นี่เราหมายถึงแรนดัล เพลท์เซอร์ (Hoyt Axton) นักประดิษฐ์ที่ตระเวนไปเรื่อยเพื่อแนะนำของที่เขาได้สร้างขึ้นจากไอเดียต่างๆก่อนจะไปสะดุดตาให้กับร้ายขายของเก่าที่เหมือนจะมีม็อกไกวสัตว์เลี้ยงน่ารักแสนประหลาดไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน ด้วยความที่น่ารักและแปลกในตัวจึงคิดอยากซื้อมาเป็นของขวัญให้กับบิลลี่ (Zach Galligan) ลูกชายที่จะมีปัญหายุ่งยากกับการทำงานที่ต้องเอาสุนัขตัวโปรดมาเลี้ยงหลังถูกจับได้ หลังจากที่แรนดัลพยายามอยู่หลายคราเพื่ออ้อนวอนมิสเตอร์หวิง (Keye Luke) เจ้าของร้านที่ครอบครองม็อกไกวเพื่อซื้อต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จจนกระทั่งเด็กในร้านยินดีจะขายอย่างลับๆจนที่สุดก็ได้ตัวม็อกไกวมาอยู่ในมือจนได้ ระหว่างนั้นเองบิลลี่ที่เหมือนจะมีปัญหาเพราะสุนัขของตัวเองไปป่วนคุณนายดีเกิล (Polly Holliday) คุณป้าจอมจุ้นต้องทุกข์ใจเพราะอาจกระทบกับการงานของตัวเอง มิหนำซ้ำอาจจะต้องโดนไล่ออกเพราะป้า...ที่เหลียดสุนัขเข้าไส้ งานนี้บิลลี่อาจต้องหนักใจไปพักใหญ่แต่หลังจากพ่อของกลับมาบ้านก็หิ้วของฝากสุดเซอร์ไพรส์กลับมาบ้าน ซึ่งก็คือตัวม็อกไกวขนปุ้ยแสนน่ารักที่เป็นมิตรกับทุกคน ทว่าก่อนที่บิลลี่จะได้เอาไปเลี้ยงนั้นต้องรู้กฎที่เข้มงวด 3 ข้อเสียก่อน เพราะมันสำคัญมากๆต่อการเลี้ยงดูเจ้าม็อกไกวตัวนี้ โดยกฎมีอยู่ว่า

1.ห้ามให้โดนแสง แม้แต่แสงแฟลช เพราะแสงจะฆ่ามันได้
2.ห้ามให้มันโดนน้ำเด็ดขาด
3.ข้อที่สำคัญที่สุด ไม่ว่ามันจะทำอะไร หรือร้องขออย่างไร ห้ามให้อาหารมันหลังเที่ยงคืนเป็นอันขาด


อันดับแรกไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับบิลลี่ที่เลี้ยงม็อกไกวภายใต้กฏเหล่านี้ เพราะสุดท้ายจะระมัดระวังแค่ไหนสุดท้ายกฎก็ต้องโดนแหกอยู่ดี และเรื่องของเรื่องคือหลังจากนั้นหายนะก็ตามมาชนิดที่ว่าทำชุมชนพังราบไปในคืนเดียวกันเลย โดยเรื่องมาจากหลังจากบิลลี่ได้เลี้ยงม็อกไกวสัตว์ตัวใหม่ด้วยความทะนุทะนอมและระวังภายใต้กฎทั้งสามอย่างดีเยี่ยม แน่นอนว่ากฎข้อแรกสำคัญสุดเพราะแสงจะทำให้ตายได้ ดังนั้นสิ่งแรกที่ผู้ชมเห็นคือการเอ็นดูอย่างดีแม้แต่แฟลชของกล้องจำต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดรวมถึงไฟในห้องที่ต้องเบาลง

ก็เหมือนทุกอย่างจะไปได้ดีจนกระทั่งกฎที่เหลือนี้แหละที่จะสร้างเรื่องวุ่นๆเมื่ออุบัติเหตุกลายเป็นเหตุที่บังเอิญม็อกไกวไปโดนน้ำเข้าจนได้ แล้วยังไงต่อนี่สิคือสิ่งที่ตัวหนังไม่ได้อธิบายกับผู้ชมว่าถ้าโดนน้ำไปแล้วจะมีผลข้างเคียงแบบไหนบ้าง ถามว่าตายหรือเปล่าคงไม่ใช่เพราะไม่ได้เหมารวมไปกฎข้อแรก นี้จึงเป็นเรื่องน่าลุ้นอย่างหนึ่งว่าถ้าโดนน้ำแล้วผลลัพธ์ของมันจะเกิดอะไรขึ้นที่ไม่ใช่แค่ผู้ชมที่ต้องลุ้นหากจะรวมถึงตัวละครในเรื่องต่างพบว่าเป็นความเซอร์ไพรส์ที่พอดีคำพูดเมื่อน้องที่กำลังอยากได้ม็อกไกวสักตัวไปเลี้ยงเป็นของตัวเองพอดีคือเจ้าของอุบัติทำให้โดนน้ำ ซึ่งผลของมันคือมีอะไรบางอย่างเป็นก้อนกลมเด้งออกมาตามตัวม็อกไกวหลายเม็ดราวกับแยกร่างออกมา หลังจากนั้นไม่นานก้อนกลมนั้นก็กลายสภาพเป็นม็อกไกวเพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก ทว่าพวกม็อกไกวที่เกิดขึ้นนั้นดูจะไม่เป็นมิตรเท่าไหร่เพราะดูจากนิสัยที่สุดแสนจะแตกต่างกับตัวเดิมอย่างสุดขั้วแถมยังดูเลี้ยงยากเพราะความไม่สงบเสียที ทว่าแค่นั้นยังไม่จบเมื่อพวกเกิดใหม่ได้กินอาหารหลังเที่ยงคืนที่ไม่ใช่แค่ตายหรือเพิ่มจำนวนแต่เป็นเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเกรมลินส์สัตว์น่ารังเกียจที่มีเหลือแต่ความวุ่นวายและการทำลายข้าวของ


พล็อตเรื่องเป็นไปได้ดีตามคอนเซ็ปต์รักษากฎแต่ไม่สำเร็จ แต่เชื่อไหมว่าความไม่สำเร็จไม่ได้เกิดจากความอยากทำแต่อย่างใดเพราะเกิดจากความประมาทแค่นั้นเอง ซึ่งตัวหนังกำลังสื่อเรื่องความรับผิดชอบกับความรอบคอบให้เข้ากันตามการเลี้ยงดูม็อกไกวภายใต้กฎสามข้อที่เหมือนจะง่ายแต่ยากกว่าที่พูด ช่วงแรกคือความตื่นตาสำหรับผู้ชมที่ทำให้ม็อกไกวคือของแปลกและหาความน่ารักมาให้เราหลงใหลราวกับหนังมิตรภาพระหว่างคนกับสัตว์อย่างไรมิทราบเพราะโทนมาเป็นแบบนั้นจริงๆ ดูแล้วเบิกบานใจกับม็อกไกวที่ต้องอขบคุณทีมงานเทคนิคที่เนรมิตรการเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต ที่สำคัญคือหน้าตาที่ออกแบบได้กำลังดี ไม่รักเกินไป ไม่น่ารังเกียจเกินไป แต่มากำลังดีจนอยากจะมีไว้บ้านสักตัว ถ้าพูดถึงม็อกไกวอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะในที่นี้ยังมีอะไรที่เรียกว่าแปลกตาอย่างเกรมลินส์ที่แตกต่างคนละขั้วกับม็อกไกวอย่างเห็นได้ชัด ทว่าอะไรคงไม่เท่ากับการที่ตัวหนังฉลาดพอจะใช้ประโยชน์จากกฎทั้งสามอย่างไม่หลงลืม ซึ่งนั้นทำให้ผู้ชมฉุกคิดไปตามๆกันด้วยว่าถ้าโดนน้ำทั้งที่กลายร่างเป็นเกรมลินส์จะเกิดอะไรขึ้นเพราะเราเห็นแค่ม็อกไกวโดนน้ำและแยกร่างเป็นม็อกไกวตัวอื่นๆออกมาให้เพียบ ที่น่าสนใจคือลำดับขั้นตอนที่อิงผสมผสานพวกแมลงที่มีการลอกคราบจนม็อกไกวคือสิ่งมีชีวิตที่น่าฉงนและมีเสน่ห์ที่สุดถ้ากล่าวถึงความแปลก แม้ตัวหนังจะขาดที่มาที่ไปอย่างชัดเจนว่ามาได้ยังไงตลอดจนประวัติที่น่าจะกล่าวถึงสักนิดกลับไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ทว่านั้นแหละมันคือความสดของตัวหนังเองที่ไม่อยากก้าวก่ายสิ่งที่ไม่จำเป็น

ไม่ว่าจะ Piranha (1978) หรือ The Howling (1981) ก็ล้วนเป็นงานสร้างชื่อให้ผู้กำกับ Joe Dante ที่ล้วนแต่เป็นหนังสยองขวัญ แต่เชื่อหรือไม่กับ Gremlins คือหนังสยองขวัญที่ดูได้ทั้งครอบครัวแม้จะรุนแรง เพราะประการแรกคือความรุนแรงของหนังมีความสมดุลเรื่องรักษาภาพลักษณ์ที่ออกมาในแง่เชิงสร้างสรรค์ (กระนั้นยอมรับอย่างหนึ่งว่ามีอยู่ฉากที่มีกลิ่นอายเป็นหนังสยองขวัญแท้ๆอย่างฉากเกรมลินส์จัดการกับนักวิทยาศาสตร์) ประการที่สองคือต่อให้เกรมลินส์จะมีความร้ายกาจมากแค่ไหนก็กลายเป็นเรื่องตลกได้ และประการสุดท้ายคือมุขที่มากำลังพอเหมาะกับสถานการณ์ที่ชวนให้รู้สึกว่าตัวละครดูงี่เง่าหรือพยายามเบี่ยงเบนผู้ชมด้วยพฤติกรรมที่ขอเหอะอย่าเลย ดังนั้นความน่าเบื่อชวนรำคาญจึงไม่มีให้เห็นนอกจากความร้ายกาจของเจ้าพวกเกรมลินส์ที่ขยันบรรเลงความหรรษาด้วยความวุ่นวายจากทำข้าวของในบ้านพังกลายเป็นชุมชุนพังกันไปแถบๆ แต่อะไรไม่เท่ากับการที่ตัวหนังทำให้เกรมลินส์ไม่ได้เก่งเกินตัวจนตัวละครจะจัดการไม่ได้เพราะพวกมันก็ตายได้ไม่ยากเช่นกัน แม้ช่วงแรกจะรู้สึกขัดๆอารมณ์ไปหน่อยเรื่องเกรมลินส์โดนจัดการทีละตัวอย่างว่องไว ทว่าเมื่อเกรมลินส์ที่เป็นตัวหัวโจ้กของเรื่องโดดลงสระน้ำเท่านั้นแหละ เรื่องให้ต่อให้ยาวกับเกรมลินส์นับร้อยเลยทีเดียว โดยรวมแล้วชอบการตั้งกฎที่นำมาประยุกต์ในสถานการณ์ของหนังได้อย่างไม่หลงลืมเพราะมีให้เราฉุกคิดเรื่อยๆ แต่ที่เด่นสุดคือเจ้าม็อกไกวที่ไม่ลืมว่าตัวหนังจะทิ้งไว้เบื้องหลังเพราะสุดท้ายพระเอกของเราไม่ใช่ใครหากจะเป็นม็อกไกวตัวน้อยนั้นเอง


ทั้งนี้ Gremlins จัดได้ว่าเป็นหนังแนวสัตว์ประหลาดผสมน่ารักน่าชังได้อย่าลงตัวแถมการดำเนินเรื่องแม้จะช้าไปบ้างในช่วงแรกเพื่อเป็นการปูตัวละครแต่หลังจากปัญหาเกิดขึ้นก็มาแบบ Non-Stop ชุลมุนวุ่นวายไม่หยุดหย่อนที่มาพร้อมกับเสียงฮาและความน่ากลัวไปในตัว แต่อะไรคงไม่เท่ากับความพยามยามของหนังที่นอกจากจะใช้ลูกเล่นชวนแปลกตาแล้วยังมีนัยยะแฝงได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวอีกด้วย อีกอย่างคือการเล่าเรื่องอยู่กับที่ไม่ออกทะเลไปไหนเพราะวนเวียนอยู่กับกฎสามข้อที่ถูกเล่าในมุมมองต่างๆจนไม่รู้สึกซ้ำซาก

บางทีการดูหนังสยองขวัญที่โชกโชนด้วยเลือดพร้อมกับสูตรแสนตายตัวอาจจะสนุกได้ระดับหนึ่ง ทว่ากับเรื่องนี้ที่บอกไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่าสยองตรงไหนเพราะควรบอกเป็นตลกร้ายที่แสนจะร้ายกาจมากกว่า มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ตลอดรายการโดยเฉพาะความสนุกที่คาดไม่ถึงอย่างบทแรนดัลคุณพ่อของบิลลี่ที่แม้จะเป็นตัวประกอบที่มาแค่ช่วงต้นเรื่องแต่แอบฝากความฮากับสิ่งประดิษฐ์ได้อย่างน่าขบขัน ที่ชอบมากคือฉากโทรมาที่บ้านบิลลี่ในระหว่างที่ตัวเองไปประกวดสิ่งประดิษฐ์จากทั่วโลกที่เราจะได้เห็นหลายอย่างหลายอย่างที่เรียกอารมณ์หนังไซไฟได้ไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะหุ่นยนต์กระป๋อง สารพัดรูปทรงที่ให้ความคลาสสิค นับเป็นสีสันของหนังแนวนี้ที่หาได้ยากอย่างมาก(ถ้านับเป็นหนังสยองขวัญจริงๆอ่ะนะ) ที่สำคัญคือเรื่องที่อยากจะชื่นนชมบทคือไหวพริบเหล่าตัวละครที่ทันเกมคิดวิเคราะห์ได้อย่างฉับไว ไม่ว่าจะดูกี่ทีก็ยังรู้สึกคุ้มค่าไม่มีเบื่อจริงๆเลย

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)