The Naked Gun: From the Files of Police Squad! (1988) ปืนเปลือย

 
The Naked Gun: From the Files of Police Squad! (1988) | ปืนเปลือย
Director: David Zucker
Genres: Comedy | Crime
Grade: A

หนังกึ่งล้อเลียนที่ผิวเผินเหมือนถอดแบบมาจาก Dirty Harry (1971) ยังไงก็ไม่ทราบจากข้มเข้มเป็นเน้นรับประทานความฮาด้วยนายตำรวจแฟรงค์ เดรบิน (Leslie Nielsen) บุคคลที่ได้รับกล่าวขวัญถึงฝีมือแสนไม่ธรรมดาต้องตามสืบความจริงที่ซ่อนอยู่จากนอร์ดเบิร์ก (O.J. Simpson) เพื่อนตำรวจของแฟรงค์ที่ไปสืบคดีหนึ่งแต่พลาดท่าบาดเจ็บสาหัสเข้าโรงพยาบาลโดยมีคนที่น่าสงสัยคือวินเซนต์ ลุดวิก (Ricardo Montalban) นักธุรกิจผู้มีผู้แผนการบางอย่างที่แฟรงค์ไม่อาจคาดถึงแต่จะเป็นร้ายหรือดีเนี่ยสิคือสิ่งที่แฟรงค์ต้องลงมือสืบหาความจริงด้วยความสามารถที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครอยากเหมือน และยังมีเจน สเปนเซอร์ (Priscilla Presley) เลขาของวินเซนต์มาเป็นผู้ช่วย เห็นว่าพล็อตเรื่องกระชับสั้นได้ใจแถมยังตามธรรมเนียมแนวตำรวจสืบสวนอย่างมิต้องสงสัยเพียงแค่ว่าเป็นหนังตลกแค่นั้นเอง ส่วนจะสนุกมากน้อยแค่ไหนรับประกันผลงานชิ้นก่อนอย่าง Airplane! (1980) ที่เดิมผู้กำกับ David Zucker เป็นหนึ่งในทีมผู้สร้างส่วนเรื่องนี้แยกเดี่ยวออกมาแล้วผลที่ได้คือสนุกสมกับหนังแนว Spoof แอบกัดนิดนั้นหน่อยแต่มีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง


อย่างแรกคือชอบ Leslie Nielsen เป็นอย่างมากเพราะเหมาะกับคาแรกเตอร์ที่แสดงหน้าตายในแบบที่ไม่ต้องเล่นมุขยังเอาฮาได้แค่ขอขยับนิดหน่อยก็ได้เรื่องแล้ว สำหรับรายนี้คือคนที่เหมาะสมที่สุดและยกระดับตัวหนังได้ดีมากทีเดียวทำให้ออกมาสนุกขนาดที่ว่าหน้าตายังเป็นใจช่วยเสริม ที่ถูกใจคือการเปิดเรื่องด้วยการแนะนำตัวละครแฟรงค์ในแบบผิดฟอร์มลักษณะของตำรวจที่ดันไปโผล่ในกลุ่มก่อการร้ายที่กำลังนั่งประชุมมองประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศไม่เอาไหน อ่อนแอเป็นเสือกระดาษ ขี้ขลาดไร้ทางสู้ พอเท่านั้นแหละแฟรงค์ก็โผล่ออกมาในคราบคนใช้แล้วต่อสู้ด้วยมือเปล่า สำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้คงประหลาดใจแน่นอนว่าแท้จริงมันคือหนังตลกเนื่องจากตอนเปิดก็ไม่ต่างกับหนังทั่วๆไปที่ให้ตัวร้ายนั่งคุยกันในแบบซีเรียสมีความจริงจัง แต่เมื่อแฟรงค์ออกมาประจันหน้าความฮาก็บังเกิดขึ้นพร้อมกับมุขเป็นว่าเล่นกับแอบเสียดสีไปในตัว ต้องยอมรับว่ามุขบางมุขเป็นการเล่นด้วยการกระทำที่อาจจะดูเว่อร์ไปบ้างแต่เพราะเว่อร์นี่แหละจึงมีแต่มุขเด็ดๆและที่น่าขำมากที่สุดในช่วงแรกของหนังคือฉากนอร์ดเบิร์กแอบไปจับคนร้ายที่ค่อยๆย่องไปที่ประตู ซึ่งเจ้าฉากนี้เป็นการกัดหนังทุกเรื่องที่มักจะมีตัวละครถีบประตูเข้าไปส่วนจะกัดยังไงนั้นบอกได้แค่ขำอย่างเดียวฉากนี้ เห็นขำขันขนาดนี้มีมุขที่ฝืดบ้างหรือไม่ อันนี้มีแน่นอนเพราะบางมุขจะเป็นมุขคำพูดที่มักจะอ้างอิงจากช่วงเวลานั้นๆหรือค่านิยมตอนนั้น แต่พวกมุขคำพูดไม่ค่อยเน้นเท่ากับการกระทำทำให้ The Naked Gun: From the Files of Police Squad! ได้รับคำชมด้านมุขที่ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย


ทุกอย่างลงตัวเกือบหมดแถมการสืบสาวความจริงยังมีลักษณะของสายลับที่ให้อารมณ์คล้ายหนังเจมส์ บอนด์ 007 ชอบกลเพราะมีจุดที่เหมือนกันคือจุดนักวิทยาศาสตร์ทดลองอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆและยังเป็นการเรียกรอยยิ้มได้ดีกับสิ่งประดิษฐ์อีกด้วย ที่สำคัญคือผู้หญิงที่ขาดไม่ได้ในหนังเจมส์ บอนด์ 007 เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่นายตำรวจแฟรงค์เกิดถูกเสน่ห์เจนสาวเลขาเข้าให้จนเกิดเป็นความชอบกันขึ้นมานิดๆ นักแสดงที่เล่นคือ Priscilla Presley ที่มีอายุต่างกับ Leslie Nielsen ประมาณ 19 ปี ไม่รู้ยังไงอีกคนรุ่นลุงอีกคนรุ่นประมาณพึ่งหมดวัยรุ่นให้กลายเป็นพระเอกนางเอก อาจไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับอายุแต่กับหน้าตานี่ให้ความรู้สึกกินหญ้าอ่อนยังไงไม่รู้แต่จะนึกเสียว่าเป็นตลกร้ายล่ะกัน กระนั้นความเข้าหากันดูจะลงเอยกันได้ดีจนลืมเรื่องความต่างกันคนละรุ่นไปเสียสนิท(ยกเว้นฉากเลิฟซีนที่เมื่อไร Leslie Nielsen ถอดเสื้อสาวๆจะต้องกรี๊ด ทว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดน่ะสิเพราะอะไรก็ว่ากันตามอายุน่ะแหละ) ในส่วนการพัฒนาตัวละครทั้งสองทำได้ดีมากทีเดียวจากเดิมแฟรงค์คือตำรวจมาขอข้อมูลและเจนคือเลขาที่ถูกวินเซนต์ให้ตามสืบแฟรงค์อีกทีว่ารู้อะไรไปถึงไหนบ้างก่อนจะรู้ว่าตัวเองถูกหลอกใช้อีกที ในด้านมิติตัวละครทำได้ดีเกินกว่าจะเป็นล้อเลียนที่เอาตลกเข้าว่าทว่ากับเรื่องนี้เก็บรายละเอียดทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครผิดถนัดกับหนังล้อเลียนสมัยหลังเรื่องนี้ที่เอาฮาอย่างเดียวจนลืมเรื่องมิติตัวละครที่ช่วยยกระดับความสนุกของเรื่องได้ กระนั้นไม่ใช่ตัวละครหลักของเรื่องจะมีแค่นี้เพราะแฟรงค์ยังมีเพื่อนตำรวจอีกคนชื่อเอ็ด ฮ็อคเก้น (George Kennedy) เปรียบเสมือนเพื่อนคู่หูตามช่วยแฟรงค์ตลอดเวลา อาจจะไม่ใช่ตัวเด็ดปล่อยมุขแต่ก็เด็ดพอจะเป็นตัวรับมุขให้ขำกันได้


เนื้อเรื่องอาจจะสั้นประมาณ 80 นาทีก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเวลาที่ยาวหรือสั้นเกินไปสำหรับเรื่องนี้ที่มีความพอดีในการแจกบทบาทไม่ฮาเกินไปและไม่ถึงขั้นน่าเบื่อ โดยส่วนตัวค่อนข้างชอบหลายอย่างที่เล่าเรื่องอย่างจริงจังแต่กลมกลืนกับการเล่นมุขล้อเลียนอย่างลงตัวอีกทั้งเล่าเรื่องได้ไม่ออกนอกทะเลเพราะกับหนังล้อเลียนบางเรื่องแค่จับยำกันจนเส้นเรื่องมั่วไปหมด ที่เด็ดจริงๆคือการนำอลิซาเบธที่ 11 (Jeannette Charles) มาเล่นในเรื่องกันอย่างไม่แคร์ยศบรรดาศักดิ์เสียดสีกันอย่างสนุกสนาน ที่น่าสนใจคือการนำตัวละครการนำอลิซาเบธที่ 11 มาเล่นเสมือนตั้งใจกัดจิกเรื่องความสำคัญของฐานะอย่างฉากเบสบอลที่มีคนมานั่งสบายบนที่นั่งที่จ้องเอาไว้ ฉากแฟรงค์ทำหน้าที่คุ้มกันอลิซาเบธที่ 11จนกลายเป็นเหตุชุลมุนขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง และหลายฉากอย่างมากที่เกี่ยวกับอลิซาเบธที่ 11 ที่ไม่เชิงว่าเป็นคนฐานะสูงเท่านั้นยังรวมถึงการเป็นแค่ตัวประกอบที่เอาเข้าจริงไม่มีใครสนใจแค่รู้ว่าเป็นบุคคลสำคัญ นับเป็นความกล้าที่นำคนชั้งสูงของอังกฤษมาเล่นอย่างสนุกมือแม้จะไม่หนักหนาอะไรแต่การได้เห็นมาดผู้ดีสงบเรียบร้อยปล่อยของเช่นนั้นก็ไม่ต่างกับคนธรรมดาที่ดูก็ฮากันไป สิ่งที่ทำให้ The Naked Gun: From the Files of Police Squad! ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องการเล่นมุขอย่างมีระดับแค่นั้นเมื่อเทียบกับตัวละครต่างๆในเรื่องที่ล้วนมีมิติตัวละครน่าหลงใหล ซึ่งความดีความชอบอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างแฟรงค์กับเจนที่อาจไม่ถึงขั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวละครก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องหายากในหนังล้อเลียนที่มักจะเอาฮาจนลืมอารมณ์ส่วนอื่นไปเสียสนิท
 

ไม่ว่าจะมุขที่แสนสนุกเล่นได้ถูกจังหวะจนต้องขำเล็กขำน้อยตลอดเวลา ตัวละครที่เต็มไปด้วยท่าทางขบขันสะท้อนถึงความเป็นจริงกับโลกล้อเลียน มิติตัวละครที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ผู้ชมหลงรักตัวละคร เล่าเรื่องอย่างต่อเนื่องแม้เนื้อเรื่องจะสั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ยืดเยื้อ ตัวร้ายตามสูตรหนังเจมส์ บอนด์ทั้งรวยทั้งฉลาด(แต่ไม่เก่งไปกว่าแฟรงค์หรอก) ฉากไคล์แม็กซ์ตอนท้ายกับความฮาที่ขำอย่างต่อเนื่องในฉากเบสบอลตั้งแต่ยังไม่ลงสนามแข่งจนจบเกม เป็นหนังล้อเลียนที่ทุกอย่างแทบจะสมบูรณ์แบบและแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งคือการให้ลำดับความสำคัญกับผู้ชมด้วยมุขที่เข้าใจง่ายไม่ฮากร๊ากแต่ตลกเยอะ

บางทีหนังล้อเลียนที่เริ่มจะรู้จักกันอาจเป็นเรื่อง Scary Movie (2000) ที่ตามหลังถึง 12 ปีด้วยการผสมผสานหนังดังเข้าไว้ด้วยกันจนเรียกว่าหนังยำ ทว่า The Naked Gun: From the Files of Police Squad! คือหนังล้อเลียนที่หยิบเล็กผสมน้อยไม่ว่าจะสูตรหนังตำรวจ หนังสายลับ หนังรัก เข้าเอาไว้ด้วยกันโดยมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเองไม่ล้อเลียนด้วยการหยิบหนังเรื่องต่างๆเอาไว้ในเรื่องทำให้ต่อให้ไม่ได้ดูหนังดังอะไรมากมายก็ยังเข้าใจในมุขได้อย่างดีไม่ต้องเสียเวลาทำความเข้าใจการกัดจิกหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้ นับเป็นหนังล้อเลียนที่สามารถหยิบมาดูได้ทุกยุคทุกสมัย เชื่อว่าหลายคนที่หยิบเรื่องนี้มาดูจะต้องหลงรักแฟรงค์ ไม่สิ ต้องหลงรัก Leslie Nielsen ที่หาใครมาเล่นบทนี้ไม่ได้อีกแล้ว

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)