Girl House (2015) | เกิร์ลเฮ้าส์
Director: Jon Knautz, Trevor Matthews
Genres: Horror | Thriller
Grade: B
Girl House เว็บไซต์ผู้ให้บริการทางอารมณ์สำหรับเพศชายหรือสื่อลามกออนไลน์ที่สนทนาผ่านท่าทางสนองตัณหาให้อีกฝ่ายด้วยวีดีโอ ในยุคที่สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันย่อมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเข้าไปผัวพันกับอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องจำเป็น เนื่องจากทุกย่างก้าวตลอดจนทุกการสื่อสารล้วนมาจากอินเทอร์เน็ตหรือระบบสารสนเทศไร้สายที่เชื่อมโยงเข้าหากันได้เพียงไม่กี่หยิบมือ การเข้าถึงที่รวดเร็วและแสนสะดวกสบายจึงเป็นช่องทางทำกินโดยยึดหลักความเป็นเพศชายที่ปฏิเสธไม่ได้คือการสนองตัณหาด้วยอารมณ์ทางเพศ ขณะที่เพศหญิงไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตามยังคงเป็นเครื่องมือทางอารมณ์เพศ ทว่าความแตกต่างของเพศชายกับเพศหญิงที่มักจะมีอีกฝ่ายข่มเสมอได้แปรสภาพเป็นอีกฝ่ายเข้าหาแบบอ้อมๆและอีกฝ่ายยอมรับแต่โดยดี การค้าขายบริการทางเพศแบบไร้การสัมผัสใช้แค่ตาดูหูฟังคือเครื่องพิสูจน์ความต้องการทางเพศด้วยปัจจัยสำคัญคือเงินกับชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนผู้ใช้บริการหรือท่านชายที่ได้เสียตังค์ใช้บริการก็ได้ความสุขทางอารมณ์ด้วยการดูอย่างมีความสุขบนเรือนร่างของหญิงสาวที่เย้ายวนผ่านจอโน๊ตบุ๊คหรือโทรศัพท์ แน่นอนว่าจุดประสงค์ของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันเพื่อมาทำงานเปลืองตัวเช่นนี้ แต่มองอีกมุมหนึ่งในเรื่องของสังคมที่ไม่ค่อยรับรู้ชีวิตในโลกจริงๆก็พอจะเป็นเครื่องยืนยันว่าในโลกออนไลน์เป็นคนแบบไหนก็ตามถ้าในโลกความจริงไม่มีใครจำได้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ข้อแตกต่างระหว่างโลกจริงกับโลกออนไลน์จึงเป็นเส้นกั้นบางๆที่ต่างส่งผลกระทบต่อกัน ในโลกออนไลน์คือนางโป้เปลือยที่ทุกคนเห็นว่าเซ็กซี่แต่พอชีวิตจริงลบเครื่องสำอางคืนความเป็นคนธรรมดาก็คือหนึ่งในสังคมหาเช้ากินค่ำ
ไคลี่ แอทกิ้นส์ (Ali Cobrin) เด็กสาวไฮสคูลที่กำลังประสบปัญหาเรื่องเงินๆจนต้องหางานที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้ระดับหนึ่งเนื่องจากพ่อของเธอได้เสียชีวิตไปและแม่ไม่มีงานทำเป็นเพียงแม่บ้าน จากปัญหาของไคลี่ที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายทำให้เธอตัดสินเลือกงานที่ได้ผลตอบแทนราคาสูงบนอินเทอร์เน็ตเป็นสาวโชว์เรือนร่างตามใจลูกค้าที่กำลังดูอยู่ แม้ว่าไคลี่จะกลัวๆงานนี้เพราะอาจทำให้คนมองในภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแต่ถึงแบบนั้นไคลี่ต้องทำงานนี้เพราะไม่มีทางเลือก แน่นอนว่าการเรียนไปทำงานไปเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมต้องชดเชยด้วยเวลาที่เหนื่อยมากยิ่งขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนในท้ายที่สุด ฉะนั้นการที่ไคลี่เลือกงานที่แทบไม่ต้องเลยคือทางออกที่ดีที่สุดในการหาเงินเพราะไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการโชว์แค่นั้นเอง ที่น่าสนใจคือไคลี่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่และมั่นใจเกินครึ่งต่อการทำงานนี้เนื่องจากก่อนจะเป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลเฮ้าส์ได้นั้นได้ลองจำลองเหตุการณ์สมมติขึ้นมา ก่อนที่จะรู้จักไคลี่ในส่วนของภูมิหลังจะได้เห็นไคลี่กำลังคุยโน๊ตบุ๊ค ซึ่งแน่นอนคือไคลี่กำลังทำตามในสิ่งที่อีกฝ่ายได้คุยขอมา แม้ว่าไคลี่ยังออกอาการเกร็งอยู่บ้างแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ได้ทำตามคำขอจนสำเร็จ ในการจำลองเหตุการณ์นี้เองทำให้รู้ว่าไคลี่หมดทางเลือกและพร้อมจะลองดูกับงานนี้สักครั้ง แม้ว่าการซ้อมด้วยนั้นจะเกิดจากผู้หญิงคุยกับผู้หญิงแต่ของจริงอาจเป็นใครก็ได้และแน่นอนคือผู้ชายที่ปรารถนาในความใคร่
เลิฟลี่บอย (Slaine) ตัวละครที่ปรากฎในตอนเปิดเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่ตามเด็กผู้หญิงจนต้องไปหลงคารมของเด็กผู้หญิงที่จะโชว์ของลับให้ดูแต่แลกเปลี่ยนด้วยการต้องให้เปิดให้ดูของลับก่อน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาด้วยเพศที่ต่างกันจึงยอมถอดกางเกงเปิดให้ดู การแลกเปลี่ยนของลับตามประสาเด็กที่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องแสดงให้เห็นมุมมองที่ไม่เหมือนกันคือเรื่องจริงกับเรื่องตลก หลังจากถอดกางเกงให้ดูก็พบว่าฝ่ายเด็กผู้หญิงนั้นหัวเราะเยาะเย้ยราวกับเจอของสิ่งประหลาดด้วยอารมณ์ไม่ตื่นเต้นแต่คือความขำขันในมุมมองของเพศหญิงที่กำลังบอกทำนองหน้าตาของอวัยเพศชายเป็นแบบนี้งั้นเหรอ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่เลิฟลี่บอยที่นอกจากจะไม่ได้อะไรเป็นการแลกเปลี่ยนแล้วยังถูกเอารัดเอาเปรียบกลั่นแกล้งสาธยายรูปร่างคล้ายลูกโอ๊คและหัวเราะต่อหน้าอย่างไม่ใยดี การถูกผู้หญิงแกล้งทำให้อับอายและยังสูญเสียความมั่นใจต่อเพศตรงข้าม ซึ่งความอับอายจากเสียงหัวเราะที่เหยียดหยามเรื่องเพศทำให้กลายเป็นความแค้นในใจที่กลายเป็นการแสดงถึงความรุนแรงในตัวที่ถูกกดดันจากสังคมที่เอาเปรียบ นั้นเองทำให้เลิฟลี่บอยจากท่าทางเด็กขี้อายไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองต้องการปลดปล่อยเพื่อชนะความอับอายนี้ด้วยการฆ่าเด็กผู้หญิงที่ดูถูกเขาอย่างสาสม แน่นอนว่าหน้าตาตอนเปิดเรื่องมีโทนที่สดใสเหมาะกับหนังเด็ก กระนั้นการสื่อออกมากลับเป็นเรื่องของการเหยียดเพศจากฝ่ายที่มีความมั่นใจในตัวเองจนคนที่ไม่มีความมั่นใจอย่างเลิฟลี่บอยถูกบีบบังคับจบเรื่องนี้ด้วยการเอาชนะ ทว่าการเอาชนะที่แลกด้วยชีวิตกลับไม่ได้ทำให้เลิฟลี่บอยเปลี่ยนแปลงใดๆและยังมีปมฝังใจอยู่เสมอในเรื่องการไว้ใจคนโดยเฉพาะผู้หญิง จนกระทั่งได้พบกับไคลี่ในเกิร์ลเฮ้าส์
เกิร์ลเฮ้าส์คือสถานที่รวมเหล่าสาวๆในบ้านที่เต็มไปด้วยกล้องทุกที่ในบ้าน จุดประสงค์หลักคือการได้ดูทุกกิริยาบทของสาวๆตั้งแต่ตื่นจากเตียงยันหลับนอน แต่ไม่ใช่เรื่องแแค่นั้นเพราะประสงค์หลักคือการถ่ายทอดเรือนร่างและพฤติกรรมทางเพศออกทางวีดีโอโดยจะเฝ้าติดตามดูสิ่งที่เกิดขึ้นหรือจะเข้าไปคุยแชทเพื่อขอให้ทำอะไรบางอย่างก็ได้ แน่นอนว่าสิ่งที่ขอกันนั้นย่อมมีจุดมุ่งหมายไม่กี่อย่างและเกี่ยวข้องกับอารมณ์ทางเพศอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง อะไรทำให้เกิร์ลเฮ้าส์เป็นที่ยอดนิยมในหมู่ผู้ชายทั้งที่ไม่มีอะไรไปมากกว่าการเฝ้าติดตามพฤติกรรมที่วนเวียนกับการใช้ชีวิตกินนอนเป็นประจำวัน คำตอบนั้นง่ายมากถ้าเกิดเป็นผู้ชายเพราะมาจากความต้องการสอดรู้สอดเห็นเสริมด้วยปัจจัยทางอารมณ์ทางเพศ อีกประเด็นที่สำคัญคือสามารถสั่งหรือขอให้ผู้หญิงทำตามได้โดยเจ้าตัวจะปฏิเสธหรือไม่นั้น คำตอบที่ได้คือตกลงเสียมากกว่า เนื่องจากเกิร์ลเฮ้าส์ไม่ใช่แค่การดูชีวิตของผู้หญิงเท่านั้นแต่กับภายในจริงๆคือการแข่งขันเพื่อแย่งเรทติ้งของตัวเอง ยิ่งได้มากยิ่งกลายเป็นขวัญใจซึ่งก็แปรผันไปตามเม็ดเงินที่ได้อีกด้วย แต่ใช่ว่าทุกคนจะแข่งขันกันเสมอไปยกเว้นเดวอน (Alyson Bath) ที่ยังมองคนอื่นคือศัตรูที่เข้ามาแยกเรทติ้งของตัวเองและพยายามผลักดันให้สูงขึ้นเพื่อเป็นขวัญใจอันดับหนึ่ง แต่หนังไม่ได้นำเสนอให้เห็นความริษยาอะไรนักเพราะยังมองว่าทุกคนที่มาเกิร์ลเฮ้าส์ต่างมาเพื่อเงินและการได้ผลตอบแทนเช่นนั้นต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีเสียก่อน สำหรับไคลี่คือน้องใหม่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบผู้หญิงถึงผู้หญิง แต่มีประเด็นที่น่าสนใจคือทำงานนานเท่าไรยิ่งคุ้นชินและกล้าแสดงออกอย่างไม่ลังเลอีกต่อไปมาจากเพราะอะไร หรือจะเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าเพราะยังไงไม่มีใครสนใจอยู่แล้วว่าตัวเองทำงานอะไร นั้นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งของอาชีพเสริมเพื่อนำเงินมาเรียนหนังสือต่อ แต่สังเกตได้อย่างหนึ่งคือความรู้สึกดีใจที่ได้ปลดปล่อยความกลัวเป็นความกล้า ประเด็นเรื่องเพศผู้หญิงที่ถูกมองด้วยความคับแคบเพียงในกรอบไม่ต่างกับเกิร์ลเฮ้าส์จึงเสมือนการยืนยัดด้วยตัวเองต่อความเสมอภาคทางเพศว่าตัวเองโชว์ได้ ร่างกายคือของเรา มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่เลือกไม่ใช่ใครมาบังคับ
ถ้าเกิร์ลเฮ้าส์คือสถานที่รวมผู้หญิงใจกล้าเพื่อปล่อยอารมณ์สู่ภายนอก เลิฟลี่บอยคือปัญหาภายในจิตใจที่อยากระบายสู่ภายนอกเช่นกัน สำหรับเลิฟลี่บอยนั้นอย่างที่รู้คืออาจไม่ใช่ชื่อจริงของตัวละครแต่เป็นการอุปมาระหว่างตัวตนจริงกับคำว่ารูปหล่อ ซึ่งตัวตนจริงกับคำว่ารูปหล่อนั้นไม่ได้เหมาะสมหรือเข้ากันอย่างใดเลยแต่อาจหมายถึงในส่วนของจิตใจที่อ่อนโยนต่อโลก ก่อนจะกลายเป็นฆาตกรสุดโหดในช่วงท้ายเรื่องได้นั้นไม่ใช่จะเป็นก็เป็นแต่มีที่มา เริ่มแรกตัวละครเลิฟลี่บอยคือผู้ชายอ้วนธรรมดาคนหนึ่งที่มีอดีตในวัยเด็กที่เลวร้ายและทำงานด้านไอที ทุกอย่างดูธรรมดาจนกระทั่งเข้าเว็ปไซต์ Girl House แล้วพบว่ามีเด็กใหม่เข้ามาซึ่งคือไคลี่ บางอย่างดึงดูดให้เลิฟลี่บอยเกิดความสนใจจึงนัดคุยกับไคลี่เป็นการส่วนตัว ทว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับไคลี่เพราะเป็นเรื่องปกติที่จะมีสมาชิกลูกค้านัดเป็นการส่วนตัวเพื่อขออะไรบางอย่าง กระนั้นกับเลิฟลี่บอยไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไปที่มุ่งเรื่องทางเพศแต่มีความต้องการอย่างอื่นมากกว่า และสิ่งนั้นคือการได้ครอบครองไคลี่โดยมีความเชื่อมั่นว่าทุกคนจะต้องรักเขาแน่นอน สังเกตได้จากการแฮ็คระบบสนทนาด้วยการส่งรูปภาพใบหน้าตนเองให้ไคลี่ดูเพื่อเป็นการตอกย้ำว่าหน้าตาแบบนี้ยังมองว่าหล่ออยู่หรือไม่ ไคลี่เองก็ตกใจที่เห็นใบหน้าของผู้สนทนาด้วยทั้งที่เป็นเรื่องไม่สามารถทำได้ แต่ประเด็นของเลิฟลี่บอยจะแน่ชัดขึ้นถ้าสังเกตเห็นว่าข้างผนังห้องมีรูปสาวๆจากเกิร์ลเฮ้าส์ทั้งหมด และที่น่าสนใจคือความลุ่มหลงด้วยการนำรูปภาพตัวเองแปะคู่กับสาวเกิร์ลเฮ้าส์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวชนิดแอบหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ ด้วยความที่เลิฟลี่บอยเป็นคนซื่อคงไม่ผิดแต่อีกด้านหนึ่งคือคนที่ไม่สามารถเก็บอารมณ์อยู่ได้ จะมีอยู่ฉากที่แอบมองกางเกงในเพราะบังเอิญหันไปเจอพอดีจนกลายเป็นอยากมองต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปสะดุดตาเจ้าของกางเกงในที่จ้องมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้และเดินเข้ามาว่าในเชิงเสียดสีจนห้ามใจไม่ไหวปล่อยอารมณ์ออกมาด้วยการทุบหัวไปหนึ่งที แต่ฉากนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงและเป็นเพียงภาพที่เลิฟลี่บอยคิดอยู่เท่านั้น
กระนั้นการที่ทำให้เลิฟลี่บอยกลายเป็นฆาตกรบ้าเลือดไม่ได้เกิดจากความโมโห แต่เกิดจากอารมณ์ของคนถูกหักอกและหักหลังในเวลาเดียวกันและต้องการเอาคืน เรื่องของเรื่องก็คือพยายามหาไคลี่แต่หาไม่เจอและติดต่อกับสาวคนอื่นในเกิร์ลเฮ้าส์เพื่อถามว่าไคลี่ไปไหน กระนั้นคำตอบที่ได้ล้วนไม่มีความจริงใจและต้องการหยอกล้อไม่หยุดซึ่งนั้นทำให้เลิฟลี่บอยรู้สึกเสียใจเหมือนถูกทิ้งจากคนรัก ในระหว่างที่เสียใจก็ไปเห็นรูปภาพใบหน้าตัวเองที่ส่งให้ไคลี่ดูถูกแปะบนผนังพร้อมกับประโยคเขียนทับใบหน้าด้วยถ้อยคำแสดงถึงพวกบ้ากามในเพศหญิง ด้วยเหตุนี้เลิฟลี่บอยจึงรู้สึกว่าถูกมองเป็นที่น่ารังเกลียดไปปริยายและคงไม่มีอะไรให้แก้ตัว ที่สำคัญความเลวร้ายในอดีตได้เข้ามาอีกครั้งจนทนไม่ไหวต้องการกำจัดทุกคนที่ทำให้เขาเสียใจ พอมาถึงในจุดนี้ของหนังก็กลายเป็นมุมหนึ่งของหนังราวกับอีกเรื่อง ในช่วงแรกจะเป็นการเกริ่นตัวละครพร้อมกับอธิบายต่างๆนาๆและประเด็นอีกมากมาย ซึ่งแต่ละอย่างก็ล้วนมีนัยยะแตกต่างกันไปตามตัวละคร จะน่าเสียดายที่ปมต่างๆที่ร้อยเรียงมายังไม่ให้คำตอบที่ดีพอแต่พอจะเป็นประเด็นปลายเปิดให้ขบคิดต่อยอดไปได้อีก การวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่มีสื่อออนไลน์เป็นตัวกลางคือสิ่งที่ตัวหนังนำเสนอออกมาในรูปแบบขายบริการอย่างหนึ่งที่หากินได้โดยไม่ต้องเข้าหา เพียงแค่กดคลิ๊กก็ได้รับผลที่ต้องการ ความง่ายดายนี่เองจึงเสมือนจุดเปราะบางของสังคมที่มีตัวตนแต่หาไม่เจอในสังคม เกิดเป็นความสับสนระหว่างตัวตนบนสังคมจริงกับสังคมออนไลน์
Girl House ผิวเผินไม่ต่างกับหนังสยองขวัญทั่วไปที่พึ่งพาสูตรสำเร็จด้วยเรื่องเพศที่ต้องเสริฟ์ด้วยนมเนื้อเป็นจุดขายให้ชวนน่าติดตาม ฉะนั้นการเห็นนมในเรื่องนี้ย่อมมีให้เห็นอย่างไม่ต้องปฏิเสธ แต่มีบางอย่างที่ทำให้สูตรหนังสยองขวัญเรื่องนี้น่าสนคือนางเอกของเราไม่ได้บริสุทธิ์ซะทีเดียว แม้การเลือกทำงานเพราะเหตุจำเป็นแต่เมื่อได้ทำงานกลับรู้สึกมีความสุขและไม่อึดอัด ฉะนั้นไม่จำเป็นเสมอไปที่นางเอกจะเป็นคนดีซะทีเดียว กระนั้นไคลี่หรือนางเอกของเรื่องมีความแตกต่างในจุดขายที่ไม่สามารถเห็นนมได้เต็มตาเทียบกับตัวละครอื่นๆที่ไม่ปิดบังหรือใช้มุมกล้องเลยสักนิด แต่ไม่ได้แปลว่าความน่าดูจะน้อยลงไปเพราะบรรดานักแสดงคนอื่นก็ล้วนต่างมีทีเด็ดของตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Alyson Bath,Chasty Ballesteros,Alice Hunter,Nicole Arianna Fox,Zuleyka Silver และ Elysia Rotaru ต้องบอกก่อนสำหรับรายหลังมีการปล่อยของที่จัดว่าเด็ดพอตัวเลยทีเดียว ในเรื่องตัวละครเหมือนจะเยอะแต่ไม่ได้อยู่แยะจนเละเทะนับเป็นข้อดีที่ช่วยให้หนังมีทิศทางที่แน่นอน ทว่าสิ่งที่เห็นชัดสุดคือหนังคงเป็นหนังสยองขวัญไล่ฆ่าที่ไม่ได้พลิกแพลงอะไรมากมายทำให้ไม่ต้องคาดหวังว่าจะเจอความสดใหม่อะไรแค่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยแค่นั้น ส่วนที่บอกเอาไว้ในช่วงแรกของหนังกับท้ายเรื่องมีความแตกต่างยังไงนั้นต้องบอกว่าเหมือนเข้าไปอีกโหมดหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากช่วงแรกคือเกริ่นเนื้อหากับตัวละคร ในขณะที่ช่วงหลังที่ไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงคือการไล่ฆ่าที่ต่อเนื่องตั้งแต่เจ้าของธุรกิจจนถึงบ้านของสาวเกิร์ลเฮ้าส์ สิ่งสำคัญที่ทำให้ดูเว่อร์แต่มีเหตุผลรองรับคือทักษะการตามล่าหาสถานที่จนเจอ ซึ่งเห็นได้จากความสามารถในการแฮ็คที่ไม่ธรรมดา ในครึ่งชั่วโมงหลังสำหรับคอหนังสยองขวัญต้องบอกเลยว่ามันส์กับการฆ่าอย่างมากเพราะไม่มีความปราณีและฆ่าโดยไม่ลังเลชนิดเอาตายชัวร์
ที่ชวนให้นึกถึงหนังตระกูล The Texas Chain Saw Massacre คือเลือกหน้ากากปิดบังตัวเองที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ตัวละครนักฆ่ามีปมด้อยด้วยเช่นกัน(กระนั้นเมื่อเปรียบจริงๆย่อมไม่แตกต่างกันอยู่แล้วแค่เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียน) ในส่วนของการฆ่าที่ไม่ลังเลและบุกลุยฆ่าอยู่ลูกเดียวจนเทียบไม่จำเป็นต้องซุ่มฆ่าทำให้เป็นความสนุกที่มันส์ไม่พอยังต้องโหดอีกด้วย ในด้านตัวละครไม่โชว์ความงี่เง่าให้ชวนรำคาญ นับเป็นข้อดีของเรื่องที่ค่อนข้างชอบเพราะตัวละครเองรู้จักแก้ปัญหาเพื่อเอาตัวรอด ส่วนจะรอดมากรอดน้อยต้องให้ติดตามกันเอาเอง ด้านไคล์แม็กซ์ค่อนข้างชอบไม่น้อยที่แม้จะสูตรสำเร็จตัวร้ายเจอนางเอกแต่การเจอกันดูจะเป็นความกล้าของนางเอกที่เอาจริงและวางแผนเข้าสู้ทำให้สนุกและลุ้นไม่น้อยกับการโค่นฆาตกรร่างใหญ่ ถ้าไม่คาดหวังจนเกินตัวให้นับเป็นหนังสยองขวัญสูตรสำเร็จที่เล่าเรื่องสนุกและปล่อยทีเด็ดเริ่มการฆ่าไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงท้ายเรื่องได้ลุ้นได้โหดจนน่าจะตอบโจทย์ได้ไม่มากก็น้อย