Animals Are Beautiful People (1974) | สัตว์โลกผู้น่ารัก
Director: Jamie Uys
Genres: Comedy | Documentary
Grade: A
ถ้าจะหาหนังสารคดีเกี่ยวกับสัตว์สักเรื่องที่ดูแล้วโล่งหัวสบายใจอารมณ์ดีต้องแนะนำเรื่องนี้ก่อนเลยทันที แล้วจริงหรือที่บอกเช่นนั้น ให้เริ่มจากได้รางวัลลูกโลกทองคำ สาขาสารคดียอดเยี่ยม ในงานภาพยนตร์ชื่อดัง Golden Globe Award แน่นอนว่าอย่างน้อยต้องดีในสายตานักวิจารณ์ ส่วนจะดีสำหรับผู้ชมทางบ้านมากน้อยแค่ไหนโดยส่วนบอกเลยว่าดีมาก แต่คำว่าดีไม่เพียงพอกับเรื่องนี้ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ต้องบอกว่าสารคดีเรื่องนี้มันสุดยอดเลยเสียโดยซ้ำ เพราะหลายอย่างดูเกินความคาดหมายอย่างมาก หลายอย่างได้ถ่ายทอดมุมมองที่ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน ทว่าในหลายๆอย่างนี้เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ ดินแดนที่แห้งแล้งจนไม่น่ามีสัตว์หรือพืชชนิดใดอยู่ได้ ซึ่งความไม่ธรรมดาที่ความแล้งแห้งนี้อุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายจนน่าแปลกใจ
แอฟริกาใต้ขึ้นชื่อเรื่องความแห้งแล้ง แต่แปลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายรูปแบบ เช่นกันกับความไม่ธรรมดาของเรื่องนี้ที่ใช้เวลาเก็บเกี่ยวถึง 3 ปีครึ่งกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างสารคดีเรื่องนี้ได้ และเหมือนว่าช่วงเวลาเหล่านี้ได้ใช้อย่างคุ้มค่ามากทีเดียว เริ่มแรกจะเห็นได้ถึงวิถีชีวิตของกิ้งก่าทะเลทรายกับงูสายพันธุ์หนึ่งที่ต่างมีเทคนิคในการเอาตัวรอดของตัวเอง โดยสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ที่นำมาเปิดเรื่องได้ทิ้งคำถามอย่างหนึ่งเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่ในทะเลทรายได้อย่างไร ทำไมที่แห้งแล้งเช่นนั้นถึงมีสัตว์อาศัยอยู่ ทำไมไม่ไปอาศัยในป่าที่อุดมสมบูรณ์ แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้อยู่ที่การปรับตัว บางทีเรื่องอุมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้หรือน้ำอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นเสมอไป อยู่ที่จะเอาตัวรอดได้ยังไงมากกว่า
สารคดีนี้ได้ใช้พื้นที่หลักๆอยู่หลายสถานที่ เช่น ดินแดนทะเลยทรายนามิบ , ทะเลทรายคาลาฮารี , แม่น้ำโอกาวางโก และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก โดยจะเล่าในส่วนของความแห้งแล้งก่อนจะค่อยๆไล่ไปหาความสมบูรณ์ที่เป็นดังสวรรค์ของสัตว์ ในขณะเดียวกันก็ไล่ลำดับความสมบูรณ์ไปหาความแห้งแล้งอีกครั้ง ประเด็นของสารคดีทำได้ดีมากทีเดียวที่พยายามตอบคำถามการใช้ชีวิตในทะเลทรายที่ไม่มีใครอยู่ได้แต่สัตว์สามารถอยู่ได้ ที่น่าทึ่งกว่าคือการทำอย่างไรให้ดินแดนที่ดูเหมือนสวรรค์ทิ้งมีแต่ความสุข และที่ทึ่งไปอีกคือเล่าเรื่องได้อย่างไรให้ออกมาตลกน่าขบขันเช่นนั้นได้ ซึ่งความทึ่งนี่แหละที่ช่วยเราตอบคำถามทีละนิดละหน่อยเกี่ยวกับสัตว์ว่าทำไมถึงมีชีวิตรอดกันได้
ถ้ารู้จัก The Gods Must Be Crazy (1980) ต้องไม่พลาดสารคดีเรื่องนี้ที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวอะไรกันแต่มีจุดเชื่อมโยงเหมือนกันที่การใช้ชีวิตในทะเลทราย ทั้งเป็นผู้กำกับ Jamie Uys คนเดียวกันอีกด้วย จากในเรื่องจะเห็นคนป่าที่พยายามหยิบกิ้งไม้มาตกแต่งตัวเองให้เหมือนนกกระจอกเทศเพื่อปลอมตัวไปขโมยไข่ แน่นอนว่าฉากนี้ได้ถูกนำไปใช้อีกทีใน The Gods Must Be Crazy II (1989) ที่พยายามปลอมตัวหลอกล่อความสนใจ ส่วนจะหลอกได้สำเร็จหรือไม่อันนี้ขอเก็บไว้ชมเองดีกว่า เพราะจะได้ทั้งความฮาและไอเดียที่ช่างกล้าช่างคิดจนน่าตบมือ และจุดขายคือการเอาตัวรอดด้วยน้ำ ประเด็นคือจะหาน้ำจากไหนในเมื่อมีแต่ดินกับทราย วิธีนี้หาได้จากการกินน้ำค้างตามต้นหญ้า แต่วิธีที่เหนือกว่านั้นคือการหาต้นมันที่ฝังอยู่ในพื้นดินแล้วเอามาขูดเปลือกออก จากนั้นเอาเศษเปลือกเหล่านั้นมากำไว้ในมือเพื่อรีดเอาน้ำออกมา นับเป็นวิธีของคนป่าที่แสดงถึงการเอาตัวรอดจากธรรมชาติที่โหดร้ายได้อย่างชาญฉลาด
Animals Are Beautiful People ใช้วิธีเล่าเรื่องที่นำเสนอด้านบวกของสัตว์สร้างอารมณ์ดีและตลกจนลืมความโหดร้ายของแอฟริกาไปเลย กระนั้นด้านบวกย่อมมีด้านลบที่แสดงให้เห็นการสูญเสียตามธรรมชาติ อย่างการสร้างรังนกที่บางชนิดสร้างกันเป็นรังใหญ่บนต้นไม้ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่มีข้อเสียที่ร้ายแรงคือความร้อนที่นำไปสู่การเกิดไฟจากผลของน้ำค้างที่ช่วยดึงแสงจากดวงอาทิตย์ให้ลุกไหม้ เช่นเดียวกันนกบางชนิดได้สร้างรังเพื่อดึงดูดนกเพศเมีย แต่การดึงดูดเพศเมียได้นั้นต้องขึ้นกับความพอใจที่ชอบรังหรือไม่ ถ้ารังไม่ถูกใจนกเพศเมียจะทำลายรังทันทีอย่างไม่ใยดี และอีกมากมายที่เป็นไปตามธรรมชาติของผู้ล่าและผู้ถูกล่าที่วนเวียนเป็นวัฏจักรสิ่งมีชีวิต
แต่ที่น่าสะเทือนใจสุดคือความแห้งแล้งที่สามารถฆ่าได้ทุกชีวิตอย่างไม่มีความปรานีถ้าไม่เกิดฝนตก จริงๆแล้วสิ่งมีชีวิตต้องการน้ำด้วยกันทั้งสิ้นเพราะน้ำคือแหล่งสำคัญของสิ่งมีชีวิตที่เสมือนผู้ให้และสัตว์หรือพืชมีหน้าที่รับ ถ้าไม่เกิดฝนจะมีแต่แห้งแล้งมากขึ้น ขณะเดียวกันถ้าเกิดฝนจะกลายเป็นสวรรค์บนดินทันที ความสนุกที่ไม่ธรรมดานอกจากการตัดต่อแล้วยังมีเรื่องของบรรยายที่มองธรรมชาติอย่างเข้าใจ มีการสอดแทรกจินตนาการที่สร้างเป็นเรื่องเป็นราวอย่างกลุ่มเมฆกับดวงอาทิตย์ที่สู้กันเพื่อความอุมสมบูรณ์กับความแห้งแล้ง การต่อสู้นี้เองที่มีผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องจะเห็นว่ากลุ่มเมฆชนะและฝนตกลง แต่กว่าจะได้ชัยชนะต้องสูญเสียเวลาไปมากแค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องอดทนรอที่มีแต่สัตว์ที่เข้มแข็งเท่านั้นที่อยู่จนฝนตกได้
ฉากที่สวยงามของเรื่องนี้คือฉากหลังจากฝนตกที่มอบชีวิตแก่บรราดาสัตว์มากมายนานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าพืชที่ต่างดีใจงอกเงยขึ้นจากพื้นดินหลังจากอดทนรอมาหลายปี พืชเหล่านี้ได้ออกดอกมากมายจนมีสภาพที่แตกต่างกับความแห้งแล้งจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทว่าความสวยงามเป็นเพียงสิ่งที่เกิดและจากไป หลังผ่านพ้นไปได้สักระยะทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม พืชจะตายและทิ้งเมล็ดตัวเองลงพื้นดินเพื่อรอการมาของฝนครั้งต่อไป แต่ก่อนความแห้งแล้งจะมาถึงต้องชมก่อนว่าความสวยงามของเรื่องนี้จะน่าอัศจรรย์ใจ ตั้งแต่การตัดต่อภาพอย่างเป็นเรื่องราวแม้กับดอกไม้ที่เหมือนกระโดดดีใจต้อนรับวันที่สดใส ที่ดีกว่านั้นคือดนตรีประกอบที่ล้วนมีเสน่ห์น่าดึงดูดและงดงามจนคิดไปเองว่าที่อันตรายเช่นนี้ยังมีความน่าอยู่ไม่น้อย สำหรับดนตรีประกอบดังกล่าวเป็นเพลงคลาสสิคทั้งสิ้น อาทิเช่น Brahms Hungarian Dance No. 5,Waltz of the Flowers,Invitation to the Dance,Die Moldau และ Les pr'ludes,symphonic poem No.3 เพลงเหล่านี้ใช้ประกอบเล่าเรื่องได้อย่างวิจิตรสวยงามจนน่าตบมือดังๆหลายที
แน่นอนว่าความสนุกนี้เองได้กลายเป็นข้อเสียที่พยายามเล่าด้วยจินตนาการแต่ขาดองค์ความรู้ แม้ว่าสารคดีเรื่องนี้จะให้อะไรหลายอย่างที่เพลิดเพลินแต่ลืมการให้ความรู้ที่สำคัญไปอยู่บ้าง ดังนั้นถ้าดูแบบเอาความรู้เป็นจริงเป็นจังอาจต้องมองข้ามเพราะเรื่องนี้ให้ความรู้ระดับพื้นๆเท่านั้น จะว่าแล้วสารคดีเรื่องนี้ออกแนวสำรวจมากกว่า เป็นการตามดูการใช้ชีวิตของสัตว์และพืชที่อยู่กันยังไงในสภาพภูมิศาสตร์แสนกันดารเช่นนี้ และทุกอย่างดูสนุกสนานอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน โดยอย่างยิ่งกับฉากกินผลมารูล่าที่สัตว์น้อยเล็กใหญ่พอกันมากินอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่ผลไม้ชนิดนั้นจะแผลงฤทธิ์ ช่วงเวลานี้แหละที่เราจะได้เห็นความตลกของสัตว์ที่พากันสับสนคล้ายคนเมาที่เดินเซลุกไม่ขึ้น ยิ่งเกิดขึ้นกับลิงยิ่งพาฮาไปกันใหญ่ กลายเป็นอีกช่วงเวลาความสุขของเหล่าสัตว์ที่หาได้จากแอฟริกาใต้ที่ตัวเราเองอาจเทียบเป็นนรกบนดินแต่กับสัตว์หรือพืชคือสวรรค์อีกแห่งที่สงบและมีเสน่ห์ในแบบของมันเอง ฉะนั้นแล้วคำถามที่ให้ไว้กับความโหดร้ายที่คนธรรมดาทั่วไปอยู่ไม่ได้แต่สิ่งมีชีวิตที่นี้อยู่ได้คงมีคำตอบให้สำหรับทุกคนไม่มากก็น้อย และเชื่อทุกคนจะต้องชอบและรักสารคดีเรื่องนี้เช่นกัน