Cujo (1983) | คูโจ เขี้ยวสยองพันธุ์โหด
Director: Lewis Teague
Genres: Horror | Thriller
Grade: C+
"ไม่แนะนำสำหรับคนที่ไม่ชอบหมาเพราะอาจทำให้กลัวหมายิ่งกว่าเก่าก็เป็นได้"
เป็นอีกเรื่องที่หยิบนิยายของ Stephen King มาดัดแปลง โดยตัวนิยายได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงขณะกำลังซ่อมรถมอเตอร์ไซค์แล้วมีหมาร้องขู่ใส่เขา ฉะนั้นจะไม่มีฉากที่เกี่ยวกับซ่อมรถคงเป็นไปไม่ได้ มิหนำซ้ำยังกลายเป็นฉากที่ดีเยี่ยมที่สุดในเรื่องอีกด้วย แต่กว่าจะเล่าเรื่องไปถึงช่วงเวลานั้นต้องบอกก่อนว่านานพอสมควร นานจนถึงขั้นน่าเบื่อกันเลยทีเดียว เพราะช่วงแรกจะเป็นการเกริ่นครอบครัวเทรนตันที่มีสมาชิกด้วยกัน 3 คน ได้แก่ วิค (Daniel Hugh Kelly) หัวหน้าครอบครัว,ดอนนา (Dee Wallace) ภรรยาที่มีปัญหาเก็บซ่อนเอาไว้ และเท็ด (Danny Pintauro) ลูกชายที่กลัวการอยู่คนเดียวเพราะเห็นสัตว์ประหลาด นอกจากจะเกริ่นถึงครอบครัวที่เป็นตัวละครหลักแล้วยังบอกถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นั้นคือคูโจหรือหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดที่ตัวโตเต็มที่กำลังหากระต่ายที่หมายเป็นเนื้ออันแสนอร่อย จนการไล่ล่าจบลงที่กระต่ายมุดเข้าโพร่งได้สำเร็จ ขณะที่คูโจไม่ยอมลดละพยายามมุดโพร่งนั้นตามแต่เข้าได้แค่หัว ซึ่งภายในโพร่งนั้นเป็นที่พักอาศัยของค้างคาวและพวกมันตกใจจึงกัดจมูกคูโจ หลังจากนั้นคูโจได้เปลี่ยนไปกลายเป็นความคลุ้มคลั่งอย่างไม่มีวันห้วนกลับ
โดนส่วนตัวคิดว่าการเปิดเรื่องของคูโจด้วยการถูกกัดแล้วติดเชื้อพิษสุนัขบ้าดูจะเร็วเกินไป เร็วจนคูโจเป็นเพียงตัวละครหนึ่งที่รับบทแปรสภาพเพื่อความสยองขวัญเพียงด้านเดียวจนลืมไปว่าอีกมุมหนึ่งมันคือหมาที่เจ้าของและควรมีช่วงเวลาที่น่ารักและมีความสุขอยู่บ้าง ซึ่งตัวหนังแทบไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลยจนคูโจเสมือนสัตว์กระหายเลือดที่รอออกอาการ อีกด้านหนึ่งเห็นได้ชัดว่าคูโจเป็นเพียงหมาเฝ้าบ้านธรรมดาตัวหนึ่งที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูชนิดพิเศษพิโสอะไรนักเพราะครอบครัวแคมเบอร์ที่เลี้ยงอยู่นั้นต่างมีแค่เรื่องของตัวเองเกินกว่าจะมองหาคูโจ ฉะนั้นบางทีการที่คูโจออกจากบ้านไปอาจเป็นการหาเรื่องสนุกทำแก้เซ็งอยู่ก็ได้ แต่ความทุกข์ไม่ได้มีแค่กับหมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาครอบครัวเทรนตันที่กำลังประสบทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเรื่องงานที่เกิดวิกฤตขึ้นมากระทันหันเพราะขนมซีเรียลที่ตัวเองทำขึ้นมาไปสร้างปัญหาแก่เด็กๆ หรือจะเรื่องชู้ของดอนนาที่ไม่จบไม่สิ้นสักทีจนทำให้ความสัมพันธ์ครอบครัวมีรอยร้าวขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่าการให้คูโจได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าในตอนเปิดเรื่องอาจเป็นการสื่อถึงระยะเวลาการติดเชื้อที่ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าระหว่างที่อาการค่อยๆออกฤทธิ์จะเน้นไปกับการเล่าถึงครอบครัวเทรนตันว่าใครเป็นยังไงกันบ้าง อย่างแรกที่เห็นคือหนูน้อยเท็ดที่มีอาการหวาดกลัวเวลาอยู่คนเดียวโดยเฉพาะตอนนอน ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะคล้ายกับหนังแทบทุกเรื่องที่เด็กจะมีอาการกลัวความฝันและส่งผลกระทบต่อจิตใจอยู่บ่อยครั้ง ในตอนแรกยังหลงคิดด้วยซ้ำว่าสัตว์ประหลาดที่เท็ดเห็นคือคูโจที่แอบเข้ามาในห้องนอนหรือเปล่า แต่สุดท้ายไม่ใช่และเป็นเพียงจินตนาการของเด็กที่แสดงความกลัวแค่นั้น เมื่อเรื่องของเด็กคลายปมอย่างง่ายดายก็ถึงคราวของผู้ใหญ่ที่พบว่ากำลังอยู่ในช่วงขาดความไว้ใจซึ่งกันและกัน ประเด็นนี้ไม่ได้เริ่มจากฝ่ายชายแต่เป็นฝ่ายหญิงเสียเองที่มีชู้ ซึ่งกว่าจะคิดได้ทำให้วิคต้องรู้สึกเสียใจจนไม่อยากจะเอ่ยปากด้วย
ความสัมพันธ์ของวิคกับดอนนานั้นไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนแต่อย่างใด ทว่าตัวหนังพยายามเล่าเรื่องให้ซับซ้อนจนกลายเป็นความน่าเบื่อเสียเอง ซึ่งตัวดอนนาได้พยายามจะเลิกเพราะตัวเองมีลูกมีครอบครัวแล้ว ทว่าสตีฟ เคมพ์ (Christopher Stone) ไม่ยอมเลิกด้วย นั้นจึงกลายเป็นความรุนแรงที่ดอนนาต้องเผชิญจากความลำบากใจที่ตัวเองสร้างขึ้น ในสายตาของวิคมองดอนนาเป็นผู้หญิงไม่ดี ในขณะที่สตีฟคิดว่าตัวเองกำลังถูกทิ้งและไม่สมควรเกิดขึ้น ปมปัญหานี้จึงกลายเป็นจุดแตกร้าวที่มีเพียงเท็ดไม่รับรู้อะไรเลยว่าครอบครัวของตัวเองกำลังพังทลายในที่สุด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจนเกือบจะจบลงสักทางได้ถูกทำให้ค้างคาเพราะการงานมีปัญหาจนวิคต้องเข้าเมืองเพื่อเคลียร์ธุรกิจของตัวเอง การจากลาของวิคกับดอนนาจึงมีสภาพที่น่าข่มขื่นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ปมต่างๆที่วางไว้ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดเดาเพราะเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่จวนจะพังสามารถซ้อมด้วยองค์ที่สามของหนัง กระนั้นสิ่งที่คิดกลับกลายเป็นส่วนที่หายไปเพราะเล่าเรื่องได้จบแล้วจบกันทีทั้งที่ยังต่อให้สมกับคำว่าจบได้แท้ๆ
สิ่งที่ชอบคือการสร้างสถานการณ์บังเอิญที่เน้นกดดันมากกว่าจะให้ตัวละครมาตายแล้วตายเล่าอย่างไม่มีสมเหตุสมผล เริ่มแรกก่อนที่คูโจจะฆ่าคนได้ถ่ายทอดอารมณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆจากอาการซึมจนถึงขั้นรำคาญเสียงที่ได้ยิน จนสุดท้ายกลายเป็นความคลุ้มคลั่งที่ไม่อาจสั่งหรือทำให้กลัวได้แต่อย่างใด การเลือกหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดนับเป็นสิ่งที่ดีเพราะทั้งขนาดตัวที่ใหญ่คว่ำคนได้อย่างสบาย การแสดงสีหน้าข่มขู่ที่แสนดุร้าย และที่สำคัญคือเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ไม่ทำอันตรายแก่ใครเว้นจะถูกทำร้ายก่อนได้กลายเป็นหมาที่ดุร้ายป่าเถื่อนทำได้ถูกอย่างเพื่อให้เหยื่อสิ้นลมหายใจตายในที่สุด เมื่อคูโจกลายเป็นหมาบ้าเต็มตัวก็เผอิญเป็นช่วงที่ไม่เหลือใครนอกจากดอนนากับเท็ดที่ประจวบเหมาะเจาะมาซ่อมรถพอดิบพอดี เช่นเดียวกันที่ร้านมาซ่อมนั้นคือบ้านคูโจที่ตอนนี้ไม่เหลือใครสักคน ทว่าความพลิกพันได้เกิดขึ้นกับดอนนาที่ไม่อาจหนีคูโจได้เพราะรถเกิดมาเสียพอดีและต้องเผชิญกับคูโจที่เป็นบ้ารอขย้ำคอทุกครั้งที่เปิดประตู
Cujo มีช่วงแรกที่น่าเบื่อเพราะเนิบนาบมากเกินไปจนน่าจะคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ซับซ้อนจนต้องมาทำความเข้าใจเพิ่มเติม ด้วยข้อเสียที่ย้ำนักย้ำหนาจึงรู้สึกว่าตัวละครไม่ได้พัฒนาอะไรกันเท่าไร จะมีเพียงคูโจที่ค่อยๆพัฒนาเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวร้ายมากขึ้นจนสามารถฆ่าทุกคนที่เห็นในสายตา ด้วยความบ้าคลั่งนี่เองทำให้หนังสนุกขึ้นมาทันทีจากความน่าเบื่อที่ไร้อารมณ์เรื่อยๆ และฉากที่เยี่ยมที่สุดคือการเผชิญหน้าระหว่างคูโจกับดอนนาและเท็ดที่ต่างกลายเป็นผู้ล่าและผู้ถูกล่า ความกดดันทำได้อึดอัดจนรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวตลอดเวลา นับว่าเป็นไคล์แม็กซ์ที่สมแก่การอคอยแบบเดียวกับคูโจที่คลั่งกันสุดๆ จะเป็นยังไงถ้ารถเกิดเสียโดยมีหมาบ้ารอขย้ำคออยู่นอกตัวรถถือเป็นฉากที่น่าจดจำเลยทีเดียว เนื่องจากจะได้เห็นการเอาตัวรอดที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับสัตว์กระหายเลือด ทั้งยังเป็นการกดดันที่ส่งผลต่อตัวเท็ดจนดอนนาต้องสู้ตายกันไปข้างหนึ่ง ในจุดนี้จะเห็นถึงความเป็นแม่ที่ผิดพลาดในชีวิตแค่ไหนแต่กับลูกยังคงทำเต็มความสามารถไม่ทิ้งเด็ดขาด นอกจากจะกดดันจนบรรยากาศน่าหดหู่ใจแล้วยังรู้สึกได้ถึงความมันส์ที่ต่างคนต่างสัตว์ไม่ยอมกันง่ายๆ น่าเสียดายที่ประเด็นครอบครัวไม่ได้เล่าต่อจากนี้จะเป็นยังไงบ้างจนจบได้ไร้อารมณ์และง่ายเกินไปหน่อย ถ้าไม่ติดฉากรถเสียแล้วเจอคูโจกำลังบ้าอาจเป็นความน่าเบื่อที่รู้สึกทื่อน่าผิดหวังในทันที