Oldboy (2003) | เคลียร์บัญชีแค้นจิตโหด
Director: Chan-wook Park
Genres: Action | Drama | Mystery | Thriller
Grade: A
"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"
ว่าด้วยการแก้แค้นของโอแดซู (Min-sik Choi) ชายที่ถูกจับขังในห้องปิดตาย แต่เรื่องราวก่อนที่ถูกจับขังอย่างไร้เหตุผลนั้นได้เริ่มในคืนที่เขาเมาเหล้าจนต้องเข้าโรงพักก่อนจะถูกประกันตัวเพื่อไปงานวันเกิดลูกสาวตัวเอง หลังจากนั้นถึงรู้ตัวอีกทีเมื่ออยู่ในห้องที่ไม่สามารถไปไหนได้นอกจากช่องเปิดปิดสำหรับส่งอาหารที่มีเพียงเกี๊ยวซ่าเท่านั้น ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรถึงถูกขังในห้องปิดตายได้ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง ไม่มีรายละเอียดหรือเหตุผลใดที่ทำให้ต้องถูกทรมานในห้องแคบๆได้ ยิ่งโอแดซูคิดมากเท่าไรยิ่งไม่มีความหมาย เพราะอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ กระทั่งเวลาได้ล่วงเลยไปหลายปีจนสภาพไม่ต่างกับคนข้างถนนที่มีผมเผ้ารุงรังและใบหน้าที่ที่มีรอยย่นมากขึ้นเพราะไม่อาจใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทว่าถึงผมจะยาวขึ้นจนดูแย่แค่ไหนยังคงได้รับบริการพิเศษตัดผมให้ด้วยการใช้แก๊สสลบเข้าไปในห้อง แน่นอนว่าถึงพยายามจะทำให้ตัวเองเกือบตายแค่ไหนยังได้รับการรักษาให้หายดีตลอดเวลา ราวกับว่าโอแดซูถูกเลี้ยงในกรงให้ใช้ชีวิตต่อไปโดยห้ามตายเด็ดขาด
กระทั่งโอแดซูเริ่มใช้ชีวิตด้วยความหวังบางอย่างด้วยการทำให้ตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น เริ่มบันทึกเรื่องราวต่างๆในแต่ละวัน ออกกำลังกายชกมวยจากการเลียนแบบในทีวี และแหกกรงในที่เขาอยู่โดยอาศัยความพยายามในการขุดทีละน้อยจนมั่นว่าอีกไม่นานจะหลุดจากที่นี้ได้ ทว่าความมั่นใจที่จะหลุดพ้นในห้องแคบๆได้มาถึงเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว โอแดซูรู้สึกตัวอีกทีถูกปล่อยทิ้งบนตึกที่พึ่งออกจากกล่องใบหนึ่งที่เก็บตัวเขาเอาไว้ ไม่รู้ว่าคือที่ไหน แต่จู่ๆจากห้องแคบมาเป็นเพดานฟ้ากลายเป็นความเหลือเชื่อสำหรับเขาที่ได้รับอิสระ กว่าจะมาถึงฉากนี้ต้องเห็นการทำร้ายจิตใจถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกเกิดกับชีวิตที่ต้องทนทรมานในห้องราวกับคุกที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ให้ใครสักคนสาแก่ใจ ครั้งที่สองเป็นการทำลายความหวังที่กำลังจะหลุดพ้นจากห้องบ้าๆที่อุตส่าห์วางแผนอย่างดี แต่แผนดันพังเพราะถูกจับออกมาดื้อๆ ทำให้แผนที่เหนื่อยมาหลายปีไม่มีความหมาย แต่โอแดซูไม่ได้เสียดายอะไรเพราะออกมาสัมผัสข้างนอกแล้ว และสิ่งที่ต้องทำคือการหาคนที่จับเขาขังไว้นานแสนนานในห้องถึง 15 ปีให้ได้
แปลกดีที่ชีวิตของชายคนหนึ่งจะถูกเลี้ยงเอาไว้ในห้องราวกับของรักที่ไม่ยอมปล่อยให้เสื่อมสลาย จะต้องมาทำความสะอาดบ้างล่ะ ดูแลให้มีสุขภาพที่ดีบ้างล่ะ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนนอกของร่างกายเพราะส่วนในจิตใจจะเป็นยังไงนั้นต้องเรียกว่าช่างหัวมัน เหมือนเวลาเลี้ยงสัตว์ในกรงที่คอยป้อนน้ำป้อนอาหารอย่างดี ไม่มีภัยอันตรายเพราะถูกจำกัดพื้นที่ แต่เคยถามหรือไหมว่าต้องการแบบนี้หรือเปล่า กับสิ่งที่พึ่งเกิดอาจจะไม่รู้อะไร แต่กับสิ่งที่ใช้ชีวิตของตัวเองมาก่อนแล้วมาเปลี่ยนด้วยการบังคับคงมีแต่ความแค้น ความแค้นที่เกืดจากการถูกทรมานด้วยความเบื่อหน่ายที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย โอแดซูก็เช่นกันที่กำลังจะไปงานวันเกิดลูกสาวตัวน้อยแต่ไม่อาจไปได้เพราะถูกตำรวจคุมตัวในโรงพัก แค่เริ่มเรื่องก็แสดงถึงความหงุดหงิดที่อยากจะไปเท่าไรยิ่งถูกห้ามเท่านั้น แล้วไหนจะถูกจับขังห้องตลอด 15 ปียิ่งไม่ต้องบอกว่าอารมณ์ที่สั่งสมมานานจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อได้ระบาย
มิโด (Hye-jeong Kang) คือผู้หญิงที่พาตัวโอแดซูมาพักที่ห้องเพราะสลบไปในร้านอาหารหลังจากกินปลาหมึกตัวเป็นๆ ฉากนี้กลายเป็นที่น่าจดจำในทันทีเพราะสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้ดุดันจนไม่ต้องบรรยายให้มาก แค่สั่งปลาหมึกที่หนวดยังขยับไปมาถูกกลืนกินอย่าเลือดเย็นก็สื่อถึงความไร้น้ำใจไม่สนความเจ็บปวดอีกต่อไป แต่นักแสดง Min-sik Choi ต้องทำใจก่อนกินเจ้าปลาหมึกโชคร้ายตัวนั้นเพราะตัวเองนับถือพุทธ สำหรับเรื่องนี้เขาเชื่อว่าความแค้นที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้จะเป็นสิ่งเตือนใจให้ใครหลายคน จึงยอมทุ่มเทให้กับฉากนี้จนเป็นความน่ากลัวและอัดอั้นในใจ ประหนึ่งจะระบายออกมาแต่ระบายออกมาไม่ได้ จึงกลืนสิ่งนั้นด้วยความเจ็บใจเพราะไม่อาจรู้ว่าคนที่กำลังตามแค้นอยู่นั้นคือใครและหาได้ที่ไหน ทว่าหลังจากฟื้นขึ้นมาจากที่สลบไปพักหนึ่งต้องแปลกใจที่เจอมิโดนอนอ่านสมุดบันทึกในสิ่งที่เขียนเรื่องราวตอนถูกขังเอาไว้ ตอนนี้กลายเป็นว่ามิโดเชื่อโอแดซูและอยากจะช่วยตามสืบเรื่องราวทั้งหมด
โดยส่วนตัวรู้สึกแปลกๆที่ตัวละครมิโดได้เข้ามาช่วยโอแดซูราวกับเป็นคนที่ตัวเองรู้จักมาก่อน ด้วยท่าทางของโอแดซูจะเป็นคนที่ไว้ใจได้ก็ไม่อาจบอกว่าใช่หรือใกล้เคียงสักนิด แถมดีไม่ดีดูจะเสียสติเสียด้วยซ้ำ เพราะอะไรมิโดถึงเชื่อใจง่ายขนาดนั้น หรือเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนเพราะใจอ่อน หรือยังไงนั้นไม่ได้เล่ารายละเอียดนอกจากเข้าช่วยสืบความจริง แต่การหาว่าใครคือตัวการดูจะไร้ข้อมูลนอกจากรสชาติของเกี๊ยวซ่าที่กินมาตลอด 15 ปีจนไม่มีทางลืมความอร่อยที่แสนน่าเบื่อลงได้ วิธีการหาข้อมูลจากศูนย์ได้เริ่มต้นอย่างรวดเร็วจากการเป็นนักชิมเกี๊ยวซ่าในทุกร้านจากเบาะแสอันน้อยนิด ด้วยวิธีอันพิสดารนี้เองทำให้สาวจนเจอสถานที่ที่เคยขังเขาไว้ แน่นอนว่าเหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่น่าจดจำเพราะเป็นฉากที่ถ่ายทำกันด้วย Long Take เกี่ยวกับการต่อสู้ของโอแดซูด้วยอาวุธอันแสนแหวกแนวกอย่างค้อนธรรมดาเพียง 1 อันเพียวๆ ค้อนตอกประตูกับชายฉกรรจ์นับสิบที่เข้ารุมอย่างไม่แคร์ว่าตัวเองจะได้เปรียบมากน้อยแค่ไหน การต่อสู้ที่ไม่ได้มันส์จนคอแอคชั่นห้ามพลาด แต่เป็นต่อสู้ที่สมจริง มีความทุลักทุเลปะปนไปกับการชกต่อยหรืออาวุธที่ไร้หลักเกณฑ์ การถ่ายทอดแค่มุมด้านข้างที่เก็บรายละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉากนี้จึงกลายเป็นความดิบของการวิวาทที่เหมือนไม่รุนแรงแต่หนักหน่วง
จนกระทั่งการสืบได้คำตอบว่าคือลีวูจิน (Ji-tae Yu) ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดและยังคงเฝ้าติดตามอย่างลับๆไม่คาดสายตา เมื่อรู้ว่าคนทำหน้าตาเป็นแบบไหน ทว่าไม่อาจทำอะไรได้เลยแม้จะสามารถฆ่าได้ทันทีก็ตาม นั้นเพราะสิ่งที่ค้ำคอโอแดซูคือความจริงเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะอะไรถึงได้แค้นตัวเขาขนาดจับมาขังไว้ในห้องนานหลายสิบปี เรื่องนี้ไม่ต่างกับความอึดอัดที่วุ่นวายแบบหนวดปลาหมึกที่หาความซื่อตรงไม่ได้เพราะพัวพันกันไปหมด โอแดซูได้แต่รอโอกาสหาทางตอกความแค้นคืนเท่าที่รอได้ กระทั่งการสืบหาความจริงและการอดทนแก้แค้นได้มาถึงหนทางที่ควรจะมาถึง โอแดซูเป็นเหตุอะไรให้ลีวูจินต้องทำกับเขาแบบนี้ เรื่องนี้มาจากอดีตสมัยเด็กที่โอแดซูได้นำความลับบางอย่างไปกระจายข่าวแก่ทุกคนจนคนนั้นไม่อาจรับความจริงที่ถูกปล่อยออกมาได้จนต้องจบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตาย ทว่าการตายของใครคนนั้นไม่ใช่การตายแค่คนเดียวแต่ยังรวมถึงลีวูจินที่ไม่ต่างกับตายทั้งเป็น ซึ่งคนนั้นไม่ใช่ใครแต่เป็นลีซูอา (Jin-seo Yoon) พี่สาวของลีวูจินนั้นเอง
Oldboy ไม่ใช่หนังแก้แค้นธรรมดาที่เล่าเรื่องการเอาคืนอยู่ผ่ายเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นต้องเริ่มจากการอดทนรอคอยในเวลาที่เหมาะเจาะเพื่อให้สาสมแก่ใจมากที่สุด ในช่วงแรกการแก้แค้นมีมิติอยู่ฝ่ายเดียวคือโอแดซูที่ผู้ชมเข้าใจอย่างหนึ่งคือถูกทรมานด้วยการกำหนดขอบเขตเหลือแค่ห้องแคบๆ เมื่อถูกปล่อยตัวออกมาจึงเริ่มการเสาะหาที่อยู่เพื่อเอาคืนในสิ่งที่ตัวเองทนในห้องอย่างเปล่าเปลี่ยวเดี่ยวดาย ความทรมานที่ไม่เจอหน้าครอบครัวโดยไม่ทันบอกลาสักคำ ความทรมานที่ออกจากห้องต้องสูญเสียครอบครัว นั้นทำให้โอแดซูแค้นยิ่งกว่าใครๆหลายเท่า ทว่าเมื่อความจริงปรากฎถึงเข้าใจสิ่งที่โอแดซูได้รับมาจากความแค้นของอีกคนหนึ่งที่ตัวเองได้ก่อปัญหาส่งผลต่อชีวิตใครคนหนึ่งจนไม่อาจกลับมาใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้ เรื่องของเรื่องคือความสอดรู้สอดเห็นและพูดมากของโอแดซูนั้นแหละที่กลายเป็นต้นเหตุให้เป็นเช่นนี้ ในส่วนของความจริงที่เฉลยยังไม่ถึงกับน่าทึ่งซะทีเดียวเพราะยังไม่มีอะไรที่เข้มข้นจนรู้สึกว่าต้องทำขนาดนี้หรือส่งผลกระทบขนาดนี้ แต่ความจริงที่ซ้อนความจริงอีกทีกลายเป็นตกตะลึงยิ่งกว่าจนเรื่องนี้จบลงอย่างน่าหดหู่และสะเทือนใจกันอย่างสุดๆ
แค้นโอแดซูคือความแค้นที่เกิดจากลีวูจินที่อยากทรมานถึงการสูญเสียคนสำคัญในทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่การจำลองเหตุการณ์การเสียคนรักอย่างฉับพลันด้วยการนำมาขังไว้ในห้อง ไม่ต้องพบต้องเจอยาวนานถึง 15 ปี อย่างที่สองคือเรื่องจริงที่ไม่อาจพบครอบครัวของตัวเองที่หายไปมิอาจห้วนคืน และสุดท้ายคือการหยอกล้อถึงต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดด้วยการทำให้หนักหน่วงยิ่งกว่าครั้งในอดีต เริ่มต้นสาเหตุมาจากโอแดซูไปบังเอิญเห็นความสัมพันธ์ระหว่างลีวูจินกับลีซูอาที่เกินคำว่าพี่กับน้องจนกลายเป็นปัญหาเรื่องเพศที่หนาหูกันให้ทั่วถึงขั้นอับอายเกินรับทนไหว เมื่อเป็นเช่นนั้นลีซูอาจึงฆ่าตัวตายทั้งต่อหน้าลีวูจินจนเป็นภาพที่ลืมไม่ลงและใช้ชีวิตอยู่ด้วยความแค้นมาเสมอ การเอาคืนไม่ใช่แค่พรากสิ่งที่รักแต่รวมถึงการทำลายความรักที่มอบให้อย่างเจ็บปวด กว่าจะรู้ว่าปริศนาที่เก็บเป็นความลับก็ทำให้คนธรรมดากลายเป็นบ้า บ้าขนาดยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อยุติความจริงนั้น ถ้าอยากรู้ว่าความจริงคืออะไรคงไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากการเฉลยความจริงเท่ากับเป็นการทำให้เซอร์ไพรส์จบลงอย่างน่าเสียดาย บอกได้คำเดียวว่าต้องพิสูจน์กับตอนจบด้วยตาตัวเองเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นจะรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่แสนทรมานยิ่งกว่าความแค้นที่สะสมมาตลอด 15 ปีเสียอีก นับเป็นเป็นหนังแก้แค้นที่ทรมานจิตใจจนจบแล้วยังไม่กล้าทบทวนเพราะความหดหู่มันลึกซึ้งเหลือเกิน