The Bare Wench Project (2000)

The Bare Wench Project (2000)
Director: Jim Wynorski
Genres: Comedy | Horror
Grade: F

*ไม่มีภาพประกอบ

ไม่ต้องสงสัยว่าหนังเรื่องนี้ตั้งใจจะแซวเรื่องอะไร เพราะไม่ว่าจะชื่อหรือพล็อตเรื่อง แม้กระทั่งปกของหนังเองยังบ่งบอกถึงหนังต้นฉบับ The Blair Witch Project (1999) อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องหันซ้ายหันขวาว่าใช่เรื่องนี้แน่เหรอ แน่นอนว่าคือใช่ ทั้งเป็นการล้อเลียนได้อย่างกระจุยกระจายชนิดที่ว่าเสื้อผ้าหายไปทีละชิ้นสองชิ้นทุกครั้งที่ยิ่งดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ความฮาของการล้อเลียนเรื่องนี้คือความช่างกล้าที่เลือกหยิบหนังระดับขึ้นหิ้งมาใช้ได้อย่าง..เอิ่ม..แทบจะไม่มีเค้าความน่ากลัวของเดิมอยู่เลย แต่ไม่แปลกใจหรอกถ้าจะทำเพื่อล้อเลียนเพราะความคาดหวังแรกคือความฮา ซึ่งถามว่าฮาแค่ไหนอาจบอกว่าแทบหาไม่เจอ ขณะเดียวกันสิ่งที่ทนแทนมาคือเหล่านักแสดงที่รู้สึกจะเน้นเฉพาะจุดกันตั้งแต่ต้นเรื่องจนแทบทั้งเรื่องไปกับลูกกลมๆสองลูกที่มักจะเรียกลงท้ายนามว่า"เต้า"

The Blair Witch Project คือหนังต้นฉบับที่เรื่องนี้ต้องการจะล้อเลียนด้วยวิธีเดียวกันคือ  Found Footage ทำให้ออกมาเชิงสารคดีเชิงผจญภัยที่เน้นไปที่การเดินทางเข้าป่าของเหล่านักศึกษาที่ทำเรื่องเกี่ยวกับตำนานแม่มดส่งรายงานอาจารย์ ด้วยวิธีเดียวกันนี้เองทำให้รู้สึกได้ถึงความเมาในการเหวี่ยงกล้องไปมาแม้จะมีความนิ่งกว่าต้นฉบับก็ตามที แต่ที่เมาจริงๆไม่ใช่เรื่องภาพจากกล้องที่ถือไม่นิ่งหรือเหวี่ยงอย่างรวดเร็ว ที่เมาคือเหล่าตัวละครที่อารมณ์ดีเกินคนปกติจนรู้สึกว่าการเข้าป่าไม่ต่างกับเดินสวนหลังบ้านที่ไปไหนก็ได้ตามใจฉัน ในเรื่องจะประกอบด้วยเหล่านักศึกษา 4 คนที่เป็นหญิงล้วน ได้แก่ นิกกี้ (Nikki Fritz),โคอี้ (Julie K. Smith),ลอรี่ (Lorissa McComas) และโทนี (Antonia Dorian) แล้วก็มีเพิ่มอีกคนหนึ่งคือลัง (Lenny Juliano) เป็นคนนำทางให้สาวๆได้เดินเข้าไปในป่าตามแผนที่ที่ได้มอบหมาย

ทั้งเรื่องหาสาระอะไรไม่ได้นอกจากเนื้อแน่นๆที่อุดมด้วยนมจริงนมปลอมปะปนกันไป นั้นจึงเป็นจุดขายของเรื่องนี้ที่ขยันเปิดเต้าอันล้นทะลักมาแทบทุกนาทีจนเกือบลืมไปว่าต้องหาข้อมูลทำรายงานเรื่องแม่มด ไม่ใช่มาทำเรื่องแม่นม(ฮา) ด้วยความที่หนังว่างเปล่าไม่มีอะไรจะใส่จึงใส่ฉากเน้นนมกันซะมาก(ไม่คิดเลยว่าจะมากมายขนาดนี้) ซึ่งคำว่ามากเป็นอะไรที่บ่อยที่เดี๋ยวหาเรื่องถอดเสื้อผ้าทั้งที่ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว บ้างก็นึกมีอารมณ์ตีฉิ่งขึ้นมา?! บ้างก็บอกว่าร้อนอยากลงไปอาบริมน้ำ(แต่ไม่เห็นจะอาบอะไรนอกจากวิ่งเล่นบนน้ำ) บ้างเพี้ยนจนขาดสติจัดปาร์ตี้รอบกองไฟอย่างเพลิดเพลินสบายนม ที่สำคัญต่อให้ไม่ถอดเสื้อก็พอจะมีร่องรอยให้เห็นไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว จะว่าไปนับเป็นการเซอร์วิส(ทั้งเรื่อง)กระมั้ง เผื่อว่าจะได้เพลิดเพลินแก่สายตาชายๆที่หาอะไรจากเรื่องนี้ไม่ได้ก็หานมดูแก้เซ็งไปก่อนล่ะกัน

อาจจะเพี้ยนอาจจะดูปัญญาอ่อน แต่สำหรับเรื่องนมคือความฉลาดของเรื่องนี้ที่สรรหาเวลาโชว์นมได้แทบทั้งเรื่องอย่างไม่หลงลืมพล็อตหลักของตัวเอง ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงแต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องแค่เรื่องเซ็กซ์เท่านั้น อย่างการเดินไปเจอต้นไม้ที่มีของประหลาดห้อยตามกิ่งไม้ ในต้นฉบับคือความลี้ลับที่เกี่ยวกับพิธีกรรมที่น่ากลัว ส่วนเรื่องนี้เอาอะไรมาห้อย มันคือเครื่องใช้เกี่ยวกับเซ็กซ์ทอย! ไม่ว่าจะตุ๊กตายาง ดุ้นปลอม กางเกงในจีสตริง บรายกทรง ของเหล่าถูกห้อยตามต้นไม้ที่เห็นแล้วไม่ขำก็เหวอสุดๆ ที่น่าสะพรึงคือหนึ่งในนั้นได้หยิบดุ้นปลอมขึ้นมาก่อนจะปัดลงพื้นพร้อมกับอาการร้อนรนกระวนกระวาย อาการที่คล้ายบอกถึงความสุดยอดจนควบคุมตัวเองไม่ได้ อาการของจุดสุดยอด!

ถ้าสังเกตให้ดีในเรื่องมีทั้งหมด 5 คน จะมีผู้หญิง 4 คน และผู้ชาย 1 คน เจ้าผู้ชายหรือคนนำทางนี่แหละที่โชคดีกว่าใครๆ มีโอกาสเห็นนมเห็นเรือนร่าง ไม่เว้นกระทั่งท่อนล่างที่มีเปลือยบ้างเป็นฉาก(แค่พอให้เห็นแวบนิดแวบหน่อย) ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ในเรื่องทำหน้ายิ้มตลอดเวลา อารมณ์ประมาณเดินทางอย่างมีความสุขในการมองสาวๆ มีบริการทางสายตาอย่างเต็มอิ่มแบบไม่เขิลอายหรือปิดบัง แล้วไม่รู้ยังไงคนนำทางกลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์หาความสามารถอะไรไม่ได้เลย พอเดินทางมาถึงถ้ำที่เป็นเป้าหมายของตำนานแม่มดยิ่งออกอาการกลัวตัวสั่นไม่กล้าเข้า แต่สุดท้ายแรงเชียร์จากสาวๆทำให้เข้าไปในถ้ำแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย จุดนี้เริ่มจะมีลุ้นว่าจะเซอร์ไพรส์กันยังไงเพราะเข้าไคล์แม็กซ์ของเรื่องแล้ว จังหวะนี้เองที่ล้อต้นฉบับได้แสบและฮาในมุมกล้องมากในฉากถ่ายหน้าตัวเองที่ดันมีมากกว่าหน้าเพราะต่ำไปถึงบริเวณลิ้นปี่ (ลองนึกภาพเงยหน้าขึ้นจากกลิ้นปี่แบบไม่ใส่เสื้อจะเห็นอะไรบ้าง มันใช่ไหมล่ะ)

ตอนท้ายเรื่องมั่วได้สุดๆที่อุตส่าห์พาเดินไปถึงตอนจบอันแสนระทึกขวัญที่ต้นฉบับทำขนลุกขนพอง พอถูกล้อเลียนกลายเป็นความนิ่งที่รู้สึกโดนของอะไรสักอย่างจนอยากปิดทันที แม้จะจบได้ผิดกับที่หวังที่นึกว่าจะมีอะไรเด็ดๆซ่อนอยู่(ที่เห็นนั้นเป็นการเสียดสีต้นฉบับที่ยืนนิ่งเปลี่ยนเป็นกระโดดหน้ากระโดดหลัง) อย่างน้อยก็พอจะมีอะไรให้สนุกกับเหล่าสาวๆที่ขับพลังปัญญาอันแสนอ่อนต่อโลกให้ดูไปกับเรือนร่าง อย่างการแก้เคล็ดขับไล่ความชั่วร้ายด้วยการถอดเสื้อผ้าโชว์เต้าที่ได้ดันได้ผล(อย่างที่บอกว่าหาเรื่องโชว์นมตลอดเวลาต่อให้สถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม) อีกประเด็นความเหวอที่ต้นฉบับไม่มีแต่ฉบับนี้มีให้เห็นคือการปรากฎตัวของแม่มด (Julie Strain) ที่ออกมาเต้นเย้ายวนกลางดึกในสภาพล่อนจ้อนก่อนจะหายไปไม่โผล่มาอีกเลย(จะมาทำไม?)

สรุปเลยล่ะกันถ้าไม่อยากลองเสี่ยงแนะนำว่าอย่าดูเลย เพราะสิ่งที่ได้นอกจากเนื้อนมเต็มมือแล้วก็ไม่มีอะไรอีกนอกจากก้นที่เวลาถ่ายจากข้างหลังมักจะโฟกัสแต่ตรงนั้น ส่วนความฮามันไม่ใช่เลยสักมุขเดียวเพราะโยงอยู่กับนมซะมาก นี่ว่าจะดูเอาตลกซะหน่อยเพราะเป็นหนังล้อเลียนแต่ไฉนเอาเนื้อนมแทน ทั้งนี้ทั้งนั้นกับคนที่ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แนะนำยังมีภาคต่ออีก 4 ภาคให้ตามเก็บ ได้แก่ The Bare Wench Project 2: Scared Topless (2001),The Bare Wench Project 3: Nymphs of Mystery Mountain (2002),Bare Wench Project: Uncensored (2003) และ Bare Wench: The Final Chapter (2005) รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด 5 ภาคที่อัดแน่นด้วยความห่วยและนมที่พร้อมเซอร์วิสตลอดเวลา
รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)