The Corpse of Anna Fritz (2015) | คน..อึ๊บ..ศพ
Director: Hèctor Hernández Vicens
Genres: Drama | Thriller
Grade: C+
"จะเป็นยังไงถ้าตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นศพที่ฟื้นจากความตายแล้วมีผู้ชายกำลังใช้ร่างกายคุณเพื่อสำเร็จความใคร่"
เป็นไปตามที่บอกข้างต้นที่ใช้เป็นพล็อตเรื่องราวของหญิงสาวดาราคนดังที่ใช้ชื่อว่าแอนนา ฟริตซ์ (Alba Ribas) ต้องเสียชีวิตลงอย่างไม่ทราบสาเหตุและถูกนำตัวไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อชันสูตรศพ แต่ด้วยความที่เป็นคนดังและเป็นผู้หญิงสวยจึงกลายเป็นที่อยากพบเห็นในหมู่คนธรรมดาที่อยากรู้ว่า..มีสวยงามมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยังเป็นที่หมายปองในหมู่ผู้ชายที่อยากได้เธอ ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของแอนนาทำให้พาว (Albert Carbó) เจ้าหน้าที่เก็บศพต้องขอเก็บรูปเธอไว้เป็นที่ระลึกก่อนจะพาเพื่อนอีก 2 คน ได้แก่ อีแวน (Cristian Valencia) และจาวี่ (Bernat Saumell) แอบเข้ามาดูศพ ช่วงแรกไม่มีอะไรนอกจากมาพบเพื่อชวนไปเที่ยวปาร์ตี้ แต่เรื่องได้เล่าไปถึงพาวที่บอกเพื่อนทั้งสองว่ามีศพดาราผู้หญิงมาอยู่ที่นี้เองแหละ ด้วยความสงสัยทำให้ทั้งสามเข้าไปห้องเก็บศพอย่างลับๆก่อนจะกลายเป็นว่าถูกกิเลสครอบงำนึกพิสดารลองกับศพที่นอนแน่นิ่ง ทว่าเรื่องโรคจิตที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่เท่ากับที่แอนนาลืมตัวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอดันมีชีวิต
หนังจากสเปนจากอีกชื่อ El cadáver de Anna Fritz ได้ถ่ายทอดเรื่องราวแบบปิดตายในห้องเก็บศพเป็นหลักและจบลงที่ห้องเก็บศพด้วยเช่นกัน เริ่มแรกหนังได้ปูตัวละครแอนนาด้วยข่าวที่บ่งบอกถึงความเป็นคนดังของวงการจนน่าจะเป็นดาวแห่งยุคเลยก็ว่าได้ แต่เกิดเรื่องไม่ดีจนต้องเสียชีวิตลงกระทันหันอย่างไม่ทราบสาเหตุและส่งไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งอย่างลับๆไม่มีการเปิดเผยข้อมูลแก่สื่อใด ฉากแรกที่ได้เห็นตัวละครแอนนาก็ตอนที่นอนอยู่บนเตียงซะแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือแอนนานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเหล็กที่มีไว้เข็นศพคนตาย ในฉากนี้มีจุดเด่นตรงที่ชายที่เข็นศพหรือที่ต่อมารู้กันว่าคือพาวได้ถ่ายรูปใบหน้าของแอนนา ถ้าตามประสาคนดังหรือดาราก็ย่อมวิ่งเข้าหาเพื่อขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถ้าสมมุติคนดังคนนั้นคือคนตายจะเป็นยังไง เรายังนึกอยากถ่ายรูปคนดังเก็บเป็นของฝากว่าตัวเองเจอคนที่อยากเจอหรือไม่ สำหรับ The Corpse of Anna Fritz มีมุมมองแปลกๆตั้งแต่ต้นเรื่องพร้อมแสดงความไม่ปกติของจิตใจที่ให้คิดว่าคนตายเป็นเพียงร่างกายที่ไร้ชีวิต จะทำยังไงก็ได้เพราะศพไม่มีการโต้ตอบ การถ่ายรูปหน้าของคนตายเป็นการบันทึกภาพรูปแบบหนึ่งที่รู้เฉพาะตัวเองหรือไม่คนอื่นที่ตัวเองอยากให้ดูร่วมด้วย
พาวมีหน้าที่ขนเก็บศพตามหน้าที่ในโรงพยาบาล ส่วนอีแวนและจาวี่คือเพื่อนที่มาหาพาวที่โรงพยาบาลถึงที่เพื่อชวนไปสังสรรค์ยามดึก จากสิ่งที่เห็นคือเพื่อนของพาวดูจะไม่เคารพกฎเกณฑ์อะไรเท่าไรนักเนื่องจากพยายามชวนพาวไปปาร์ตี้ให้ได้ แต่เมื่อไปไม่ได้ก็เลือกจะรอให้หมดเวรและพบว่างานที่พาวทำมีแอนนาคนดังที่ถูกส่งมาเก็บไว้ที่นี้ ด้วยความสงสัยไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อนจึงได้เชื้อเชิญกันไปที่ห้องเก็บศพอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากที่พาวได้ชวนเพื่อนของเขาไปดูเรือนร่างของแอนนาที่นอนแน่นิ่งก็เกิดความพิสดารที่บ่งบอกความวิตถารออกมาผ่านมุมมองทางเพศ ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่มีอะไรมากนักทำให้มาถึงฉากนี้ที่ตัวละครทั้งสามเกิดอยากลองอะไรที่แปลกๆดูบ้าง ส่วนเหตุผลของการลองทำคือการได้ในสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้ นั้นคือการได้มีเซ็กซ์กับแอนนาราวกับความภาคภูมิใจที่มีอะไรกับคนดังที่เปลือยกายยั่วตัณหาจนหักห้ามใจไม่อยู่ ซึ่งทั้งสามดูจะจริงจังกับการลองมีเซ็กซ์กับคนตายอย่างมากจนเริ่มถกเถียงวิธีการทำให้เหมือนทำกับคนเป็นจนถึงขั้นต้องใช้น้ำลายเพื่อให้มีความหล่อลื่น ถึงอย่างงั้นการยืนคุยเรื่องเซ็กซ์กับศพที่ดูเป็นไปไม่ได้ก็เกิดขึ้นจริงและอีแวนคือคนแรกที่ได้พิสูจน์กับแอนนาที่มีแค่ร่างกาย
สิ่งที่ The Corpse of Anna Fritz ต้องการจะบอกนั้นชัดเจนถึงเรื่องเพศที่ถูกเหยียดหยามอย่างหนักไม่เว้นแม้แต่การร่างกายของผู้หญิงที่ตายแล้ว ด้วยเรื่องที่ตั้งใจเสียดสีเรื่องเพศที่ถูกคุกคามทำให้เพศชายคือความน่ารังเกียจของเรื่องนี้ ซึ่งเห็นมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าเพศชายมีลักษณะอย่างไรตั้งแต่การใช้ชีวิตที่ชอบเสี่ยงและไม่สนคนอื่นเท่าไรนัก ยิ่งกับตัวละครอีแวนต้องบอกว่าแทบจะเป็นตัวนำของเหตุการณ์ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่ใช่อีแวนคงไม่เกิดอะไรขึ้นกับแอนนา ในจำนวนทั้งสามหนุ่มต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับแอนนาที่อยู่ตรงหน้าว่าจะทำอะไรกับเธอบ้าง สำหรับอีแวนไม่ต้องอธิบายให้มากมายเพราะทำเรื่องอย่างว่าแน่นอน ส่วนพาวที่เหมือนคนนำของเรื่องแต่ไม่ได้อะไรจนเหมือนคนดีคนนีงก่อนกลายเป็นอะไรที่ตรงข้ามในทันที ยิ่งดำเนินเรื่องมากเท่าไรยิ่งเห็นว่าพาวมีด้านมืดที่ตัวเองปกปิดและไม่ค่อยเปิดเผย ตั้งแต่วิธีการทำอะไรกับศพอย่างไรให้ได้อารมณ์เหมือนคนเป็น ตลอดจนการกัดจิกพาวที่อ้างว่าจะไม่ทำอะไรแต่เนื้อแท้แล้วกำลังรอจังหวะให้อยู่คนเดียวเพื่อมีเซ็กซ์กับศพ นั้นหมายความว่านี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกของพาว แม้ทั้งสองจะลงความเห็นมีเซ็กซ์กับแอนนาด้วยความคิดสักครั้งในชีวิตของการมีเซ็กซ์กับคนดังแม้จะตายไปแล้ว แต่จาวี่ไม่ได้นึกมีอารมณ์หรือความผิดปกติทางด้านจิตใจขนาดนั้นและคงปฏิเสธหากจะร่วมรักกับศพประหนึ่งข่มขืนคนที่ไม่รู้ตัว
ฉากที่น่าจดจำของเรื่องนี้คือการฟื้นของแอนนาที่ให้อารมณ์ตลกร้ายและหดหู่ใจอย่างมาก ระหว่างที่ร่างกายถูกทับเพราะกำลังมีเซ็กซ์อย่างไม่รู้ตัวจนหัวห้อยลงจากบนเตียงเพราะแรงกระแทกทำให้ร่างกายเลื่อนขึ้นและกล้องได้โฟกัสไปที่ใบหน้าของแอนนาที่แน่นิ่งก่อนจะสร้างความน่าทึ่งเมื่อแอนนาลืมตาขึ้นมาก่อนจะถูกดึงตัวขึ้นไปใหม่พบว่าตัวเองถูกข่มขืน จังหวะเดียวกันได้สร้างความตกใจแก่พาวที่กำลังมีความสุขถึงกับทิ้งตัวห่างไปไกลจนอีแวนและจาวี่ต้องรีบเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าทั้งสามตะลึงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคนตายที่ตัวเองร่วมเซ็กซ์ไปหยกๆเกิดฟื้นขึ้นมาดื้อๆ ถึงจะแบบนั้นแต่ 1 ใน 3 คือจาวี่ไม่ได้อยากมีเซ็กซ์หรือมีเจตนาคิดล่อลวงอย่างใดและพยายามช่วยแอนนาให้รอดปลอดภัย ทว่าอีแวนกับพาวไม่คิดช่วยแต่อย่างใดเพราะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปกับเรือนร่างของแอนนาจะทำให้ตัวเองต้องเจอกับปัญหา นั้นคือการติดคุกในข้อหาข่มขืนอย่างแน่นอน ในฉากนี้จะเห็นว่าถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายระหว่างคนที่อยากปกปิดความผิดของตัวเองกับคนที่พยายามช่วย ความขัดแย้งได้เกิดขึ้นเพราะอีแวนรู้ว่าแอนนาต้องรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นและคงไม่รอดจากคุกจึงพยายามทำให้แอนนาตายอีกครั้ง ความเห็นที่ไม่ตรงกันทำให้จาวี่ไม่ยอมต่อสิ่งที่อีแวนทำจนเกิดทะเลาะทำให้จาวี่หัวฟาดพื้น ขณะเดียวกันพาวเกิดอาการช็อคทางจิตใจกลายเป็นคนที่กลัวความผิดจนไม่กล้าทำผิดอีกเพราะหวาดกลัว ส่วนแอนนาที่ฟื้นขึ้นมาก็ทำได้แค่นอนดูเพราะร่างกายขยับไม่ได้
พล็อตเรื่องไม่มีอะไรเลยนอกจากชาย 3 คนที่แอบเข้ามาดูศพแอนนาจนเกิดอารมณ์อยากมีเซ็กซ์เพราะเป็นคนดัง แต่ความเลวยังมีความดีเพราะมีคนที่ไม่เห็นกับการกระทำกับศพแต่ไม่อาจหยุดยั้งอะไรได้ กระทั่งแอนนาที่ว่าเป็นศพได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้วพบว่าคนที่ข่มขืนเธอกำลังอยากให้ตายอีกครั้งเพื่อปิดปาก ข้อดีของเรื่องนี้คือใช้สถานที่ปิดตายที่ห้องเก็บศพยามวิกาลได้คุ้มกับการเล่าเรื่อง ตัวละครมีน้อยแต่ใช้ประโยชน์ได้หมดจนไม่รู้สึกขาดหรือเกิน ส่วนเรื่องการแสดงว่ากันตามมาตรฐานเน้นอารมณ์ไม่มาก จะเน้นเรื่องบรรยากาศการรอดชีวิตของแอนนาที่ไม่รู้จะตายมิตายแหล่เพราะอีแวนกับพาวเป็นเพียงคนธรรมดา การฆ่าแอนนาจึงเป็นเรื่องลุ้นจะตายตอนไหนกันแน่ อีกอย่างคือตัวละครดูไม่ค่อยฉลาดแต่รอบคอบในสถานการณ์ว่าควรทำอย่างไรให้ห้องเก็บศพกลับมาเป็นเหมือนเดิม จะว่าแล้วนี้ก็กลายเป็นตลกร้ายของชีวิตแอนนาที่ฟื้นกลับจากความตายจากแทนที่จะเป็นเรื่องดีกลับกลายเป็นเรื่องร้ายเหมือนตื่นขึ้นมาไม่ช่วยอะไรเพราะสำหรับผู้หญิงคือตายทั้งเป็น ตัวหนังหนังมีความยาวประมาณ 70 นาทีไม่ยาวเท่าไรนักและถือว่าสั้น ซึ่งก็เหมาะกับพล็อตเรื่องที่ไม่มีอะไรนอกจากในห้องเก็บศพแทบทั้งเรื่อง
ส่วนข้อเสียเห็นจะเป็นตัวละครแอนนาที่ปกปิดเงียบเกินไปจนไม่รู้อะไรเลยนอกจากเป็นคนดังตามที่เกริ่นเรื่องเอาไว้ ไม่รู้เลยว่าทำไมก่อนหน้านี้แอนนาถึงถูกวินิจฉัยว่าตายได้ทั้งที่ยังฟื้นกลับมาอย่างไม่มีเหตุผล ความไม่สมเหตุสมผลและขาดมิติตัวละครทำให้แอนนาขาดความน่าเอาใจช่วยเพราะไม่รู้จะน่าช่วยยังไงนอกจากเป็นวัตถุทางเพศที่กลายเป็นเหยื่อแก่ผู้ชาย ซึ่งนั้นอาจจะมากพอหากยังมีสำนึกเกี่ยวกับเรื่องเพศที่เรื่องนี้ต้องการสื่อนัยยะการเหยียดเพศ บางทีการที่แอนนารฟื้นกลับมาอาจมีความสัมพันธ์ต่อสิ่งการถูกคุกคาม ยิ่งถูกทำร้ายมากก็ยิ่งดิ้นรนจนร่างกายค่อยๆกลับมาเป็นปกติ ยิ่งเหยียดยามทางเพศมากขึ้นเท่าไรยิ่งแสดงให้เห็นว่าเพศหญิงไม่ได้อ่อนแอเสมอไปและต้องการหลุดพ้นจากวังวนที่เพศชายยังทำกับเพศตรงข้ามเป็นเพียงแค่ของเล่น การวางประเด็นทำได้ดีแม้จะไม่ถึงกับลึกซึ้งแต่มากพอทำให้เห็นภาพถึงความเลวร้ายที่มนุษย์สามารถทำกันเองได้เพื่อความสุขของตนเองโดยทิ้งความทุกข์ไว้กับคนอื่นได้อย่างไม่แยแส จะเสียดายที่การเล่าเรื่องยังไม่ระทึกขวัญและตัวแอนนาที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้น่าเอาใจช่วยเท่าไร อย่างน้อยตอนนี้ที่แอนนาฟื้นยังขยับตัวไม่ได้และต้องรอกว่าจะแขนขาขยับได้(คล้ายๆ Kill Bill: Vol. 1 (2003)) ซึ่งกว่าจะถึงนั้นจะทำไรอย่างไรไม่ถูกฆ่าอันนี้น่าจะพอลุ้นได้เหมือนกัน ถ้าเล่าเรื่องให้ระทึกขวัญซะหน่อยจะดีไม่น้อยทีเดียว แต่เชื่อว่าตอนจบทำได้สะใจผู้หญิงไม่มากก็น้อยก็น่าจะถูกใจพอสมควร