From a House on Willow Street (2016)
จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่
Director: Alastair Orr
Genres: Action | Crime | Horror | Thriller
Grade: C
พอดูไปเรื่อยๆจะรู้สึกนึกถึงหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ผสมปนเปคล้ายจะยำหนังสยองขวัญเข้าไว้ด้วยกันเป็นเนื้อเดียว ที่เห็นแน่ๆคือ The Exorcist ว่าด้วยการสวดไล่ปีศาจให้ออกจากร่าง แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องยอมรับว่าเซอร์ไพรส์ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเดาทางไม่ถูกเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเผชิญของโจรทั้งสี่ ได้แก่ ฮาเซล (Sharni Vinson),เฮ็ด (Steven John Ward),เจมส์ (Gustav Gerdener) และมาร์ค (Zino Ventura) ที่ไม่รู้จะไปเจอปังตออะไรเข้าในเมื่อวางแผนลักพาเพื่อเรียกค่าไถ่ที่กินเวลาการวางแผนถึง 6 สัปดาห์ในการสืบเสาะความปลอดภัยในบ้านอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่กลายเป็นว่าคนที่โชคร้ายคือพวกเขาเสียเอง
อารมณ์ช่วงแรกอาจจะเร็วไปซะหน่อยเมื่อมองในแง่การวางแผนที่น่าจะมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านี้เพราะมาถึงก็เล็งเหยื่ออย่างแคทเธอรีน (Carlyn Burchell) ลูกสาวเศรษฐีมีตังค์ก่อนจะรวมหัววางแผนกันอย่างตั้งใจก่อนจะตัดข้ามเวลา 6 สัปดาห์ของการติดตาม เมื่อครบกำหนดนัดและเก็บข้อมูลอย่างละเอียดมากพอแล้วก็ถึงคราวลงมือจริงในคืนที่ทุกคนในบ้านหลับอย่างสงบ แน่นอนว่าแผนสำเร็จสามารถลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่ได้สำเร็จ แต่จนแล้วก็เกิดปัญหาเพราะแผนที่วางไว้ไม่เป็นอย่างในแผน ไม่มีใครตามตัวแคทเธอรีนเลยสักคนเดียว การเรียกค่าไถ่ที่ต้องยื่นหมูยื่นแมวต้องสะดุดลงด้วยสิ่งหนึ่งที่ติดมากับแคทเธอรีน สิ่งนั้นคือ"ปีศาจ"
หลายอย่างหลายพอจะเดาได้เรื่อยๆเพราะไม่แปลกใหม่ซะทั้งหมด มีตามสูตรหนังสยองขวัญค่อนข้างมากโดยเฉพาะจังหวะหลอนตกใจ ฉะนั้นตอนดูจึงไม่รู้สึกน่ากลัวอะไรเท่าไร นอกจากการเมคอัพนี่แหละที่ดูจะเข้าท่าและน่ากลัวใช้ได้ แต่ก็น้อยไปหน่อยสำหรับความน่ากลัวผ่านรูปลักษณ์ที่อุตส่าห์แต่งให้ชวนผวาขนาดนั้นแต่เอาเข้าจริงแค่แวปๆก่อนจะจัดหนักอีกครั้งในช่วงไคล์แม็กซ์ที่กลายเป็นธรรมดาไปซะงั้นเพราะดูท่าจะหนักไปทาง CGI โชว์เอฟเฟคตื่นตามากกว่าให้ตกใจกลัว(แล้วไม่เนียนด้วยนะ) ซึ่งโดยรวมค่อนข้างแปลกที่ครึ่งแรกกับครึ่งหลังไม่สัมพันธ์กันเหมือนตั้งใจให้ดูเป็นหนังคัลท์ ผลคืออารมณ์ออกกลางๆไปทางลบ มีชอบบ้างแต่ไม่ถึงกับรู้สึกไปหนังเท่าไร
You're Next (2011) เป็นอีกอารมณ์ที่เข้ามาผสมกับเรื่องนี้ที่อิงเอาความบ้าบิ่นของตัวละครที่ไม่หนีมาสู้จนเป็นการเอาคืนที่สะใจคนดูด้วยการตลบหลังเป็นตัวร้ายถูกฝ่ายนางเอกตามฆ่าเสียเอง แน่นอนว่า Sharni Vinson ก็มาจากเรื่องนี้เช่นกันและอารมณ์การเอาคืนก็โหดสมใจจนไม่เหลือความเป็นปีศาจหมายชีวิตแต่อย่างใด น่าเสียดายถ้าเรียบเรียงปรุงแต่งให้เข้มข้นกว่านี้จะเป็นตอนจบที่น่าจดจำเลยทีเดียวแต่พอมานึกๆแล้วยังคงสับสนกับพลังของปีศาจที่เรียกตัวเองว่า"แทรงกูล"หรือผู้ทรมานวิญญาณที่ไม่รู้ว่าเก่งหรืออ่อนกันแน่ พอตอนจบเป็นแบบนี้เลยยิ่งรู้สึกไม่เข้าท่าเข้าทางไปใหญ่ทั้งที่ควรจะออกมาเจ๋งกลายเป็นเจ้งในใครหลายคน
ถือเป็นความตลกร้ายที่โดนโซ่ผูกคอไม่สามารถแกะได้เองแต่สามารถใช้พลังเบี่ยงเบนปลัดกระสุนได้หน้าตาเฉยและมีพลังจิตทำอะไรได้หลายอย่าง แค่ปลดล็อคโซ่คล้องคอมันจะยากแค่ไหนกันเชียว แม้จะฟังดูทะแม่งแต่มองได้หลายมุมเกี่ยวกับปีศาจตัวนี้ อย่างเรื่องที่ว่าเป็นปีศาจในคราบคนมีพลังในระดับหนึ่งเท่านั้น ในเรื่องก็บอกด้วยว่าต้องกินวิญญาณเพื่อเสริมอำนาจ ดังนั้นในความไม่สมบูรณ์นี้จึงพอเข้าเค้าอยู่บ้าง ที่ช่วยยกระดับเรื่องราวให้เติมเต็มคือการเล่นปมในใจของตัวละครเวลาตัวละครโดนหลอกจะไม่ใช่แค่เอาตกใจกลัวเฉยๆเพราะผีหรือวิญญาณหรือภาพหลอนที่ปรากฎมาจากการสูญเสีย เช่น ฮาเซลเสียแม่เพราะเหตุไฟไหม้ เฮ็ดเสียเพื่อนเพราะอุบัติรถยนต์ มาร์คเสียลูกสาวเพราะจมน้ำ และเจมส์เสียความกล้าเพราะแม่ทำร้าย ฉะนั้นทุกตัวละครจะมีปมในใจและถูกดึงขึ้นมาเสมือนถูกทดสอบหรือโดนหลอกล่ออย่างสมเหตุสมผล
From a House on Willow Street โดยส่วนตัวชอบช่วงแรกกับช่วงกลางที่ลื่นไหลและน่าค้นหา หลายอย่างดูมีความน่าสงสัยเพราะไม่เป็นไปตามแผนที่ควรที่ได้เพชร แต่กลายเป็นว่าคนที่บ้านไม่มีการติดต่อกลับมาปล่อยให้แคทเธอรีนอยู่อย่างเดี่ยวดาย ซึ่งการหาความจริงตอนย้อนกลับไปบ้านทำได้น่าตื่นเต้นพร้อมกับจุดที่คาดไม่ถึงว่าจะโดนหลอกกันได้อย่างแนบเนียนก่อนจะกลับมาเฉลยทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นในบ้านกันแน่ การให้เหตุผลและการเชื่อมเนื้อเรื่องทำได้ครบถ้วนไม่ชวนสะกิดใจ โดยรวมแล้วช่วงแรกสยองกำลังดี ขณะที่ช่วงหลังจัดเต็มกันจนล้นไปหน่อย(อาจจะเรียกว่ามากด้วยซ้ำ) อารมณ์ประมาณหลุดและปล่อยกันเต็มที่จนเรียกว่าไม่แคร์สิ่งที่แล้วมา ถือเป็นหนังที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่เซอร์ไพรส์ด้วยลูกบ้าที่ชอบก็ชอบหรือไม่ชอบก็ไม่ชอบว่างั้นเถอะ