It Stains the Sands Red (2016)
Director: Colin Minihan
Genres: Drama | Horror | Sci-Fi
Grade: B-
"นี่อาจเป็นหนังซอมบี้ธรรมดา แต่ความนัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม"
พล็อตจะแปลกอยู่หน่อยตรงที่ มอลลี่ (Brittany Allen) ต้องมาดวงซวยล้อรถติดหลุมทราย แต่จังหวะนั้นมีซอมบี้ปริศนาตัวหนึ่ง (Juan Riedinger) เดินมาแถวนั้นพอดี ทำให้ต้องตัดสินใจเดินหนีเข้าดงทะเลทรายเพื่อหนีซอมบี้ ซึ่งโชคดีมีโทรศัพท์เปิดแผนที่ทำให้รู้ว่าต้องไปทางไหน ทว่าซอมบี้ตัวนั้นเดินตามเธอมาด้วยก่อนที่ภายหลังจะตั้งชื่อซอมบี้ที่แสนชิงชังที่ตามไม่เลิกตัวนั้นว่า"สมอลส์"(Smalls คือชื่อสั้น แต่ชื่อเต็มว่า Small Dick)
ก่อนจะไปเดินอยู่ท่ามกลางความแห้งแล้งต้องชื่นชมตัวละครอย่างมอลลี่ที่เขียนออกมาให้ฉลาดหัวไวและรอบคอบพอที่จะเอาตัวรอดได้เพียงคนเดียวในทะเลทราย(แม้จะตะหงิดใจตรงที่ทำไมไม่พยายามเอาล้อรถติดทรายขึ้นเผื่อจะได้ไม่ต้องเดินไกลขนาดนี้) ซึ่งความฉลาดอยู่ที่ความพร้อมในการเอาตัวรอดยังไงให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง ด้วยของสำคัญคือน้ำที่พกดื่มกินตลอดทาง(แต่ออกจะเกินจริงอยู่บ้างเพราะพกน้ำมาหลายขวดจนรู้สึกว่าใครจะพกน้ำติดรถมามากมายแบบนี้กัน) อีกอย่างคือแผนที่ในโทรศัพท์ที่ไม่ต้องเดินอยางไร้จุดหมายปลายทาง ถือเป็นการเอาตัวรอดที่ไม่แปลกแต่ไม่คุ้น
ตอนแรกคิดว่าเป็นแนว Survival มีอะไรให้ลุ้นกับการอยู่รอดของตัวละครท่ามกลางทะเลทราย ทว่าตรงกันข้ามไม่รู้สึกมีอะไรให้เสี่ยงกับสภาพแวดล้อมนอกจากซอมบี้ที่เดินตามหลัง จะร้อนจะเหนื่อยหรือกระหายแค่ไหนไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับเรื่องนี้ สิ่งที่เห็นคือการดูตัวละครเดินบ่นให้ซอมบี้ฟัง ทางด้านซอมบี้ไม่มีอะไรทำนอกจากเดินตามหลังอย่างเชื่องช้าตามประสาซอมบี้ดั้งเดิมที่วิ่งไม่เป็น พอตกกลางคืนหาที่สูงเพื่อนอนเพราะซอมบี้ปีนขึ้นที่สูงไม่ได้ จากความรู้สึกที่ลุ้นในตอนแรกได้หายไปเพราะไม่มีอะไรให้เล่า เว้นแต่เรื่องของมอลลี่ที่ค่อยๆเปิดปมในใจทีละเล็กทีละน้อยว่านี่ไม่ใช่ตัวละครที่แบนราบตัวหนึ่ง
เมื่อมีซอมบี้ร่วมทางทำให้ความสัมพันธ์แปลกๆระหว่างทั้งสองได้เพิ่มขึ้น มอลลี่เริ่มมองซอมบี้ในทางบวกเพราะไม่รู้จะจัดการกับซอมบี้เจ้าปัญหายังไงนอกจากชวนคุยและพาเดินตลอดทาง ทางด้านซอมบี้ยังเป็นซอมบี้กินคนแต่เริ่มเชื่องขึ้น ไม่พุ่งกัดเข้าใส่มอลลี่และเชื่อฟังในสิ่งที่มอลลี่พูด การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุ้นเคยให้กับซอมบี้จากศัตรูเป็นมิตรไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมีพล็อตทำนองนี้มาก่อน แต่ความน่าสนใจอยู่ที่จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ช่วงเดินอยู่ในทะเลทรายเสมือนพาสำรวจจิตใจ จะได้เห็นปัญหาที่แก้ไม่ตก พอหลุดจากทะเลทรายจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงตัวละครพร้อมเนื้อเรื่องที่น่าติดตามมากกว่าเดิมราวกับหลุดจากความอ้างว้างกล้าสู้กับปัญหาในใจนั้น
It Stains the Sands Red แม้พล็อตจะแปลกตรงที่ติดทะเลทรายและมีซอมบี้เดินตาม แต่การจะสานต่อเรื่องราวให้ยาวนั้นเป็นเรื่องยากเพราะไม่มีอะไรจะเล่าหรือพูดถึงเท่าไรนัก อีกอย่างคือความลุ้นน่าตื่นเต้นมีค่อนข้างน้อย จะมาสนุกตอนช่วงท้ายที่เห็นการพัฒนาตัวละครด้วยปมประเด็นของมอลลี่ ในแง่ตรงตัวจะเป็นหนังสยองขวัญที่ค่อนข้างธรรมดาและอาจถึงขั้นน่าเบื่อในสมัยที่ซอมบี้ไม่ได้เชื่องช้าแบบนี้อีกแล้ว กระนั้นในแง่สื่อนัยยะนำไปเปรียบเทียบหรือวิเคราะห์ตัวละครจะมีน้ำหนักอยู่พอสมควร ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ผู้ชมจะดูเพราะเป็นหนังสยองขวัญเน้นอารมณ์เป็นที่ตั้งหรือตั้งใจเก็บรายละเอียดดูเป็นจริงเป็นจังเน้นสื่อความหมาย