Valerian and the City of a Thousand Planets (2017) | วาเลเรียน พลิกจักรวาล
Director: Luc Besson
Genres: Action | Adventure | Fantasy | Sci-Fi
Grade: C+
เห็นผู้กำกับ Luc Besson ทำหนังไซไฟทีไรอดนึกถึง The Fifth Element (1997) เป็นไม่ได้ นั่นเพราะเป็นผลงานที่สนุกครบอรรถรสมากด้วยไอเดียที่สุดแล้วในตอนนั้น(รวมถึงตอนนี้) ขณะที่เรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นโปรดที่อยากทำมานานเพราะเป็นการ์ตูนคอมมิคที่ชอบสมัยวัยเด็ก แต่กว่าจะมีเทคโนโลยีสร้างเอฟเฟคล้ำๆหรือ CGI เนียนๆก็กลายเป็นข้อเสียของคำว่ารอจนคนอื่นไปไกลกันหมดแล้ว การดูหนังเรื่องนี้จึงเหมือนดูหนังไซไฟหลายเรื่องที่แอบหยิบเล็กขโมยน้อยไปใช้เกือบหมด
เรื่องราวจะอิงตามคอมมิคเล่มที่ 6 ในชื่อ Ambassador of the Shadows เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ วาเลอเรี่ยน (Dane DeHaan) และ ลอเรลีน (Cara Delevingne) ไปปฏิบัติภารกิจที่นครอัลฟ่าตามคำสั่งของผู้การ ฟิลลิท (Clive Owen) ที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร ทั้งสองจึงต้องตามสืบหาความจริงด้วยการผจญภัยพบเอเลี่ยนต่างแดนมากมายก่อนจะพบความจริงที่ซ่อนเอาไว้
ยอมรับว่าการเอาเรื่องราวเก่าๆมาสร้างใหม่อาจเต็มไปด้วยความเชยที่ล้าสมัย แต่มีอยู่ไม่น้อยที่สามารถผลักดันความเชยนี้เป็นความดั้งเดิมที่คลาสสิคน่าชื่นชม ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้นอยู่ไม่น้อยในแง่ของไอเดีย ทว่าการเล่าเรื่องค่อนข้างจืดและแบนราบพอสมควร บางทีออกจะแข็งทื่อไปด้วยซ้ำเพราะไม่มีอะไรที่ซับซ้อนจนเผลอๆดูกันไปไม่กี่นาทีก็สามารถเดาเนื้อเรื่องได้อย่างง่ายแม้จะยาวถึง 2 ชม.ก็ตาม ถือเป็นความผิดหวังที่พล็อตเรื่องไม่แปลกแล้วยังเล่าให้เป็นแบบนั้นจนจบ
พล็อตเรื่องเก่าทำให้นึกถึงหนังไซไฟ John Carter (2012) ที่เอาของเก่ามาทำตอนที่ CGI พร้อมจะเนรมิตรพลังจินตนาการให้สมจริง แน่นอนว่าข้อเสียอยู่ที่เนื้อเรื่องธรรมดาแม้จะมีฉากสนุกร่วมตื่นเต้นอยู่หลายฉาก การไม่ดัดแปลงเนื้อเรื่องหรือมิติตัวละครทำให้สภาพของหนังค่อนข้างตรงตัวและมองเป็นสิ่งเก่าในยุคใหม่ ซึ่งสวนทางกับเอฟเฟคที่สร้างฉากที่ยิ่งใหญ่สวยสมจริงตระการตามยุคสมัยใหม่ที่พัฒนาปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น โดยประเด็นนี้ทำให้นึกถึง Avatar (2009) ที่เกิดมาเพราะความล้ำสมัยแต่พล็อตเรื่องเองก็ดัดแปลงให้ล้ำตามไปด้วย
ความน่าสนใจที่ไม่แพ้ความเป็นไซไฟคือนักแสดงนำที่ต้องประกบคู่กันระหว่าง Dane DeHaan และ Cara Delevingne ซึ่งทั้งสองดูไม่ค่อยเข้ากันในฐานะคนรัก แต่หมาะเป็นพี่น้องเสียมากกว่า เพราะทั้งเรื่องดูไม่ออกเลยว่ารักกันจริงแค่ไหน ทีเล่นทีจริงกันตลอด ความน่าเชื่อถือที่นำไปสู่ฉากจบจึงรู้สึกขัดแย้งในสายสัมพันธ์ทั้งสอง แต่ไม่ได้แปลว่าไม่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์นะเพราะรู้สึกเข้ากับบทบาทได้ดี ส่วนคนที่น่าดึงดูดที่สุดคือ Rihanna มาร่วมแสดงในเรื่องอีกด้วย(ฉากเปิดตัวโชว์ลีลาการเต้นทำให้กลายเป็นจุดเซอร์ไพรส์เรียกความตื่นตากันไม่น้อย)
Valerian and the City of a Thousand Planets ยอมรับว่ามีของดีมากมาย แต่ก็เป็นแค่เรื่องฉากหรืองาน CGI เท่านั้น เป็นข้อดีทำให้อยากติดตามตลอดทั้งเรื่องเพราะสมจริงและสวยงาม แน่นอนว่าข้อเสียคือความสดใหม่ที่หาไม่ได้ในยุคสมัยนี้ทำให้หลายอย่างดูธรรมดาไม่ชวนนึกแวะหรือน่าสนใจกับสิ่งต่างๆในหนัง(ส่วนหนึ่งคิดว่าถึงพล็อตจะเก่าหรือง่ายแต่ถ้าเล่าอย่างมีทักษะต้องออกมาสนุกกว่านี้) ไม่หวังอะไรมากนอกจากดูเพลินๆพร้อมกับงานวิชวลเอฟเฟคที่ตั้งใจใส่กันมาเต็มที่แบบไม่ดูเนื้อเรื่อง
