Lars and the Real Girl (2007) | หนุ่มเจี๋ยมเจี้ยม กับสาวเทียมรักแท้
Director: Craig Gillespie
Genres: Comedy | Drama | Romance
Grade: B+
"หนึ่งชายกับหนึ่งหญิง แต่ฝ่ายหญิงเป็นตุ๊กตายาง"
ลาร์ส ลินด์สตรอม (Ryan Gosling) ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองโดยไม่พึ่งพาอาศัยใครและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ในความปกติไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปมีเพราะเขาปลีกตัวจากมนุษยสัมพันธ์ ไม่เข้าพวกหรือสุงสิงกับใครทั้งสิ้น ไปกับทำงานโดยไม่พูดถึงเรื่องอื่น เข้าโบสถ์ทำตามหน้าที่ของคนนับถือคริสต์ จะกินจะอยู่ก็ล้วนตัวคนเดียว นั้นทำให้ใครหลายคนมองเขาเป็นคนผิดปกติและพยายามเข้าช่วยด้วยกันเชิญร่วมสังคม จนกระทั่งทุกคนต้องแปลกใจเมื่อลาร์สยอมเข้าสังคมเพราะเขากำลังคบอยู่กับตุ๊กตายาง
เรื่องไม่มีอะไรเลยและเหมือนหนังตลกด้วยซ้ำที่เอาตุ๊กตายางมาร่วมเป็นหนึ่งในตัวละคร ทว่าตุ๊กตายางที่ไม่ต่างกับเครื่องหมายการค้าทางเพศที่น่าจะมีหน้าที่เดียวเพื่อบำบัดความใคร่นั้นได้กลายเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ซีเรียสยิ่งกว่า เนื่องจากที่มาที่ไปของตุ๊กตายางไม่ใช่เพื่อสนองอารมณ์ แต่มันคือตัวตายตัวแทนของลาร์สที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สร้างเรื่องราวให้เหมือนมีชีวิตแบบคนๆหนึ่ง ไม่ว่าจะชื่อ ประวัติ ไม่เว้นแต่ความรู้สึกก็ล้วนทำให้เหมือนมีอยู่จริง แต่อะไรทำให้ลาร์สตัดสินใจเลือกตุ๊กตายางมากกว่าคนเป็นเรื่องที่น่าหาคำตอบ
มีความรู้สึกสองแง่เกี่ยวกับลาร์สที่เหมือนจะเป็นคนมีปัญหาจากภายนอกและภายใน ซึ่งตัวหนังพยายามบอกปมผ่านตัวละครรอบข้างในลักษณะที่พวกเขาเองไม่รู้ว่าใช่ต้นตอของปัญหาหรือเปล่า ขณะเดียวกันลาร์สไม่เคยพูดถึงปัญหาเกี่ยวกับตัวเขาเลย บางทีอาจไม่รู้ด้วยว่าคือปัญหาเหมือนมีโลกส่วนตัวสูง เมื่อยามใดมีคนพยายามเข้ามาในโลกของลาร์สอาจกลายเป็นการรบกวนทั้งที่ควรเป็นการยินดีทักทาย แต่ไม่ว่าปัญหาจะเกิดจากสิ่งไหนกันแน่ก็ล้วนเชื่อว่าคนที่รู้ตัวดีที่สุดคือเจ้าตัวเอง
ไม่รู้อะไรดลใจให้ซื้อตุ๊กตายางมาเป็นคู่ชีวิตที่เริ่มต้นจากศูนย์มาทำความรู้จักเหมือนพึงจีบกันใหม่ๆ ถ้าเป็นหนังรักระหว่างคนจริงๆจะเป็นการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งสองฝ่าย แต่นี่มีเพียงลาร์สเท่านั้นที่เป็นคนมีลมหายใจและพูดได้อยู่ฝ่ายเดียว สิ่งที่ลาร์สทำต่อตุ๊กตายางไม่ว่าด้วยเหตุผลหรือสิ่งใดก็ตามล้วนมาจากเขาทั้งนั้น นั้นจึงทำให้ดูเหมือนคนบ้าเสียสติในสายตาทุกคน ขณะเดียวกันเสมือนเป็นการปลดปล่อยบางอย่างในตัวลาร์สออกมาจนผิดกับช่วงแรกของหนัง ซึ่งตอนแรกเป็นคนไม่เข้าสังคมไม่อยากทำความรู้จักหรือพูดคุยกับใคร แต่พอได้ตุ๊กตายางมาเป็นคู่ใจก็เริ่มเข้าสังคมทำอะไรที่หลายคนอยากให้ทำ แต่ไม่ว่าทางไหนล้วนถูกมองเป็นคนผิดปกติอยู่ดี
"Failing Health." ไม่รู้จะใช้คำนี้ได้หรือไม่ แต่กับลาร์สและตุ๊กตายางเป็นสัญลักษณ์ที่พูดถึงได้หลายเรื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องสุขภาพระหว่างคนที่มีเนื้อหนังกับตุ๊กตายางที่เป็นพลาสติก ซึ่งลาร์สเคยบอกเป็นนัยๆผ่านดอกไม้ที่เขาช่วยถือหน้าโบสถ์ในลักษณะไม่มีวันเหี่ยวเฉาและยังสวยงามไม่เปลี่ยนแปลง แต่กับคนจริงนั้นมีกาลเวลาเป็นอุปสรรคที่ต้องโรยราไปในที่สุด เปรียบเทียบกับดอกไม้นั้นทำด้วยพลาสติกที่ประดับตกแต่งนานแค่ไหนยังคงสดเสมอ ทว่าคนนั้นไม่มีความแน่นอน บางทีลาร์สไม่ยอมรับใครหรือสังคมเพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง
เมื่อลาร์สพาคนรักที่เป็นตุ๊กตายางร่วมใช้ชีวิตประจำวันก็ใช่ทุกคนจะยอมรับในความแปลกนี้ แต่มีคนเดียวที่เหมือนจะเข้าใจอยู่ก่อนเพราะถึงเป็นเรื่องแปลกย่อมมีเหตุผลต้องแปลก ซึ่งหมอแด็กมาร์ (Patricia Clarkson) เป็นตัวละครที่พลิกจุดเปลี่ยนตัวละครต่างๆให้มองโลกในแง่ดี ให้คิดว่าเป็นการหาคำตอบโดยลาร์สคือคำถามที่ต้องช่วยกันหาว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ อะไรทำให้ลาร์สคิดว่าทำในสิ่งที่เหมาะสมและคู่ควรสำหรับเขา ฉะนั้นแล้วสิ่งที่ดีที่สุดในการหาคำอธิบายคือการทำให้ลาร์สเชื่อว่าทุกคนเห็นเหมือนเขาด้วยการมอบชีวิตแก่ตุ๊กตายางให้มีบทบาทกับทุกคนราวกับสมาชิกครอบครัวคนหนึ่ง
เหมือนหนังตลกแต่ไม่ตลก มิหนำซ้ำยังดูเป็นจริงเป็นจังกับวิธีรักษาลาร์สที่ว่าเป็นอาการหลอน แต่ใครจะไปคิดเพราะอาจไม่ใช่อาการหลอนอย่างที่หลายคนคิด นี่อาจเป็นความตั้งใจราวกับบอกใบ้บางอย่างเพราะนิสัยของลาร์สไม่ยอมบอกอะไรตรงๆ ซึ่งเข้ากับลักษณะความเป็นอยู่คนเดียวและไม่เข้าสังคม นั้นทำให้ชอบเดินหนีอยู่บ่อยๆจากคนที่พยายามเข้ามาคุยด้วย แต่ที่น่าอึดอัดใจคือการโดนทักเรื่องความรักที่ไม่น่าใช่เรื่องยากในการพูด กระนั้นกลายเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะพูดยังไงจะทำท่าทางยังไงก็ไม่รู้ จะว่าเขิลก็ไม่ใช่ จะว่าอึดอัดก็ไม่เชิง
Lars and the Real Girl เป็นหนังที่ Ryan Gosling ได้โชว์ความสามารถในการแสดงที่เรียบง่าย แต่ลุ่มลึกเดาทิศทางจิตใจตัวละครค่อนข้างยาก บางครั้งดูเหมือนคนมีปัญหา บางครั้งเหมือนคนเอาแต่ใจ ซึ่งการที่ลาร์สเลือกตุ๊กตายางในช่วงที่หลายคนคาดหวังเรื่องความรักจากอายุที่มากขึ้นก็ไม่ต่างกับการประชดว่านี่แหละคือคนรัก ฉะนั้นไม่ต้องถามหรือมาแนะนำเพราะหาเองได้ สำหรับตัวหนังนั้นมีอะไรที่มากกว่าตาเห็น ทุกอย่างล้วนน่าติดตามเพราะคำตอบที่ไม่ยอมออกมาง่ายๆ ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของคนหนึ่งคนแต่หมายถึงทุกคนอีกด้วย