Killing Ground (2016) | แดนระยำ
Director: Damien Power
Genres: Horror | Thriller
Grade: B
สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีส่วนที่ชอบและไม่ชอบในเวลาเดียวกันคือความแน่นิ่ง ต่อให้มีฉากลุ้นระทึกมากแค่ไหนจะไม่รีบเร่งเร้าอารมณ์ให้ชวนตื่นเต้นตามไปด้วย ทำให้ผลที่ออกแทนที่จะกร่อยไร้อารมณ์กลายเป็นสมจริงยิ่งกว่าที่คิด โดยเฉพาะการมานั่งลุ้นเอาใจช่วยตัวละครที่จะอยู่หรือไปกันแน่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งบางฉากจะไม่เล่าตรงๆให้เห็นต่อเนื่อง แต่เลือกตัดฉากมาอีกทีในสภาพที่แตกต่างจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้สิ่งที่อยากเห็นอยากดูได้หายไป จะคงเหลือไว้แค่ความสงสัยและสะเทือนเหตุการณ์ราวกับเจอคนที่รู้จักแล้วมาอีกวันคนนั้นตาย ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนอกจากให้คิดกันเอาเอง
สถานที่ห่างไกลจากสังคมเหมือนเป็นเรื่องที่สงบสบาย เมื่อคู่รักคู่หนึ่ง (Ian Meadows,Harriet Dyer) ต้องการหาที่พักกางเต็นท์นอนริมน้ำในป่าเขาที่อุดมด้วยธรรมชาติ แต่การมาพักเพื่อเป็นการส่วนตัวต้องถูกคนอื่นแย่งสถานที่อันเป็นความลับของทั้งสอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดหวังอะไรนักหากจะมีคนมากางเต็นท์อยู่ก่อนและถือซะว่าเป็นเพื่อนร่วมทางที่อีกหน่อยได้ทำความรู้จัก ทว่าความเงียบจากเพื่อนข้างเต็นท์ชวนให้น่าสงสัยจนนำไปสู่เรื่องน่าตกใจที่ไม่มีใครรู้มาก่อนและมีบางคนไม่ต้องการให้รู้
ระทึกแค่ไหนอาจจะไม่เท่าไรสำหรับบางคน แต่เชื่ออย่างหนึ่งว่าวิธีการเล่าเรื่องช่วยยกระดับตัวหนังได้ดีพอสมควร จากความธรรมดากลายเป็นเรื่องชวนลุ้นให้หาคำตอบด้วยวิธีเล่าเหตุการณ์ปัจจุบันกับอดีตไปพร้อมกัน แน่นอนว่าอาจมีคนที่งงกับการเล่าเรื่องแบบนี้ในช่วงแรกเพราะแทบไม่บอกรายละเอียดอะไรเลย นอกจากมาสังเกตจุดเชื่อมโยงที่บอกทีละเล็กละน้อยให้ตื่นเต้นมากขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งไปถึงจุดที่เซอร์ไพรส์ในชะตากรรมของตัวละคร ซึ่งเป็นอะไรที่หักดิบกระชากใจกันไม่น้อยทีเดียว
มาง่ายๆและไร้เหตุผลคือสิ่งที่ทำให้คนร้ายมีมิติที่เบาบาง ราวกับให้รู้แค่ว่ามีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติอย่างคนอื่นที่พอลับสายตาคนก็เผยธาตุแท้ออกมา การให้ความดิบเถื่อนช่วยให้เห็นความโรคจิตที่ชื่นชอบความพิศดารอยากทำอะไรก็ทำ นั่นเองที่ไม่อาจบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างจากความไม่แน่ไม่นอนแม้จะรู้ว่าสุดท้ายแล้วคงไม่พ้นเรื่องฆ่าอยู่ดี กระนั้นในส่วนของคนร้ายโรคจิตที่ดูไร้น้ำหนักไร้มิติก็ยังถูกเสริมสร้างผ่านสถานการณ์เพื่อรับรู้ทั่วกันว่าคือคนธรรมดา มีพลาดพลั้งมีลังเลใจกันได้ ฉะนั้นไม่มีใครที่เหนือกว่าใคร ไม่ว่าจะเหยื่อหรือผู้ล่าก็ตาม
สิ่งที่ทำให้พล็อตเรื่องนี้ไปไกลคือการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครที่ไม่กำหนดว่าพระเอกจะต้องเก่งหรือเสียสละ รวมไปถึงนางเอกที่ไม่ได้อ่อนแอรอให้พระเอกมาช่วย ซึ่งจะไปแล้วคือการเล่นกับจิตใจที่แท้ของคนว่าก้นบึ้งแล้วเป็นคนแบบไหนกันแน่ เมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จะคิดอะไรจะทำอะไร แน่นอนว่าหลายครั้งอาจดูขัดใจ แต่มองย้อนกลับมาที่ตัวละครจะเห็นความเห็นแก่ตัวและความกลัว จึงไม่แปลกถ้านี่คือหนังสำรวจจิตใจตัวละครว่าแท้จริงคือคนแบบไหนกันแน่ในยามยากลำบาก
เนื้อหาไม่มีอะไร กระนั้นตอกย้ำเหล่านักท่องเที่ยวขาจรได้เป็นอย่างดีกับสถานที่ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากการไปพักหรืออาศัยในสถานที่ไร้ผู้คนหรือที่แปลกไม่คุ้นเคยหรือรู้จักในพื้นที่ดีพออาจนำไปสู่เรื่องไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา ดังเช่นหนังเรื่องนี้ที่พูดถึงคนแปลกหน้าว่าไม่ใช่คนดีเสมอไป บางทีอาจเป็นพวกโรคจิตที่ชื่นชอบหาความสนุกกับนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพราะไม่ค่อยมีคนสนใจคนกลุ่มนี้เท่าไรนัก ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือความรอบคอบในการป้องกันตัว แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือพยายามอยู่ใกล้ผู้คนหรือแหล่งชุมชน เวลาเกิดปัญหาจะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที
Killing Ground ลุ้นระทึกพอประมาณ แม้จะไม่ชวนตื่นเต้นถึงขีดสุดแต่การใช้ประโยชน์จากตัวละครเด็กน้อยนับว่าหวาดเสียวอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะมาช่วงหลังๆที่เอาจริงเอาจังไม่เมตตาหรือลีลาแบบช่วงแรกก็ทำเอาคิดว่ามีโอกาสรอดหรือตาย ซึ่งนำไปสู่ตอนจบที่บอกไม่ได้ว่าบทสรุปไปทิศทางไหนกันแน่เพราะยังมีสิ่งที่ค้างคาใจไม่ยอมเฉลยความจริง ปล่อยให้ผู้ชมสานต่อเอาเองในฉากจบด้วยการเปิดใส่ความคิดและอารมณ์จนไม่รู้จะหดหู่หรือดีใจกันแน่ นั่นเองทำให้คิดระลึกเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ที่ไม่เกินความคาดหมาย แต่ถ้าไม่มีต่อให้เล่าหรือบอกไม่หมดก็กลายเป็นหนังในอีกความรู้สึกไปเลย