Free Willy (1993) | ฟรี วิลลี่ เพื่อเพื่อนด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่
Director: Simon Wincer
Genres: Adventure | Drama | Family
Grade: B-
หนังตามสูตรจนไม่ต้องคาดเดาอะไรมากมาย แต่ความสนุกไม่ลดหย่อนน้อยลงเพราะมีเนื้อหาให้ครบตามแบบหนังครอบครัว ฉะนั้นถ้าไม่ยึดติดความหนาบางของตัวหนังก็เหมาะจะใช้เปิดให้ลูกๆดูเป็นข้อคิดสอนใจ โดยเฉพาะการสอนถึงการใช้ชีวิตที่มี เจสซี่ (Jason James Richter) เด็กชายตัวน้อย ผู้สร้างวีรกรรมก่อเรื่องป่วนเมืองอยู่เป็นประจำ กับ วิลลี่ ปลาวาฬเพชรฆาตในสวนน้ำ ซึ่งเรื่องราวมิตรภาพทั้งสองได้เริ่มต้น ณ ที่แห่งนั้น
สิ่งแรกที่เห็นชัดคือการนำพาตัวละครที่ไม่สมบูรณ์มาเจอกัน สำหรับเจสซี่คือเด็กน้อยที่ไม่อาจเห็นหน้าพ่อหรือรู้จักแม่ที่ทิ้งเขาไป ทำให้เติบโตมาเป็นเด็กมีปัญหาก่อกวนสร้างความเดือดร้อนไปทั่วเมือง แต่ลึกๆแล้วยังคงปรารถนาหาแม่ให้เจอเผื่อจะได้ความรักกลับมา ขณะที่วิลลี่ถูกจับและต้องพลัดพรากจากครอบครัวมาเป็นนักแสดงในสวนน้ำ แน่นอนว่าไม่มีใครควบคุมปลาแสนเศร้าตัวนี้ให้แสดงตามที่ต้องการได้
ทั้งสองต่างมีความเศร้าอยู่ในใจจากการสูญเสีย โดยเฉพาะเจสซี่ที่ไม่บอกได้ว่าชีวิตในอนาคตของตัวเองจะเป็นเช่นไร สิ่งที่ทำได้คือการตามเพื่อนๆจนนำไปสู่เหตุวุ่นวายเพราะเป็นเรื่องสนุก แต่โชคดีได้นักสังคมสงเคราะห์อย่าง ดไวท์ (Mykelti Williamson) คอยช่วยเหลือและจัดหาครอบครัวให้เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งกรีนวู๊ดคือครอบครัวที่จะมารับเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม จะมีกันเพียง เกลน (Michael Madsen) และ แอนนี่ (Jayne Atkinson) แน่นอนว่าครอบครัวใหม่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการเท่าตามหาแม่จริงๆ
เรื่องจะเน้นไปที่ปัญหาของเจสซี่ที่ไม่ยอมรับครอบครัวใหม่ เช่นเดียวกับวิลลี่ที่ไม่ยอมรับการฝึกซ้อม ทั้งสองต่างได้รับการเลี้ยงดูที่ต่างไปจากเดิม สำหรับเจสซี่ต้องมาอยู่กับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง ขณะที่วิลลี่ต้องมาอยู่กับครูฝึกสัตว์อย่างเลย์ ลินด์เล่ย์ (Lori Petty) และชาวอินเดียนแดงที่มีตำนานเรื่องเล่าอย่าง แรนดอล์ฟ จอห์นสัน (August Schellenberg) ความพยายามในการเข้าหาทั้งสองและปรับตัวจึงเป็นอุปสรรคที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้
เอาตามตรงหนังไม่ดีมากหรือถึงอารมณ์จนซาบซึ้งกินใจ แต่หลายอย่างดูเป็นธรรมชาติและง่ายดายเหมาะแก่หนังครอบครัว เนื้อหาจะใช้สอนได้ดีคือการให้รู้จักยอมรับและเคารพผู้อื่น เนื่องจากเจสซี่ไม่ยอมเปิดใจรับใครเลย แต่วิลลี่เสมือนสื่อกลางเปิดใจเจสซี่เพราะต่างมีชะตากรรมที่คล้ายกัน นั่นเองทำให้เจสซี่เริ่มมองโลกที่ดีมากขึ้นและเริ่มยอมรับคนอื่นที่ตัวเองต่อต้าน ส่วนวิลลี่รู้สึกไม่เปลี่ยวเหงาเพราะเจอเพื่อนรู้ใจ ทำให้ทั้งสองต่างเป็นเพื่อนรักที่ดีจนหลายคนมองว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์
แม้เรื่องราวระหว่างเพื่อนรักปลาวาฬเพชรฆาตจะอบอุ่นชวนยิ้มมากแค่ไหน ทว่าเรื่องครอบครัวของเจสซี่ไม่หนักแน่นและมีมิติเท่าที่ควร หลายอย่างถูกวางปมให้แก้ออกยากและน่าจะออกมาอย่างที่วางปมเอาไว้ แต่พอถึงเวลาจริงกลับแก้โดยง่าย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจสซี่กับเกลนและแอนนี่ส่งอารมณ์ไม่ถึงในประเด็นนี้ จะว่าน่าเสียดายที่หนังไม่สุดทาง แต่ไม่ปฏิเสธที่ให้แง่คิดสาระไว้หลายอย่างมากมาย
Free Willy เป็นหนังเพื่อนรักที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเด็กน้อยคนหนึ่งกับปลาวาฬเพชรฆาตหนึ่งตัว ซึ่งทั้งสองต่างเผชิญความทุกข์และโศกเศร้าเสียใจมาก่อน แต่ด้วยความผูกพันทำให้ทั้งสองเชื่อมใจเข้าหากัน แน่นอนว่ารวมถึงตัวผู้ชมที่ต้องรู้สึกยินดีและมีความสุขเวลาทั้งสองอยู่ด้วยกัน ถ้าดูแบบหวังมิตรภาพและความรักรับรองว่ามีซาบซึ้งกันไม่น้อย แต่เสียดายที่หนักมือกับมิตรภาพต่างสายพันธุ์มากไปหน่อย ประเด็นครอบครัวของเจสซี่จึงเป็นเรื่องรองที่ไม่ค่อยพัฒนาไปกว่าที่ควร
เคอิโกะ (Keiko) คือ ชื่อปลาวาฬเพชรฆาตในหนังเรื่องนี้ สาเหตุหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมาจากใช้ทุนสร้างเพียง 20 ล้าน$ แต่โกยรายได้ทั่วโลกไปถึง 153 ล้าน$ นับว่าไม่สร้างภาคต่อก็กระไรอยู่ ทำให้ออกมาครบไตรภาคเป็นเรื่องการผจญภัยของวิลลี่ที่กว้างยิ่งขึ้น ทว่าหลังจากนั้นวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2546 เจ้าปลาแสนรู้และน่ารักตัวนี้ได้หมดอายุขัยลงด้วยอายุ 27 ปี