Galaxy Quest (1999) | สงครามเอเลี่ยน บึ้มส์จักรวาล
Director: Dean Parisot
Genres: Adventure | Comedy | Sci-Fi
Grade: B+
ชัดเจนว่าล้อหนังไซไฟเรื่องไหน ซึ่งหนีไม่พ้น Star Trek ที่ล้อเลียนจนนึกว่าเป็นหนังเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะตัวละคร เสื้อผ้าหน้าผม ต่างล้วนชวนให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทว่าเนื้อเรื่องแตกต่างออกไปสิ้นเชิง และไม่มีอะไรที่ก้าวล้ำสมัยหรือเทคโนโลยีท่องอวกาศ เนื่องจากทุกอย่างไม่ใช่ของจริง และเป็นเพียงซีรีส์รายการฉายโทรทัศน์เท่านั้น (อารมณ์ประมาณหนังซ้อนหนังว่างั้น)
ซีรีส์ชื่อ Galaxy Quest กำลังพบความเสื่อมถอยตามกาลเวลา ความนิยมชมชอบสมัยฉายทีวีครั้งใหม่ๆไม่ฮิตอย่างแต่ก่อน สุดท้ายต้องจบเรื่องราวกันไป กระนั้นเนื้อเรื่องจบก็ใช่คนจะจบอย่างมีความสุข เพราะบรรดานักแสดงนำต่างไร้อนาคตกันหมด ทำให้ต้องหากินของเก่าด้วยการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต ทำหน้าที่รื้อฟื้นความทรงจำแก่บรรดาแฟนๆที่ยังชอบซีรีส์เรื่องนี้อยู่ ซึ่งการอยู่กับบทบาทเดิมๆไม่ไปไหนทำให้ทุกคนเบื่อและพร้อมจากไป จนกระทั่งได้รับคำเชิญจากมนุษย์ต่างดาว ทำให้ชีวิตเป็นจริงยิ่งกว่าในซีรีส์พิทักษ์จักรวาล
เข้าใจล้อเลียนในแบบหนังซ้อนหนัง ซึ่งบางครั้งแอบกัดจิกตัวเองอีกด้วย ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องตลกไปหมด แต่ดีตรงที่ไม่เอาความตลกล้อเลียนมาเป็นจุดขายจนดูเลอะเทอะ อันที่จริงเรื่องราวค่อนข้างจริงจังและเครียดระดับหนึ่ง ตัวละครต่างๆแสดงความทุกข์จากสิ่งที่ตัวเองทำซ้ำๆมาตลอดหลายปี ซึ่งการยอมทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้จะไปทางไหน ทุกคนเคยดังจากซีรีส์ที่ตัวเองเล่น แต่เมื่อหนังจบเท่ากับชีวิตต้องจบไปด้วย ส่วนที่เป็นเช่นนั้นเพราะภาพลักษณ์ติดตาของผู้ชมที่ไม่อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
เรื่องจริงของนักแสดงบางคนที่โด่งดังจากหนังเรื่องหนึ่งแล้วไม่สามารถก้าวหน้าในวงการ เพียงเพราะบทที่เล่นเป็นที่น่าจดจำมากเกินไป เวลาไปเล่นหนังเรื่องอื่นจะไม่คิดว่ามาจากเรื่องนั้น แต่ติดตากับหนังที่เคยเล่นมาก่อน ฉะนั้นการพูดถึงความเลวร้ายในวงการมายาจึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ โดยเฉพาะนักแสดงบางคนที่ไม่อาจหากินกับบทบาทอื่นได้ ดังตัวอย่างที่ Alan Rickman รับบทเป็นดร.ลาซารัส ไม่มีใครพูดถึงอย่างอื่นนอกจากตัวละครนี้ ทำให้ชีวิตจริงของเขาดูไร้ความหมายและแสนน่าเบื่อที่ต้องเมคอัพเป็นมนุษย์ต่างดาวอยู่ร่ำไป
ขณะเดียวกันยังแอบพูดถึงประเด็นทางเพศ โดยมี Sigourney Weaver เป็นตัวละครพูดถึงประเด็นนี้เกี่ยวกับความเซ็กซี่เกินจำเป็นในซีรีส์ ที่สำคัญบทบาทก็แทบจะไร้ประโยชน์เสียด้วยซ้ำ ซึ่งทุกคนต่างล้วนแสดงถึงปัญหาออกมาผ่านซีรีส์ที่ตัวเองเล่น ราวกับเป็นผลกระทบที่มีชื่อเสียงแต่ไร้คุณภาพชีวิตที่ดี ยกเว้น Tim Allen เพราะรับบทเป็นกัปตันปีเตอร์ ควินซี่ เทกการ์ต พระเอกประจำซีรีส์ที่แฟนๆต่างชื่นชอบ และความดังนี้เองทำให้เขาเป็นตัวขโมยความเด่นจนแทบไม่เห็นคุณค่าของคนอื่นๆ
Galaxy Quest จะสนุกและขำอย่างมากกับแฟนหนัง Star Trek เพราะทุกอย่างแทบถอดออกมาจากต้นฉบับ แค่ดัดแปลงให้เรื่องราวดูซับซ้อนและเป็นจริงมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายอย่างไม่ราบรื่นเหมือนในหนัง ตอนที่มนุษย์ต่างดาวมาขอความช่วยเหลือเพราะเชื่อว่าซีรีส์นั้นคือบันทึกประวัติศาสตร์รู้สึกเป็นตลกร้ายที่ไม่เข้าท่า กระทั่งเล่าเรื่องไปได้สักระยะเริ่มรู้สึกอะไรจริงอะไรตลก ความไม่สมเหตุสมผลกลายเป็นเรื่องน่าฟัง ต้องยอมรับวิธีการเล่าและเชื่อมโยงที่เหมือนง่าย แต่แอบซ่อนประเด็นเอาไว้มากทีเดียว
ช่วงแรกจะหนักกับความเป็นจริง เนื้อเรื่องดูจริงจังกับชีวิตที่ต่างต้องเผชิญกันอยู่ กระทั่งได้ขึ้นยานอวกาศออกไปเจอกับศัตรูจะกลายเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวค่อนช้างชอบกับวิธีเชื่อมโยงที่กะล้อเลียนตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ทุกอย่างดูฮาแบบลงตัว ไม่รู้สึกเป็นการเกินไปหากจะมามุขนี้ แม้ที่สุดจะดูง่ายไปหน่อยจนไม่ต่างกับชีวิตในหนังที่ครบสูตรพระเอกสู้ผู้ร้าย แต่สุดท้ายปมที่วางเอาไว้ล้วนได้รับการแก้ไขและพัฒนาในหนทางที่ดีขึ้น สำหรับตอนจบรู้สึกอิ่มเอมที่ชีวิตเหล่านักแสดงซีรีส์ไม่ได้น่าเบื่อและเป็นฮีโร่เพียงแค่จอทีวีอีกต่อไป แม้คนบนโลกไม่รู้ แต่นอกโลกรู้ว่าพวกเขาพิทัก์จักรวาลได้สำเร็จจริงๆ
