My Lucky Stars (1985) | 7 เพชฌฆาตสัญชาติฮ้อ
Director: Sammo Kam-Bo Hung
Genres: Action | Comedy | Crime
Grade: B-
"เฉินหลงมาสคอตเป็นหนูน้อยอาราเล่สู้ฟัดกับคนร้ายด้วยนะเออ"
เปิดเรื่องมาที่ Jackie Chan และ Biao Yuen ในบทเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตามจับคนร้ายที่สวนสนุก แต่ภารกิจล้มเหลว ทำให้ต้องใช้แผนล่อเหยื่อ ซึ่งนำทีมโดย Sammo Kam-Bo Hung พร้อมกับเพื่อนๆร่วมแก๊ง ได้แก่ Charlie Chin ,Stanley Sui-Fan Fung ,Richard Ng และ Eric Tsang กับภารกิจปลอมตัวเข้าแทรกซึมแก๊งคนร้าย
Jackie Chan มาแค่ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องเท่านั้น ไม่มีการปูเรื่องราวทางด้านตำรวจอะไรมากเหมือน Police Story (1985) ที่เน้นการทำงานของตำรวจ ซึ่งเป็นข้อดีไม่ทำให้จำเจกับเรื่องราวเดิมๆ อีกทั้งเป็นการเพิ่มมุมมองอีกด้านหนึ่งที่ไม่ยึดติดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกต่อไป ฉะนั้นอย่าได้ตกใจกับดาราขวัญใจที่ปรากฏในฉากเริ่มของหนังจะหายไปในช่วงกลางเรื่อง หากเป็นการส่งไม้ต่อถึงอีกด้านหนึ่งที่ผ่อนคลายจากความซีเรียส ในทางกลับกันสิ่งนี้แทบไม่ต่างกับ Camero ที่คงมีแต่แฟนหนังที่รู้สึกสนุกและชื่นชอบในจุดนี้
หลังหลุดพ้นความกดดันในช่วงแรกที่เกริ่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แสนลำบาก ก็ถึงคราวของมุขตลกที่มีทั้งฮามากฮาน้อยปะปนกันไปตามตัวละครที่หลากหลาย โดยมุขเหล่านี้ในความเป็นจริงค่อนข้างรั่วพอสมควร เอาจริงเอาจังไม่ค่อยได้และอาจแป้กสำหรับใครหลายคน ทว่าเต็มไปด้วยสีสันบันเทิงและความแปลกใหม่ที่ไม่น่ารำคาญ ดังนั้นจึงไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดกับคนที่เปิดใจกว้างรับความสนุก ขอแค่ดูพอเพลินก็ตอบโจทย์ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว
เป็นหนังเรื่องแรกของ Michiko Nishiwaki นักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นที่น่าตาสวยพอประมาณ ส่วนสรีระร่างกายเด่นกว่าทุกคนในเรื่อง ไม่ใช่เซ็กซี่น่าเย้ายวน แต่เป็นกล้ามเนื้อเน้นๆกระชับสัดส่วนไร้ไขมัน แล้วยังโชว์กล้ามจนท่านชายหลายคนยังมีอาย แต่ถ้ามองข้ามสาวแกร่งยังมี Sibelle Hu ในสารวัตรสาวที่มาในชุดนอนบอบบาง ซึ่งฉากนี้แฝงความเซ็กซี่และความฮาจนน่าหมั่นไส้
My Lucky Stars มีตัวละครที่หลากหลายและนักแสดงที่มากหน้าหลายตา ไม่ต้องถามว่าทำไมหน้าตาคุ้นๆเพราะแต่ละคนมารวมที่เรื่องนี้จริงๆ ส่วนบทบาทมากน้อยแล้วแต่กันไป ซึ่งบ้างทีดูมากไปและน้อยไป แต่รวมๆยังลงตัวไม่ถึงกับโดดไปมาจนไม่รู้เรื่อง ซึ่งอันจริงเนื้อเรื่องค่อนข้างสั้นและเข้าใจง่ายยิ่งกว่าง่าย แค่พยามยามยืดวิธีเล่าให้นานมากขึ้นโดยปรุงแต่งให้มีรสชาติหลายมุมมอง ในที่นี่คงไม่พ้นช่วงกลางเรื่องหรือองค์ที่สอง ถ้าสังเกตให้ดีแทบไม่มีสาระอะไรนอกจากเอาฮาคลายเครียดเป็นส่วนใหญ่
หลายอย่างทำมาเพื่อผ่อนคลาย เนื้อเรื่องไม่จริงจังเชิงลึกและไม่ซับซ้อน ทุกอย่างดูง่ายจนน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากตัวร้ายแทบไม่มีโอกาสได้ปล่อยไม้เด็ดให้สู้กันนานแบบเลือดตกยางออก อารมณ์จึงขาดๆเหมือนจะมันส์แต่ไม่สุด ราวกับไม่ต้องการให้ใครเด่นไปกว่าใคร โดยเฉพะ Jackie Chan ที่มาปล่อยคิวบู๊ในตอนท้ายคนเดียว แต่ไม่ใช่คนที่ทำหน้าที่จบในฉากนี้ ส่วน Sammo Kam-Bo Hung แสดงคิวบู๊เหมือนกัน กระนั้นอย่างที่บอกคือไม่มีใครเด่นเกินหน้าเกินตาใคร กระจายบทกันไปเลยจนได้อารมณ์กลางๆ ไม่มากไม่น้อย แค่รู้สึกไม่พอดีแม้จะสนุกก็ตาม