Upgrade (2018)
Director: Leigh Whannell
Genres: Action | Sci-Fi | Thriller
Grade: A-
งานกำกับชิ้นที่ 2 ของผู้กำกับ Leigh Whannell ที่แสดงถึงความแตกต่างจากงานชิ้นแรกอย่าง Insidious: Chapter 3 (2015) ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งนี่อาจเป็นสไตล์ที่ตัวเองถนัดในอีกรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากคลุกคลีกับ James Wan ในฐานะคนเขียนบทเป็นส่วนใหญ่ พอหลุดพ้นจากหนังผีมาทำไซไฟก็รู้เลยว่าเป็นงานที่เต็มไปด้วยการปลดปล่อย ทุกอย่างดูเต็มที่กับสิ่งใหม่ๆตั้งแต่เขียนบทจนกำกับเอง
เห็นเป็นหนังไซไฟ แต่งานสยองขวัญไม่ทิ้งไปไหน ทำให้ฉากแอ็คชั่นไม่ได้เตะต่อยเอามันส์อย่างเดียว แต่โหดระดับปากฉีกหัวเบะอีกด้วย ซึ่งไม่แปลกใจในความรุนแรงเหล่านี้จะได้มาจากการร่วมทำหนังตระกูล Saw ดังนั้นการเห็นเลือดเนื้อต่อหน้าต่อตาโดยไม่หลบมุมกล้องถือเป็นความสะใจไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะฉากผ่าตัดที่ลงมีดกรีดเนื้อแสดงความสมจริงและชัดเจนอย่างมาก เหมาะกับคนชอบดูหนังสาย Gore ระดับหนึ่ง
การที่หนัง Gore ได้สมจริงและรุนแรงถึงเลือดถึงเนื้อเพราะฉากแอ็คชั่นล้วนๆ แต่ละฉากเนรมิตรได้สดใหม่ทั้งเรื่อง มีความแปลกตาไปกับการต่อสู้ที่ไม่ซ้ำกัน แต่ที่ได้อารมณ์จริงๆคือมุมกล้องที่เหวี่ยงหมุนกันสนุกมือ ทว่ามุมกล้องที่เป็นข้อดีชวนให้ตื่นเต้นกลายเป็นข้อเสียในตอนหลัง เนื่องจากใช้บ่อยจนรู้สึกทันทีว่าเป็นจังหวะเดิมๆ ความรู้สึกชอบในตอนแรกจะกลายเป็นความจำเจไปเสียก่อน โดยรวมในแง่แอ็คชั่นถือว่าสนุกพอตัว แม้ทุนสร้างไม่สูง แต่ความมันส์เกินราคา
ในส่วนที่ชอบมากคือการผูกเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อนให้ดูมีมิติ อย่างพวกคนร้ายที่ดูธรรมดาแต่มีความพิเศษบางอย่างอยู่กับตัว ซึ่งไม่ต่างกับพระเอกที่ผสานตัวเองเข้ากับไมโครชิพ แม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ต่างกับชีวจักรกล การให้เทคโนโลยีเข้ามาควบคู่ชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่มากแล้ว แต่การรวมเป็นหนึ่งเข้ากับร่างกายเป็นสิ่งที่เหมาะสมมากเพียงใด การให้คำถามเกี่ยวกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มีความปลอดภัยจริงหรือ? คำตอบที่ได้มักจะคลุมเครือ บทจะดีก็ดีเสมือนผู้สร้าง บทจะร้ายก็ร้ายเหมือนผู้ทำลาย ดังนั้นบทสรุปของหนังจะเป็นคำตอบที่ดีอย่างหนึ่ง