I Am Sam (2001) สุภาพบุรุษปัญญานิ่ม

I Am Sam (2001) | สุภาพบุรุษปัญญานิ่ม
Director: Jessie Nelson
Genres: Drama
Grade: B+

เป็นหนังที่ใครหลายคนพูดถึงไม่น้อย โดยเฉพาะความรักของพ่อลูกที่มีเส้นกั้นระหว่างสติปัญญาที่แตกต่างกัน ซึ่งเรื่องราวได้เกิดขึ้่นกับแซม ดอว์ซัน (Sean Penn) ชายที่มีอาการออทิสติก และมี IQ เท่ากับเด็ก 7 ขวบเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านกาแฟ ด้วยอัตราค่าจ้าง 8 $ เหรียญต่อชั่วโมง มีเพื่อนบ้านและกลุ่มเพื่อนที่มีอาการลักษณะเดียวกัน ใช้ชีวิตเข้ากับสังคมได้อย่างไม่มีปัญหา


กระทั่งมีความสัมพันธ์กับหญิงเร่ร่อนคนหนึ่งที่เข้ามาเพื่อหาที่ซุกหัวนอน แล้วเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เมื่อเธอเผอิญตั้งครรภ์และทิ้งลูกน้อยไว้ให้แซมดูแลเพียงลำพัง แต่โชคดีที่แอนนี่ (Dianne Wiest) เพื่อนข้างบ้านช่วยรับเลี้ยงและสอนให้แซมเลี้ยงเด็กอย่างถูกต้อง แม้จะผิดถูกมาตลอดก็โตขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ แซมจึงตั้งชื่อให้ลูกสาวว่าลูซี่ (Dakota Fanning)

ความรักระหว่างพ่อและลูกอาจไม่เหมือนคนทั่วไป แต่ความผูกพันนั้นแน่นแฟ้นจนไม่อยากให้แยกจากกัน กระทั่งลูซี่ในวัย 7 ขวบต้องได้รับการตัดสินจากศาลที่เล็งเห็นอาการออทิสติกในตัวแซม จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกที่มีอายุเท่ากับสติปัญญาของพ่อตัวเอง เมื่อลูซี่คือคนปกติที่ยังเรียนรู้ได้อยู่เรื่อยๆ จากพ่อที่เคยสั่งสอนลูกก็กลายเป็นลูกที่ต้องมาสอนพ่อของตัวเอง ในฉากแซมสอนหนังสือนับว่าน่ารัก แต่ฉากลูซี่อ่านหนังสือให้แซมฟังกลายเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจไม่น้อย


แต่ปัญหาไม่ได้มีแค่ความแตกต่างระหว่างความปกติกับความผิดปกติ เนื่องจากแซมต้องหาเลี้ยงครอบครัว ต้องหาเงินเพิ่มขึ้นเพื่อส่งลูซี่เข้าเรียน ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งที่ไม่อาจทำได้ เนื่องจากสติปัญญามีขอบเขตที่กำจัด การเรียนรู้สิ่งใหม่หรือกระทำที่หลากหลายจึงเป็นเรื่องยากเกินไป แม้แต่การตอบคำถามหรือทำอะไรที่ซับซ้อนจากเดิมก็ไม่อาจทำได้ ทำให้เกิดความกังวลใจต่ออนาคตเด็ก ในวันข้างหน้าจะเติบโตมายังไงและใช้ชีวิตแบบไหน

การได้เห็นแซมและลูซี่อยู่ด้วยกันและเติบโตมาพร้อมกัน ทำให้ฐานะพ่อลูกเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้ง แม้แซมจะเป็นคนมีปัญหาด้านสติปัญญา แต่ลูซี่ยังสามารถพัฒนาก้าวไกลได้อีกมาก นัยยะภาพวาดตัวแทนครอบครัวที่ลูกสาวตัวโตจูงมือพ่อที่ตัวเล็ก ภาพนี้สื่อถึงอนาคตที่ตัวเองเริ่มอยู่เหนือพ่อ เมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นลูกเลี้ยงพ่อเสียเอง แล้วใครจะมาเป็นผู้ปกครองสั่งสอนลูซี่ได้อีก การหาครอบครัวใหม่เพื่อรับเลี้ยงจึงเป็นทางออกที่ดีต่อนาคตเด็ก แม้ฟังดูเป็นการพรากจากกันก็ตาม


ริต้า แฮริสัน (Michelle Pfeiffer) ทนายความสาวผู้ไม่เคยแพ้คดีมาก่อน แต่ต้องมาแพ้ให้กับความจริงของชีวิตครอบครัว เธอคืออีกด้านหนึ่งของแซม แม้เป็นคนปกติมีมันสมองงานดีรายได้สูง ทว่าขาดความรักความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว จะซื้อของเล่นหรือหาทุกสิ่งทุกอย่างมาให้ก็ไม่อาจรั้งหรือทำให้เกิดความสุขได้ นั่นเพราะริต้าให้ความสำคัญกับงานมาก่อนเสมอ ทำให้เวลาที่จะอยู่กับสามีและลูกมีน้อย แม้รักและให้มากแค่ไหนก็ไม่อาจสู้การอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้

ริต้าเป็นคนหัวสูงเลือกทำคดีที่ให้ค่าตอบแทนงาม ทว่ากับแซมที่เป็นออทิสติกและไม่มีเงินมากขนาดจะจ้างทนายแน่นอนก็มาเป็นทนายให้โดยง่าย ซึ่งสาเหตุมาจากการถือหน้าถือตาถูกมองเป็นคนหน้าเงิน ไม่ทำคดีที่ให้เงินน้อยโดยเด็ดขาด ยิ่งแซมตามตื๊ออยู่หลายครั้งก็ยิ่งถูกมองเป็นคนไร้ความเมตตา เมื่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสายตาคนอื่นเป็นเช่นนี้จึงเลือกทำคดีของแซมแบบฟรีๆไม่คิดเงิน เป็นการประกาศว่าตัวเองไม่ได้หน้าเงิน ทว่าคดีของแซมมีความยากกว่าที่เธอรับปากไว้มาก


ฉากขึ้นศาลไต่สวนเต็มไปด้วยความหดหู่ที่ถ่ายทอดออกมาในลักษณะขัดใจตลอดเวลา ซึ่งเจ้าปัญหาคือแซมที่ไม่อาจตอบคำถามที่ซับซ้อน ทำได้แค่ตอบอย่างตรงไปตรงมา แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการไม่อยู่นิ่ง มักจะขัดคอหรือแทรกคำพูดเข้ามาหน้าตาเฉยเหมือนคนไม่รู้ว่าทำอะไรกันอยู่ แทนที่ฉากนี้จะมีความหวังได้ลูซี่มาอยู่อ้อมกอดก็ยิ่งห่างไกลมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นแล้วฉากขึ้นศาลจึงเป็นประเด็นที่หนักหนาพอสมควรกับคนที่เป็นออทิสติก จะชนะคดีได้อย่างไรในเมื่อตัวเองแทบไม่เข้าใจกฎหมายอะไรเลย ยกเว้นความรักของคนเป็นพ่อเท่านั้น

Sean Penn แสดงเป็นออทิสติกได้สมจริงและทรงพลังมาก มีหลายฉากเล่นด้วยตัวเองเพราะบทไม่สามารถอธิบายได้ละเอียดมากพอ แต่ที่แสดงดีไม่น้อยไปกว่ากันคือ Dakota Fanning เด็กน้อยที่ต้องรับภาระคนมีปมเรื่องพ่อ แม้จะไม่พูดออกมาตรงๆเลยสักครั้ง ทว่าแสดงออกผ่านสายตาชัดเจน แทบไม่น่าเชื่อว่านักแสดงที่รุ่นต่างกันขนาดนี้จะเข้าหากันได้อย่างลงตัว เป็นพ่อลูกที่น่ารักน่าประทับใจและน่าเศร้าสะเทือนอารมณ์ในเวลาเดียวกัน


กลายเป็นหนังที่ยิ่งดูยิ่งเห็นความน่ารักของพ่อลูก เมื่อถึงจุดแตกหักที่ทั้งสองต้องแยกกันจะกลายเป็นหนังที่หดหู่สะเทือนใจกันไม่น้อย ความพยายามของคนเป็นพ่อนับว่าที่สุดของคนที่ออทิสติก แม้จะยิ่งดูยิ่งน่ารำคาญ แต่ปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นจริงของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่อาจเลือกเกิดได้ก็ต้องเลือกใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ถึงจะไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องจนถูกหาว่าเป็นปัญญาอ่อนมากแค่ไหน แต่รู้จักความรักที่คนปกติบางคนไม่เข้าใจ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)