Skyscraper (2018) | ระห่ำตึกเสียดฟ้า
Director: Rawson Marshall Thurber
Genres: Action | Adventure | Thriller
Grade: B-
เป็นการเปลี่ยนแนวทำหนังของผู้กำกับ Rawson Marshall Thurber เพราะย้อนกลับไปก่อนหน้านี้อย่าง We’re the Millers (2013) และ Central Intelligence (2016) ล้วนเป็นหนังขายมุขตลกกันหมด อีกเรื่องแนวครอบครัวเพี้ยน อีกเรื่องแนวคู่หูคู่ฮา โดยเรื่องนี้จะเป็นแอ็คชั่นปนซีเรียสที่เน้นมันส์มากกว่าขายหัวเราะ ซึ่งทำได้ดีระดับหนึ่ง แม้จะดูเป็นการบันเทิงมากไปหน่อยก็ตาม
เหมือนดูหนังแอ็คชั่นที่ขายความบันเทิงเพียวๆ ทุกอย่างตามสูตรหมดทุกอย่าง ฉะนั้นอย่าไปคาดหวังความสมจริงหรือเนื้อหาแต่อย่างใด ซึ่งเราเห็นได้หลายฉากที่ค่อนข้างโม้อยู่เต็มไปหมด โม้ขนาดที่พระเอกทำได้หมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะอุปสรรคหนักหนาเพียงใดก็ล้วนแก้ไขผ่านฉลุยได้หมด แต่ในความเกินจริงและเกินมนุษย์มนาก็ใช่จะทำให้ดูง่ายทุกครั้ง มีหลายสถานการณ์นำพาไปสู่ความยากลำบากที่จบตรงนี้ไปเจอตรงโน้น ไม่คิดว่าตัวละครจะรู้สึกเหนื่อยบ้างเหรอ
ถึงจะรู้สึกสงสารตัวละคร แต่ Dwayne Johnson คือนักแสดงที่แบกหนังทั้งเรื่องได้อยู่หมัด จะเจอภัยอันตรายแค่ไหนทำได้ถึงอารมณ์ทั้งการแสดงและฉากวิกฤติต่างๆ อีกทั้งยังสร้างความไม่สมบูรณ์ของตัวละคร อย่างเรื่องขาที่กลายเป็นคนพิการใส่ขาปลอม เวลาแก้ปัญหาจะยากยิ่งกว่าคนปกติทั่วไปเจอ ทำให้ลุ้นตื่นเต้นว่าตัวละครจะมีไหวพริบจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ซึ่งบางอย่างโม้ได้มันส์และลุ้นมากจริงๆ
แต่เพราะเน้นไปที่ตัวละครหรือนักแสดงหลักเพียงคนเดียวมากเกินไป ทำให้ตัวละครและนักแสดงคนอื่นไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าไรนัก ขนาดที่ว่ามีการใส่ประเด็นครอบครัวยังดูไร้มิติและธรรมดา เป็นเพียงคุณพ่อกระโดดเข้าตึกเพื่อช่วยครอบครัวที่บังเอิญอยู่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อการร้ายบุกพอดีเท่านั้น ที่เหลือจึงมีแค่ลุยไปข้างหน้าอย่างเดียว เฉกเช่นตัวร้ายที่เหมือนจะมีความเก่งกาจวางแผนรอบคอบเข้าตึกฝ่าระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดได้อย่างสบาย แต่สุดท้ายต้องพลาดท่าเอาง่ายๆผิดกับตอนยึดตึกเป็นคนละคน
นี่คงเป็นหนังที่บอกทิศทางชัดเจนว่าบทพระเอกต่อให้เจออะไรก็จัดการได้หมดนั้นแหละ