Operation Red Sea (2018) | ยุทธภูมิทะเลแดง
Director: Dante Lam
Genres: Action / Drama / Thriller / War
Grade: B
ตอนดู Operation Mekong (2016) รู้สึกสนุก มีบู๊มีบุ๋นครบรส ผลงานถัดมาอย่างเรื่องนี้ให้อารมณ์คล้าย Black Hawk Down (2001) แต่แทบจะไม่เหลือความบุ๋นแต่อย่างใด จะบู๊จะยิงกระหน่ำกันอย่างเดียว ราวกับมีทุนแค่ไหนขอใช้ให้หมด ไม่กั๊กหรือเหลือเอาไว้ใช้ทำอย่างอื่น ลงไปกับระเบิดที่พังมันทุกอย่างที่ขวางหน้า ยิงมันทุกสิ่งที่ขยับได้ แทบไม่มีจังหวะพักหายใจหายคอให้คนดูเลย
เริ่มเรื่องไม่กี่วินาทีพาไปยิงบนเรือขนส่งสินค้าเพราะถูกโจรสลัดปล้น ซึ่งฉากที่น่าสนใจมากๆคือสโลโมชั่นที่กวาดบรรยากาศรอบข้าง แต่ละคนมีการขยับทีละน้อยก่อนจะได้จังหวะใส่กันอย่างพร้อมเพรียง เป็นฉากที่ถ่ายทอดถึงอารมณ์สมปฏิบัติการสายฟ้าแลปที่จบเพียงนัดเดียว อีกทั้งเป็นการโชว์ของว่านี่พึ่งเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งเป็นจริงอย่างที่คิดเอาไว้เพราะหลังจากนี้จะมีฉากยิงสโลโมชั่นอีกสองสามฉาก โดยทุกฉากล้วนเป็นไฮไลท์สำคัญที่บางคนลุ้นบางคนแอบเบื่อ(มีให้เห็นบ่อย)
ภารกิจคืออพยพพลเมืองชาวจีนที่ติดอยู่ในสงครามกลางเมืองระหว่างผู้ก่อการร้ายกับรัฐบาล แน่นอนว่าภารกิจไม่ได้ซับซ้อนหรือยุ่งเกี่ยว แค่เข้าไปแล้วออกมา แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างคิดเพราะฝั่งผู้ก่อการร้ายจับตัวประกันชาวจีนเอาไว้ ทำให้ภารกิจช่วยเหลือต้องกลายเป็นบุกลุยฝ่าดงกระสุนเข้าปะทะผู้ก่อการร้ายเต็มขั้น เนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไรนอกจากยิงกับระเบิดทั้งเรื่อง ยกเว้นการเชิดชูเชื้อชาติที่อารมณ์มาเต็มกับกลุ่มทหารจีน มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวจนเหมาะจะขายคนชาติเดียวกัน
แน่นอนว่ายิงกันหูดับตับไหม้กันทั้งเรื่อง เหมาะสำหรับดูเน้นบันเทิงอย่างที่สุด ทว่าในความสนุกต้องมีสะดุดอยู่บ่อยครั้งกับวิธีเล่าเรื่อง ทั้งการตัดต่อ มุมกล้อง และจังหวะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ดูธรรมดาและมือสมัครเล่น แทนที่ฉากนั้นควรได้อารมณ์แบบนี้ หรือบางฉากที่ควรยาวก็ห้วนสั้นกระชากอารมณ์ มาง่ายไปง่ายโดยไม่ต้องทำความเข้าใจให้เสียเวลา รู้แค่มายิงคนร้ายและช่วยตัวประกันแค่นั้นพอ
ด้วยความที่อัดแน่นด้วยฉากแอ็คชั่นเป็นหลัก ทำให้มิติตัวละครถูกปูมาแบบเรียบง่าย แทบไม่เห็นความน่าสนใจจนนำไปสู่ความแข็งกระด้างของตัวละครที่ไม่มีอะไรเกินไปกว่าความรักชาติ ทำให้ไคล์แม็กซ์ที่ควรสะเทือนใจกับการเสียสละจึงไปไม่ถึงอารมณ์ดังที่หวังได้ แต่ไม่แน่ว่าหนังที่มีอุดมการณ์รักชาติเรื่องนี้อาจเข้าถึงอารมณ์คนบ้านเดียวกันก็เป็นได้
Operation Red Sea คือหนังแอ็คชั่นที่หยิบทุกอย่างมาใช้เกือบหมด ฉะนั้นความหลากหลายจึงมีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง นับเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ยิงกระหน่ำทั้งเรื่องแต่ไม่รู้สึกจำเจหรือน่าเบื่อเลยสักนิด น่าเสียดายที่ภาพกับการตัดต่อเป็นปัญหาชวนสะดุด ไม่งั้นอาจได้อรรถรสความมันส์ที่มากกว่านี้หลายขุม นอกจากแอ็คชั่นแล้วยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ความมันส์กลายเป็นความสยองได้คือฉากการได้เห็นเลือดเนื้อกระจุยกระจาย มือขาด ขาขาด หน้าแหก และอีกหลายฉากที่เน้นให้เห็นสมจริงไปเลย จะมันส์ก็ว่ามันส์ จะสยองก็ว่าสยอง เหมือนไม่เข้ากันแต่ลงตัว