Sicario: Day of the Soldado (2018) | ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2
Director: Stefano Sollima
Genres: Action / Adventure / Crime / Drama / Mystery / Thriller
Grade: B
ภาคต่อ Sicario (2015) ที่เปลี่ยนมือผู้กำกับ แต่ความเข้มข้นยังอยู่ครบและอาจมากกว่าด้วยซ้ำในแง่เนื้อหาที่ซับซ้อน ทว่าในการเล่าเรื่องกลับชวนง่วงเสียมากกว่า เพราะหลายอย่างยิ่งดูยิ่งย่อยยากขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งเกินบ้างน้อยบ้าง ไม่เหมือนภาคแรกที่คุ้มจังหวะให้ทุกอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่หลุดเข้าสู่ความน่าเบื่อ ซึ่งเป็นไปได้อยากให้ Denis Villeneuve มากำกับดั้งเดิม
แต่ไม่ใช่ Stefano Sollima จะทำไม่ดี แค่หลายอย่างทำให้ดูเหมือนภาคแรกมากไปหน่อย ทำให้รูปแบบสไตล์ภาคแรกดูเป็นต้นฉบับที่ครบเครื่องมากกว่า โดยเฉพาะความตึงเครียดที่มีทุกที่ทุกเวลา บางจังหวะให้อารมณ์น่ากลัวเหมือนหนังผีมาเองเสียด้วยซ้ำ ซึ่งภาคนี้พยายามทำให้เป็นเช่นนั้น แต่การถ่ายทอดอารมณ์ไม่น่าติดตามเท่าที่ควร สิ่งที่พอจะสู้ได้คือฉากแอ็คชั่นและเนื้อเรื่องที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
Benicio Del Toro กลับมารับบท อเลฮานโดร มือสังหารที่เยือกเย็นและเงียบเชียบ จากภาคแรกได้สร้างฉากที่น่าจดจำชนิดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกและน่ากลัวด้วยการฆ่าแบบไม่แคร์สิ่งใดทั้งสิ้น กลายเป็นตอนจบที่สั่นประสาทเพียงลั่นไกยิงโดยที่ไม่เห็นว่าโดนยิง แต่ความรู้สึกเหมือนถูกยิงเข้าเต็มๆ มาหนนี้ยังคาแรคเตอร์เดิมเอาไว้เกือบหมดทุกอย่าง ต่างกันที่บทบาทมากขึ้นและเป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง ซึ่งมีการเปิดเผยเรื่องราวตัวละครมากขึ้นไปด้วย
การแสดงของ Benicio Del Toro นับเป็นจุดเด่นของเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะอาการหน้านิ่งคิดลึกทำให้ความไม่แน่ไม่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยิ่งดำเนินเนื้อเรื่องไปมากเท่าไรยิ่งเดาความคิดยากเท่านั้น เสียดายที่ภาคนี้ขาดความดุดันแบบภาคแรก ซึ่งเป็นไปได้ที่ตัวละครนี้เริ่มแสดงจิตใจออกมา บางอย่างจึงไม่เด็ดขาดเป็นเพชฌฆาตซะทีเดียว ในทางกลับกันงานที่ทำไม่มีความแค้นส่วนตัวแบบภาคแรก ความมุ่งมั่นจึงเป็นงานมากกว่าเหตุผลส่วนตัว
ส่วนที่ขาดไปไม่ได้คือ Josh Brolin ในบท แมตต์ เกรเวอร์ หัวหน้ากลุ่มทหารที่รับงานจากรัฐบาลอีกครั้ง ครั้งนี้ได้รับมอบหมายให้จัดการกลุ่มค้ายาเสพติดในเม็กซิโก ด้วยวิธีแผนซ้อนแผนจับลูกสาวหัวหน้ากลุ่มค้ายา เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดเข่นฆ่ากันเองโดยที่รัฐบาลไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวให้เสียเลือดเนื้อ สำหรับบทบาทไม่ต่างจากภาคแรกที่ทำหน้าที่วางแผนและประสานงาน การเชือดเฉือนชิงไหวพริบยังพอมีให้เป็นระยะ แต่โดยรวมเป็นตัวละครที่ยิ่งดูยิ่งธรรมดาเพราะหมดความเก๋าลงเรื่อยๆ
Isabela Moner รับบทเป็นลูกสาวเจ้าพ่อค้ายา ตัวจุดชนวนสงครามนองเลือดที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอก คือเด็กผู้หญิงที่ห้าวสมกับสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา ไม่ยอมใครหน้าไหน จนกระทั่งกลายเป็นเชลยถึงกับหน้าถอดสี การแสดงและรูปร่างหน้าตาเข้ากับคาแรคเตอร์ได้อย่างดี เป็นตัวละครที่น่ามาพร้อมกับภาพลักษณ์ของเด็ก แต่เอาเข้าจริงมีความเป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ เป็นไปได้อยากให้ปูเรื่องราวตัวละครนี้มากกว่าอีกสักหน่อย
Sicario: Day of the Soldado เทียบภาคแรกไม่ได้แน่นอน แต่ในแง่ของความใกล้เคียงนับว่าสนุกพอตัว ความเข้มข้นลุ้นระทึกอาจจะน้อยกว่าแต่สถานการณ์ชวนเครียดมากกว่า ส่วนฉากแอ็คชั่นมีแค่พอหอมปากหอมคอเท่านั้น ไม่ได้มีมากอย่างที่คิดเอาไว้ แม้ดูเหมือนมีฉากยิงปะทะหลายฉากก็ตามที นับว่าน่าเสียดายหากคิดว่าเป็นหนังแอ็คชั่นบู๊มันส์ยิงถล่มแก๊งค์ค้ายาที่บุกถึงถิ่นเม็กซิโก เพราะนี่คือการยืมมือฆ่า ใช้ไหวพริบเอาตัวรอดและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว