Johnny English Strikes Again (2018) | พยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก๊าก รีเทิร์น
Director: David Kerr
Genres: Action / Adventure / Comedy
Grade: C+
ไม่คาดหวังมากก็ฮามาก แต่ถ้าคาดหวังสูงก็ฮาน้อยหน่อย เพราะภาคนี้ราบเรียบดูธรรมดาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยหวือหวาแบบภาคก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการไม่พยายามใส่มุขขายตลกมากเกินไป ทุกอย่างจึงดูพอดีไม่ล้นจนเลอะเทอะ ทว่ามุขที่คัดมาก็ใช่จะน่าหัวเราะซะทั้งหมด มีตั้งแต่ฮามากจนไปถึงไม่ฮาเลย ซึ่งความฮาค่อนไปทางระดับปานกลางเป็นส่วนใหญ่ โดยส่วนตัวจึงดูไปหัวเราะไปแบบ"หึหึ"ที่มุมปาก
แม้ทิ้งห่างจากภาคแรกใน Johnny English (2003) ถึง 15 ปี และ Johnny English Reborn (2011) ถึง 7 ปี แต่พล็อตเรื่องแทบจะต่างไปจากภาคก่อนเลย เรื่องยังเป็นของ จอห์นนี่ อิงลิช (Rowan Atkinson) สายลับอังกฤษที่คอยจัดการคนร้ายเพื่อความสงบสุขของประเทศ ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รับมือได้ แน่นอนว่าทุกอย่างตรงตัวจบตามสูตรเป๊ะ
ลองนึกสภาพไม่มี Rowan Atkinson คงไปไม่รอดแน่ๆ แต่ด้วยการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือนอยู่แล้ว ทำให้ทุกอย่างยังดูสดใหม่ แม้จะรู้และคุ้นเคยกับตัวละครสร้างเสียงหัวเราะทั่วโลกอย่าง"มิสเตอร์บีน" น่าเสียดายที่ขายตลกมากไปหน่อย ทำให้ทิศทางสาระที่ต้องการสื่อเป็นเรื่องจืดจาง โดยเฉพาะเรื่องอายุกับภารกิจที่ไม่สัมพันธ์กันเรื่องเทคโนโลยี สิ่งที่เห็นยังยึดติดกับระบบอนาล็อค ทั้งที่ยุคสมัยเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอลกันหมด ประเด็นความแตกต่างของยุคสมัยไม่ค่อยน่าสนใจมากนัก แม้จะพยายามแสดงให้เห็นตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบแล้วก็ตาม
เนื้อเรื่องคาดหวังอะไรไม่ได้มาก แต่ความฮาให้รับประกันว่ามีตลกแน่นอน ซึ่ง Rowan Atkinson ทำได้หายห่วง ยกเว้นคนที่เส้นลึกอาจดูธรรมดากับมุขที่เล่นง่ายหวังฮาทันที และเช่นกันในส่วนของฉากแอ็คชั่นที่บู๊น้อยมาก ส่วนใหญ่เน้นวางท่าปล่อยลีลา ฉะนั้นอย่าไปนึกถึงฉากแอ็คชั่นแบบภาคก่อนที่ยังพอมีมันส์อยู่บ้าง ซึ่งไม่ผิดถ้ามองว่าภาคนี้มีเนื้อหาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย อะไรที่เป็นสิ่งเก่าจะถูกมองเป็นสิ่งล้าหลัง เป็นข้อเปรียบเทียบระหว่างเก่ากับใหม่ แน่นอนว่าของใหม่ย่อมดีกว่า แต่ของเก่าบางอย่างก็ใช่จะทดแทนด้วยสิ่งใหม่ได้เสมอไป