Negadon: The Monster from Mars (2005) | เนกาดอน อสูรกายดาวอังคาร
Director: Jun Awazu
Genres: Animation / Short / Sci-Fi
Grade: B+
ว่าด้วยอีก 100 ปีโชวะ มีประชากรเกิน 100 ล้านคนและมีปัญหาทางทรัพยากรที่ใกล้หมดโลกจึงทำการหาแหล่งใหม่ในโครงการปฏิรูปธรณีดาวอังคาร แต่ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อยานขนส่งอิซานามิที่นำซากอารยธรรมบางอย่างจากดาวอังคารต้องเกิดตกลงมายังโลกเพราะการฟื้นคืนชีพของสัตว์ประหลาดนามว่าเนกาดอน กลายเป็นบ้านเมืองต้องถูกทำลายและยังไม่มีใครต่อกรกับเจ้าตัวนี่ได้ แต่ด้วยสภาพเหตุการณ์เลวร้ายทำให้เกิดมีชายชราบางคนเกิดยืนหยัดที่จะสู้แต่เขาจะทำได้ยังไงกับสัตว์ประหลาดร่างยักษ์ที่ถล่มเมืองได้สบายๆ
นี่เป็นหนังที่ระลึก 50 ปีกับหนังสัตว์ประหลาดโดยสิ่งที่พิเศษสำหรับเรื่องนี่คือการทำหนังเรื่องนี่ด้วยตัวคนเดียวและใช้เวลาในการสร้างให้เสร็จยาวนานถึง 2 ปี 4 เดือน ถือว่าความพยายามสูงมากทีเดียว ถึงแม้ตัวหนังจะไม่ได้ยาวแต่เป็นการเรียกความรู้สึกหนังชั้นดีระดับคลาสสิคอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เป็นหนังไซไฟที่ใช้ CG ได้อย่างเนียบเนียนและสุดยอดสำหรับหนึ่งคนที่ทำได้แบบนี่อย่างเหลือเชื่อ เป็นหนังสัตว์ประหลาดที่มีความยาว 25 นาทีแต่กลับทำออกมาได้อย่างน่าสนุก และแฝงความรู้สึกที่เหนือระดับของหนังสัตว์ประหลาดทั่วไปได้อย่างเพลิดเพลินและต่อเนื่อง เนื้อเรื่องถือว่าใช้ได้และการผูกเรื่องที่เชื่อมกันและการให้ตัวละครมีปมในใจจนต้องเอาชนะปมให้ได้ ด้านเอฟเฟ็คทั้งการต่อสู้หรือฉากต่างๆจัดว่าทำได้ยอดเยี่ยมและสมจริงสมจริง แต่ด้วยเพราะข้อด้อยเพียงแค่ 25 นาทีที่ดูสั้นสำหรับการดำเนินที่ดูยาวทำให้ฉากสู้กันระหว่างเนกาดอนกับหุ่นยนต์มิโรคุหมายเลข 2 ต้องดูสั้นลงไปและความรู้สึกทางด้านอื่นๆก็ดูเป็นบทสรุปที่ไม่ลึกซึ้งพอ ถึงแม้จะมีการสู้กันจะไม่ได้มันส์สะใจอะไรมากนักและการดำเนินที่อาจดูง่ายต่อความรู้สึกหลายๆด้านแต่ภายในเพียง 25 นาทีก็จัดได้ว่าสร้างความประทับใจและชวนตื่นตามได้อย่างดี เป็นที่น่าคิดอย่างหนึ่งของการสู้ที่ลงแรงเอาจิงเอาจังอย่างหนึ่งว่าไม่จำเป็นต้องสู้กันให้นานเพราะเวลาแบบนี่ต้องรีบให้จบโดยเร็วที่สุด การดำเนินช่วงแรกก็ไม่ได้ไปอย่างเชื่องช้าแต่เป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ช่วงนั้นๆเพื่อว่าเป็นเหตุผลที่เนกาดอนถึงบุกมายังโลก
เริ่มจากการสร้างปมปัญหาในใจกับดร.นาราซากิ ที่มีปัญหากับผลงานจนต้องสูญเสียลูกสาวที่รักไปทำให้เกิดการชิงชังในผลงานและล้มเลิก แต่เพราะการปรากฎตัวของเนกาดอนทำให้ไม่มีทางเลือกว่าจะใช้หุ่นยนต์ที่สร้างมาหรือปล่อยไปตามชะตาที่มนุษย์ได้ก่อขึ้นมา ที่เนกาดอนโผล่มาได้เพราะการที่ยานขนส่งอิซานามิได้นำซากหินประหลาดที่ค้นพบบนดาวอังคารกลับมายังโลกเพื่อทำการพิสูจน์แต่ยานขนส่งเกิดเหตุระเบิดซากหินประหลาดพุ่งลงสู่ใจกลางมหานครโตเกียวแล้วซากหินแตกระเบิดปรากฏร่างเนกาดอนฟื้นคืนชีพออกมา และที่น่าคิดอย่างหนึ่งคือการดำรงอยู่ของอนาคตเนื่องจากทรัพยากรโลกต้องใกล้หมดทำให้ต้องหาสิ่งใหม่มาแทนและเข้าใจทันทีว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่ใช้ทรัพยากรโลกได้อย่างสิ้นเปลือง เรื่องนี่ก็มีสาระอีกอย่างที่แอบๆอยู่ อย่างเช่น ปีโชวะที่ 100 ถ้าแยกคำว่าปีโชวะกับ 100 ออกจากกัน ชื่อปีโชวะทำให้เราเข้าใจถึงช่วงเวลาในเรื่องได้ง่ายๆ ขณะที่ปี 100 คือช่วงเวลาในศตวรรษที่ 21 ของเรานี่เอง หัวข้อบทความที่ว่า Yesterdays Future หมายถึงอนาคตของอดีตที่ผ่าน ถ้าให้แยกหนังเรื่องนี่ออกจากหนัง SF ทั่วไปเรียกง่ายๆว่า YESF คือถ้าเป็นปีเฮย์เซ สำหรับผู้กำกับแล้วมันคงเป็นจินตนาการธรรมดา แต่ถ้าเป็นปีโชวะ เป็นภาพบรรยากาศที่หลายๆคนคุ้นเคยและมีฝนกำลังตกอยู่ คนก็เข้าใจว่าอนาคตของอดีตที่เราเห็นกันมีฝนตกอยู่ ซึ่งฝนก็เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่ผู้กำกับนำเสนอ แต่ก็ต้องภูมิกับเรื่องนี่ด้วยเช่นกันที่สร้างออกได้มาดีถึงแม้จะดูง่ายและสั้นไปบ้าง
ที่ผมต้องภูมิใจคือการได้กระดาษแผ่นใหญ่ๆจากการซื้อเรื่องนี่มา มีลักษณะเหมือนหนังสือที่ตีหัวข้อเกี่ยวกับเนกาดอนในหนังและข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเนกาดอนและหุ่นยนต์มิโรคุหมายเลข 2 เป็นอะไรที่เนื้อหาละดูเอียดดีทั้งที่เป็นหนังสั้นแต่กลับแผงข้อมูลได้มากมาย