The Goonies (1985) กูนี่ส์ ขุมทรัพย์ดำดิน

The Goonies (1985) | กูนี่ส์ ขุมทรัพย์ดำดิน
Director: Richard Donner
Genres: Adventure | Comedy | Family
Grade: A-

นี่คือหนังผจญภัยที่ครบเครื่อง แม้หน้าตาจะดูเป็นหนังเด็กไม่เหมาะกับผู้ใหญ่ แต่ถ้าปล่อยว่างสักนิดจะพบว่าไม่ได้ดูเด็กน้อยจนเกินไป หลายอย่างแสดงถึงช่วงเปลี่ยนแปลงของวัยได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอีกเรื่องที่แสดงถึงความเป็น Coming of Age ซึ่งเป็นไปได้ไม่อยากให้พลาดรับชมเลยด้วยซ้ำ


แค่เปิดตัวแก๊งค์กูนี่ส์ก็รู้สึกสนุกไปกับทุกตัวละคร แต่ละคนมากันคนละแบบคนละสไตล์ จึงเป็นที่น่าจดจำโดยไม่ต้องกลัวเรื่องจำนวนตัวละครที่มากหน้าหลายตา การแบ่งบทบาทก็เช่นกัน ไม่รู้สึกล้นทั้งที่ควรดูวุ่นวายและน่าปวดหัว ทั้งหมดล้วนพอดีคำและพอเหมาะ ขนาดตัวร้ายที่ปรากฏในหนังยังน่าติดตามไปกับเขาด้วย เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดูยังไงไม่รู้สึกเบื่อคือเอกลักษณ์ของตัวละคร ในที่นี่ขอพูดถึง ไมกี้ วอล์ซ (Sean Astin) หนึ่งในสมาชิกกูนี่ส์กับความพยายามตามหาสมบัติจากแผนที่ปริศนาที่พบโดยบังเอิญ แน่นอนว่ามุมมองของเด็กเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เสมือนมีแรงจูงใจให้ตัวเองได้ทำบางสิ่ง แม้ใครหลายคนมองเป็นเรื่องไร้สาระ ทว่าจุดมุ่งหมายไม่ได้อยู่ที่สมบัติมีอยู่จริงหรือไม่ ขอให้ไปถึงที่หมายก็เพียงพอแล้ว ฉะนั้นสมบัติหรือของมีค่าคือเรื่องรองและไม่สำคัญเท่าความสำเร็จ


สำหรับการผจญภัยจะมีช่วงให้พักคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำว่าทำถูกต้องหรือไม่ การไปตามแผนที่ที่ไม่รู้หนทางข้างหน้าอันตรายแค่ไหน หรือจะย้อนกลับได้หรือเปล่า สมควรหยุดตอนที่ยังมีโอกาสดีหรือไม่ คำถามนี้อาจให้แง่คิดทั้งความเป็นจริงของผู้ใหญ่กับความคิดของเด็ก ถ้ามองกันเพียงผิวเผินคงตอบว่าเลิกดีกว่า แต่มุมมองของเด็กคือต้องไปต่อตอนที่ยังมีโอกาส เพราะสิ่งที่ผจญภัยมาตลอดนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต สิ่งที่ทำในวัยเด็กคือสิ่งที่ทำตอนเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ แล้วหากโตขึ้นนึกย้อนทำในวัยเด็กไม่ได้เช่นกัน เพราะทุกคนเกิดมาต้องโตเป็นผู้ใหญ่และเปลี่ยนแปลงตามวัย การรู้ตัวจึงเป็น Coming of Age กอบโกยกำไรชีวิตในขณะที่ตัวเองยังอยู่ในวัยนั้นให้มากที่สุด เพื่อที่สุดท้ายจะไม่นึกเสียใจในภายหลังเพราะได้ลุยกับชีวิตวัยนั้นอย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลตอนโตกับชีวิตอีกแบบหนึ่งอย่างไร้ข้อกังขา


นอกจากนี้ยังมีอีกตัวละครหนึ่งที่น่าจดจำไม่แพ้กันคือ ชังค์ (Jeff Cohen) เด็กอ้วนที่ให้ความสำคัญกับของกิน จากมุมมองแรกเป็นตัวเจ้าปัญหาและขี้ขลาด ทำให้ร่วมผจญภัยน้อยที่สุด ทว่าส่งผลได้มากที่สุดเช่นกัน จากเรื่องเป็นเพียงตัวละครเดียวที่แปลกแยกจากกลุ่มเพราะความกลัว ทำให้บางครั้งเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี กระนั้นภายใต้ความกลัวทำให้อ่อนแอกว่าคนอื่นๆ ด้วยความกลัวที่มากกว่าทุกคนจึงแบ่งบทให้แปลกแยกไปอีกทาง ซึ่งเลือกให้เจอแต่เรื่องไม่คาดฝันตลอดเวลา นับเป็นสิ่งที่แปลกมากทั้งที่ไม่ได้ร่วมผจญภัย แต่สร้างความลุ้นความตื่นเต้นไม่แพ้ไปกว่ากัน และที่น่าสนใจคือตัวละครนี้จะชนะความกลัวได้อย่างไร กลายเป็นอีกมุมหนึ่งของ Coming of Age ถ้าไม่ชนะความกลัวก็ไม่อาจมีความกล้าหาญ การได้เห็นตัวละครนี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ


และอีกคนที่แตกต่างกว่าทุกคนตั้งแต่เชื้อชาติหน้าตาคือ ดาต้า (Jonathan Ke Quan) เด็กเชื้อสายเอเชียกับความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนคือเป็นนักประดิษฐ์ อุปกรณ์แต่ละอย่างแม้จะดูธรรมดา แต่ทุกอย่างล้วนดูสร้างสรรค์และพลิกสถานการณ์ได้บ่อยครั้ง ทำให้เป็นตัวละครสำคัญอย่างมาก แล้วด้วยความใจสู้ไม่ถอยจึงเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของความกล้าหาญและรักพวกพ้อง ฉะนั้นจะมีสายเลือดหรือชาติใดไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะทุกคนคือเพื่อนที่ต้องช่วยเหลือและปกป้อง และยังมีตัวละครอีกมากมายที่ล้วนน่าจดจำ ซึ่งเป็นไปได้และให้เป็นคือไปหาดูเลยดีกว่า แล้วจะรู้สึกสนุกกับการผจญภัยหาขุมทรัพย์ แม้บางส่วนจะดูเด็กจ๋าอยู่บ้างก็อยากให้พิจารณาไปเรื่อยๆจนหนังจบ หลังจากนั้นจะรู้ว่ามุมมองของเด็กไม่ใช่เรื่องเด็กหรือเล็กเสมอไป บางครั้งคือเรื่องใหญ่ที่ถูกมองข้าม ความคิดระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ไม่ได้แตกต่างกันทุกครั้ง แค่ถูกเล่าด้วยอายุที่ไม่เท่ากัน

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)