Child's Play (2019) คลั่งฝังหุ่น

Child's Play (2019) | คลั่งฝังหุ่น
Director: Lars Klevberg
Genres: Drama | Horror | Sci-Fi

เดิมทีเคยอยากให้ทำใหม่มาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นใน Seed of Chucky (2004) ได้สร้างความหลุดโลกจนกู่ไม่กลับ แต่ความพยายามเค้นภาคต่อยังมีอยู่และส่งตรงลงแผ่น ซึ่งปรากฏว่าแทนที่จะแย่กว่าเดิมกลับดีขึ้นผิดคาด มิหนำซ้ำยังตอกความต้องการของแฟนๆได้อย่างเข้มข้นใน Curse of Chucky (2013) กับเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังความเป็นมาของ"ชัคกี้"ในจุดที่ไม่เคยรู้มาก่อน


ด้วยกระแสตอบรับในเชิงบวกทำให้เกิดภาคต่อลำดับที่ 7 กับ Cult of Chucky (2017) ซึ่งภาคนี้ยังต่อเนื่องกับภาคที่แล้วพร้อมกับสร้างเซอร์ไพรส์นำนักแสดง Alex Vincent ที่เคยรับบท แอนดี้ เด็กน้อยที่พบชัคกี้เป็นคนแรกใน Child's Play (1988) และต้องหนีการไล่ล่าถึง 3 ภาค กลับมารับบทเดิมที่โตเป็นผู้ใหญ่และพร้อมจะต่อสู้กับชัคกี้ในฐานะศัตรูตัวฉกาจอีกครั้ง

ทว่าภาค 7 นั้นได้สร้างความสดใหม่หลายอย่างจนที่เป็นชื่นชอบและทำลายความดั้งเดิมไปพอสมควร จากหนังไล่ฆ่าแย่งชิงร่างได้เปลี่ยนเป็นหนังวางแผนฆ่าที่มีความสลับซับซ้อน การใส่เบื้องหลังและมิติตัวละครให้มีน้ำหนักทำให้ภาคก่อนหน้านี้บางภาคแทบไม่มีความหมาย กระนั้นยังคงมั่นใจในฝีมือ Don Mancini เจ้าของบทชัคกี้และลงมือกำกับเองในภาคหลังๆที่พัฒนาบทได้ค่อนข้างดี อีกทั้งยังเก็บช่องว่างหรือรอยต่อด้วย Cameo ให้เราเซอร์ไพรส์และทิ้ง Easter egg ให้ตกใจลุ้นในภาคถัดไป


สำหรับการรีเมคในครั้งนี้จะหยิบเฉพาะภาคแรกเท่านั้น ขณะที่ภาคอื่นๆยังคงไว้เช่นเดิมเพราะได้ลิทสิทธิ์ทำแค่นั้น ซึ่งเรื่องราวยังคงเช่นเดิมกับ แอนดี้ (Gabriel Bateman) ที่ได้รับตุ๊กตาที่แม่ (Aubrey Plaza) มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด ทว่าตุ๊กตาตัวนี้ไม่เหมือนตัวอื่นๆเพราะสามารถทำอะไรก็ได้ รวมไปฆ่าคนก็ทำได้เช่นกัน

เดิมทีเรียกตุ๊กตา"Good Guy" ซึ่งภาคนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น"Buddi"พร้อมกับแซวทำนองว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่อัพเกรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แน่นอนว่าเพื่อเข้ากับยุคสมัยที่เทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ลูกเล่นของตุ๊กตามีมากกว่าก่อนหลายอย่าง โดยเฉพาะการเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อเข้าถึงการใช้งานในโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังแย้งกับต้นฉบับด้วยการตัดเรื่องเวทมนต์วูดูออกไป ฉะนั้นเรื่องเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับวิญญาณเข้าสิงตุ๊กตาให้ลืมไปได้เลย


เพื่อเข้ากับยุคสมัยทำให้เรื่องเวทมนต์วูดูถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ทำให้ดูสมเหตุสมผลและฟังเข้าท่ากว่ามีวิญญาณเข้าสิงตุ๊กตาฆ่าคน ซึ่งสาเหตุมาจากการทำงานของคนงานที่โกรธเคืองเจ้านาย จึงแอบแก้ระบบให้ตุ๊กตาตัดสินใจทำเองคิดเองทั้งหมด จะไม่มีข้อห้ามหรือบังคับ เช่น ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามทำร้ายสิ่งมีชีวิต เมื่อให้ตัดสินใจด้วยตัวเองจึงเสมือนเด็กที่ทำตามใจหรือตัวอย่างที่เห็น(จากหนังที่ดู) จุดนี้เป็นประเด็นสังคมที่นำมาขยี้ผ่านตุ๊กตาชัคกี้

ความสมเหตุสมผลที่เข้าท่าคือการทำให้ชัคกี้คือเด็ก ซึ่งต้องได้รับการเรียนรู้และสั่งสอน สังคมดีคนย่อมดีตาม สังคมแย่คนย่อมเสียตามนั้น ชัคกี้ก็เช่นกันที่ได้รับการเอ็นดูจากแอนดี้จนเป็นเพื่อนสนิทต่อกัน กระนั้นแอนดี้ไม่ใช่เด็กตัวเล็กวัย 6 ขวบตามต้นฉบับ หากแต่อายุ 13 ปี ที่เริ่มมีวุฒิภาวะและการตัดสินใจที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้โลกที่ชัคกี้เห็นผ่านแอนดี้จึงไม่ได้มีแค่ด้านเดียว กระนั้นสิ่งที่แอนดี้และชัคกี้ไม่เหมือนกันคือความเป็นจริงและการสมมติ


Child's Play นำประเด็นสังคมมาเสียดสีผ่านตุ๊กตาชัคกี้ได้อย่างซื่อตรง ซึ่งประเด็นแต่ละอย่างล้วนเป็นต้นตอทำให้ชัคกี้เปลี่ยนความน่ารักเป็นปีศาจ คำถามคือใครคนที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ย้อนไปที่คนงานแก้ระบบใช่หรือไม่ แน่นอนว่าถูกไม่ซะทั้งหมด การแก้ระบบคือการปลดล็อคข้อบังคับให้เป็นอิสระ เพียงชัคกี้ไม่ได้มีจิตใจหรือความซับซ้อนเท่าคนอย่างเราๆที่มีวิจารณญาณหรือความตระหนักนึกคิด ฉะนั้นสิ่งที่ชัคกี้ทำล้วนสะท้อนมาจากสังคมที่เป็นอยู่แบบตรงไปตรงมา

การแก้พล็อตเรื่องชวนให้น่าคิดมากกว่าของเดิม เสียดายที่พอรู้ที่มาที่ไปไม่รู้สึกน่ากลัวอย่างที่คิด เป็นเครื่องจักรฆ่าคนเท่านั้น ไม่ใช่วิญญาณคนร้ายสิงในตุ๊กตาที่เจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหด(แต่ยอมในความสยองที่โหดพอสมควร) การเป็นเครื่องจักรทำให้เพิ่มลูกเล่นในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้หลายอย่าง ฉะนั้นจะว่าสดใหม่ต่างจากของเดิมก็ว่าได้ อีกจุดที่เสียดายอย่างมากคือบทสรุปที่ส่งอารมณ์ชวนลุ้นระทึกได้ไม่มากพอ เหมือนจะมีอีกแต่ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ซะงั้น 


ปล.หน้าตาตุ๊กตาชัคกี้ไม่ได้น่ารักเอาซะเลย เทียบกับของเก่าเหมือนหน้าเด็กกับผู้ใหญ่ แต่ยอมรับตอนแสดงสีหน้าทำได้น่ากลัวพร้อมจะเฉือนคอหอยได้ตลอดเวลา แล้วอีกอย่างตอนเห็นแวบแรกคือเหมือนนักแสดง Willem Dafoe ยิ่งตอนที่เล่นบท กรีน ก็อบลิน ใน Spider-Man (2002) ยิ่งเหมือนจนน่าร้ายกาจ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)