The Andromeda Strain (1971) แอนโดรเมด้า สงครามสยบไวรัสล้างโลก

The Andromeda Strain (1971) | แอนโดรเมด้า สงครามสยบไวรัสล้างโลก
Director: Robert Wise
Genres: Mystery | Sci-Fi Thriller
Grade: B+

เรื่องเกิดจากดาวเทียมตกแล้วชาวบ้านเอากลับไปที่หมู่บ้านของตน ด้วยความไม่รู้จึงเปิดแล้วทำให้ทุกคนจบชีวิตลงอย่างปริศนาทันที มีผู้เหลือรอดเพียง 2 รายเท่านั้น โดยทั้งสองมีความแตกต่างด้านอายุและร่างกาย คือคนแก่และเด็กทารก ทว่าสิ่งที่ฆ่าคนทั้งหมู่บ้านกำลังระบาดสู่วงกว้าง ทำให้ต้องรีบหาสาเหตุและยับยั้งการแพร่กระจายก่อนที่จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว


ตอนที่เห็นชาวบ้านนอนล้มตายยังไม่เหนื่อยใจเท่าการทำงานแบบเร่งด่วนของนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งกว่าจะได้ลงมือกันแบบเป็นจริงเป็นจังต้องผ่านกระบวนการกรองครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปลอดเชื้อมากที่สุด เนื่องจากไม่รู้สิ่งที่เผชิญคืออะไร รูปแบบไหน แพร่เชื้อยังไง ไม่สามารถบอกกระบวนการของสิ่งแปลกปลอมนั้นได้ แล้วเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดต้องอยู่ภายใต้ระเบียบที่เข้มงวด

สิ่งที่เห็นแน่ชัดคือรัฐบาลพยายามแก้สถานการณ์โดยไม่สนใจคนที่ถูกสั่งให้ทำ ต่อให้เป็นนักวิทยาศาสตร์มีความสำคัญแค่ไหน หากถูกใช้งานต้องทำตามคำสั่ง โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วนยิ่งต้องปฏิบัติเวลานั้นทันที ในฉากเรียกตัวนักวิทยาศาสตร์จะเห็นว่าแต่ละคนทำเรื่องส่วนตัวกันหมด ต่อให้ยุ่งแค่ไหนหรือมีงานต้องทำยังไง สุดท้ายต้องไปตามหมายเรียกอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ซึ่งเห็นได้อย่างหนึ่งคือคนที่มาตามตัวจะถูกสังเกตว่าพกปืน แม้จะบอกเป็นการป้องกันตัว ทว่าคนอื่นๆมองเป็นการบังคับทางอ้อมเสียมากกว่า


บางคนยอม บางคนฝืนใจ กระนั้นในความเป็นนักวิทยาศาสตร์ย่อมหนีไม่พ้นความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ทุกคนพร้อมใจเข้าร่วมทดลองช่วยกันหาคำตอบสาเหตุการตายปริศนา ทว่าความตื่นเต้นยิ่งน้อยลงจากความเข้มงวด เนื่องจากต้องทำให้ตัวเองปลอดเชื้อมากที่สุดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน จากฉากนี้แสดงถึงความเบื่อหน่ายที่มากวิธีและเสียดสีรัฐบาลที่นำเงินภาษีมาใช้ฟุ่มเฟือย เพราะสิ่งที่ทำอยู่นั้นมีประโยชน์และใช้ได้ผลจริงๆหรือ? คำถามนี้แม้แต่หมอที่เป็นหนึ่งในทีมยังสงสัย

ประเด็นแอบแฝงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่หนังไม่กล้าเล่าแบบเน้นๆไปทางใดทางหนึ่งที่แน่ชัด ทำให้ดูมีเรื่องราวค่อนข้างมาก แต่ไม่หนักแน่นสักเท่าไร แม้แต่การพูดถึงพลาสติกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งแปลกปลอมที่ติดมากับดาวเทียมยังไม่ลึกซึ้งนัก ทั้งนี้ในความล้ำสมัยถือว่ามาเร็วพอสมควร ไม่นึกว่าหนังยุค 70s จะมีพล็อตและเนื้อหาที่ทันสมัยและมองอนาคตได้ไกลขนาดนี้ อีกทั้งยังเสียดสีตลอดเวลาจนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่น่ากลัวคือมนุษย์หรือสิ่งที่ฆ่ามนุษย์กันแน่


ช่วงเวลาที่ชอบมากที่สุดคือการแยกย้ายไปทำหน้าที่ตามความถนัดของตัวเอง ซึ่งจะแบ่งว่าใครทำอะไรบ้าง มีหน้าที่หลักคือหาตัวการที่มาจากดาวเทียม วิธีการแพร่กระจาย และวิธีรักษา แน่นอนว่าการหาคำตอบเป็นเรื่องยาก ต้องคิดแล้วคิดอีกจนคอมพิวเตอร์ที่นำมาช่วยวิเคราะห์ยังให้คำตอบไม่ได้ สำหรับคอมเตอร์นั้นมีการพูดถึงในเชิงทำแทนมนุษย์ ขณะที่คนทำหน้าที่ป้อนคำสั่งและรอคำตอบเท่านั้น กระนั้นสิ่งที่คอมพิวเตอร์ยังขาดคือความรู้สึกชั่งใจ ถึงจะทำแทนได้ก็ไม่อาจเป็นได้ทุกอย่างเสมอไป

ระหว่างวิเคราะห์หาคำตอบมีความเครียดพอสมควร ในทางกลับกันอาจจะดูน่าเบื่อเพราะทั้งเรื่องคุยกันซะมาก การทดลองไม่ถึงกับแปลกจนน่าตื่นตา แต่ละอย่างอยู่บนพื้นฐานของความจริงเกือบหมด โดยเฉพาะการหาวิธีแพร่กระจาย ซึ่งมีการสันนิษฐานน่าจะแพร่ผ่านทางอากาศ โดยสัตว์ทดลองจะมีหนูกับลิง ในฉากนี้จะเห็นสัตว์ทดลองตายได้สมจริงมาก ส่วนเบื้องหลังความสมจริงนั้นก็เกือบทำให้ตายกันจริง เพราะวิธีคือการให้สัตว์อยู่กรงที่มีออกซิเจน (O2) จากนั้นไปเปิดในที่มีแต่คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ทำให้หมดสติกันอย่างรวดเร็วราวกับตาย จากนั้นค่อยช่วยด้วยเครื่องปั้มหายใจอีกที


The Andromeda Strain น่าเสียดายที่หยิบประเด็นมาให้ถกเถียงหลายข้อ แต่ไม่อาจสรุปไปทางใดทางหนึ่งที่ชัดเจนได้ ประหนึ่งเป็นเพียงการทดสอบสถานการณ์ที่เจอสิ่งแปลกปลอมนอกโลกแล้วทำอันตรายกับคนจะแก้วิกฤตินี้ยังไง ความเร่งด่วนและความจริงจังคือสิ่งที่สมจริงและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ขณะนั้น กระนั้นความด่วนทันทีทำให้ดูเป็นการเตรียมมาก่อนมากเกินไป ราวกับจัดสถานที่ไว้เพื่อรอเหตุการณ์เช่นนี้ ประเด็นจึงตกไปที่รัฐบาลแอบทำอะไรกับเงินภาษีประชาชน แม้แต่นิวเคลียร์ที่อันตรายอย่างมากยังเตรียมเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน สิ่งใดเหล่าจะน่ากลัวเท่ามนุษย์สร้างขึ้น

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)