The Old Guard (2020) | ดิ โอลด์ การ์ด | B
Director: Gina Prince-Bythewood
Genres: Action | Adventure | Fantasy | Thriller
ต้องขอบคุณมาดของ Charlize Theron ที่เข้ากับคาแรคเตอร์เสียจริง ความเป็นผู้นำ ความเป็นสาวแกร่ง ล้วนทำให้ตัวละครนี้หนักแน่นและดึงให้หนังเป็นเช่นนั้นตามไปด้วย แต่แล้วยังไงกับบางคนอาจมองเป็นหนังแอ็คชั่นที่พล็อตไม่ได้แปลกหรือหวือหวา แค่เผอิญฆ่าไม่ตายก็เท่านั้น
บางทีพล็อตคนฆ่าไม่ตายจับมือทำงานร่วมกันเป็นทีมมองได้ทั้งแง่ดีและแง่ร้าย ซึ่งเนื้อเรื่องกำหนดให้เป็นแง่ดีที่ทำงานด้วยความยุติธรรม แต่จะเป็นเช่นนั้นตลอดไปจริงหรือ? แน่นอนว่าสิ่งที่ตัวละครบางตัวได้พูดนั้นบอกในเชิงบางยุคบางสมัยเท่านั้น (ส่วนใหญ่ทำเพื่อความถูกต้อง) การมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีพันปีย่อมต้องผ่านประสบการณ์มาไม่รู้ตั้งเท่าไร นั้นจึงเป็นช่องว่างระบายความถ่องแท้ของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ความกลัว ความโลภ และอื่นๆ ที่ไม่ได้ดีไปซะทั้งหมด
หนังไม่เล่าหรืออธิบายถึงความเป็นอมตะ ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แถมฟื้นฟูบาดแผลได้อีกด้วย ซึ่งการไม่บอกไม่ใช่ว่ากั๊ก แต่เป็นอีกปมอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครรู้หรือให้นัยยะได้ว่าคืออะไร สิ่งที่ทำให้รวมทีมกันได้คือนิมิตรที่เชื่อมถึงกัน พอมีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นจะทำให้ทุกคนรับรู้และจะต้องไปรับเข้าทีมทันที จากประเด็นนี้สะท้อนถึงความแปลกประหลาด ตัวอย่างสมาชิกใหม่คือ ไนล์ (KiKi Layne) ทหารหญิงที่ควรเสียชีวิต แต่กลับรอดตายได้ทั้งที่ไม่ควรเป็น ทำให้คนรอบข้างมองด้วยความแปลกและความกลัว สิ่งนี้จะทำให้กลายเป็นคนโดดเดี่ยว การรับเข้าทีมเพื่อเกาะกลุ่มกันไว้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ประเด็นความเป็นอมตะไม่แก่ไม่ตายก็ใช่จะเป็นเช่นนั้นเสมอ เมื่ออันที่จริงมีโอกาสตายได้ตลอดเวลา แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไร ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องตายจะสร้างความกังวลใจแก่คนอื่น ถ้าเป็นคนปกติคือตายเป็นตาย แต่กับคนกลุ่มนี้ไม่สามารถกำหนดความตายของตัวเอง นอกจากปล่อยให้เป็นเรื่องของชะตากรรม ทั้งนี้ทั้งนั้นความเป็นมนุษย์ย่อมรู้อยู่แก่ใจ ไม่มีใครอยากให้คนรักที่อยู่กินอาศัยมาเนิ่นนานดังครอบครัวต้องจากไป
สิ่งที่ตรงข้ามความเป็นอมตะคือความไม่เป็นอมตะ บางคนไม่อยากตาย บางคนอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ นั้นทำให้กลุ่มคนที่มีความสามารถในการคงอยู่ไม่แก่ไม่ตายเป็นที่ต้องการในทางวิทยาศาสตร์ จะทำยังไงให้อายุยืนขึ้นและคงอยู่ตลอดไปคือความปรารถนาของคนที่กลัวความตาย กระนั้นภายใต้ความเป็นอมตะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากการผ่านช่วงเวลาทีต้องสูญเสียคนรักและอื่นๆที่สั่งสมนานหลายร้อยปีพันปี
The Old Guard (2020) เป็นหนังที่อยู่เกณฑ์กลางๆ ไม่ได้รู้สึกพล็อตความเป็นอมตะจะโดดเด่นเท่าไรนัก เช่นเดียวกับฉากแอ็คชั่นที่ยังกลางๆ ไม่เข้มข้นหรือสร้างความเป็นตัวของตัวเองจากสิ่งที่ตัวเองมี แต่อย่างหนึ่งที่หนังทำให้ซื่อตรงที่สุดคือความเก่งที่ไม่ได้เว่อร์ขนาดตัวเองไม่เป็นอะไรเลย นั้นทำให้ตัวร้ายสามารถเทียบเคียงความเก่งได้อย่างสูสี (แม้จะถูกโกงด้วยการฟื้นฟูบาดแผล)
แม้จะเสียดายที่โดยรวมไม่มีจุดไหนเด่นหรือสร้างความประทับใจจนน่าจดจำ แต่อย่างน้อยความสนุกมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งยังมีความอบอุ่นจากความเป็นครอบครัวที่เชื่อใจและเปิดอกพูดกันอย่างเต็มที่ แล้วที่แน่นอนคือพร้อมจะไปต่อในภาคถัดไปได้เสมอจากปมที่ทิ้งไว้ตอนจบ (ซึ่งเชื่อว่าบางคนเดาถูกก่อนอยู่แล้วว่าจะเอาตรงไหนมาสานต่อ เพราะมีอยู่ปมหนึ่งที่หยิบมาใช้ได้ตลอดเวลา)