Blood Red Sky (2021) ฟ้าสีเลือด

Blood Red Sky (2021) | ฟ้าสีเลือด | B
Director: Peter Thorwarth
Genres: Action | Horror | Thriller

เหมาะอย่างมากกับการชวนใครดูด้วย โดยเฉพาะการไม่บอกอะไรเลยให้ฟังว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไรและยังไง เพราะจุดพลิกของหนังทำให้เหวอได้พอสมควรที่จะเปลี่ยนสถานะหนังทริลเลอร์เป็นสยองขวัญ ก่อนจะเป็นลูกผสมที่เหมือนขัดใจแต่ไปด้วยกันได้เฉย

ก่อนที่ความสยองขวัญจะเกิดขึ้นก็เริ่มจากการเล่าถึงสองแม่ลูกระหว่าง นัดย่า (Peri Baumeister) และ อีเลียส (Carl Anton Koch) ที่กำลังเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ซึ่งการเดินทางกำลังไปด้วยดีพร้อมความหวังที่จะรักษาโรคที่รุ่มเร้าจนป่วยหนัก ทว่าเที่ยวบินที่ไปนั้นต้องประสบเหตุไม่คาดฝันจากกลุ่มก่อการร้ายที่จี้เครื่องบิน ซึ่งทำให้การเดินทางไปรักษาตัวจากอาการป่วยที่เพิ่มขึ้นต้องช้ากว่าเดิม


"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

หนังไม่เกริ่นอะไรก่อนเลย รู้เพียงแค่เป็นการเดินทางของสองแม่ลูกที่จะไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ แต่เกิดการจี้เครื่องบินเสียก่อน ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณ์ถัดไปก็พบว่าต้นเรื่องที่หนังเปิดมาคือเครื่องบินกลับลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย ทว่ามีเพียงเด็กชายคนเดียวเท่านั้นที่ออกมาได้ จังหวะอารมณ์ตอนนั้นเหมือนหนังทริลเลอร์หนักๆที่น่าจะจบไม่สวยแน่ๆ 

หลังจากเกิดการจี้เครื่องบินก็เป็นช่วงเวลาชุลมุนจนตัวละครต่างพากันตกใจกลัวและเอาตัวรอด จากนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำเอาตั้งตัวไม่ทัน เมื่อตัวละครที่เล่าเป็นตัวหลักได้ตายอย่างง่ายดายตั้งแต่ต้นๆเรื่อง ทว่าความตายนี้เองช่วยเล่าเรื่องเพิ่มเติมอีกมุมหนึ่งที่ไม่ธรรมดา เมื่อความตายไม่อาจพรากชีวิตไปได้และกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในฐานะแวมไพร์กระหายเลือด


ตอนที่รอดว่าเซอร์ไพรส์และงงแล้ว พอย้อนอดีตถึงต้นเหตุโรคที่ป่วยอยู่ยิ่งเหวอเข้าไปกันใหญ่ จากจุดนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็นหนังสยองขวัญที่มีการฆ่าและนองเลือดแบบโหดๆ แต่ภายใต้ความสยองขวัญยังมีการคิดคำนึงถึงสถานการณ์ในอนาคต เนื่องจากคนที่ถูกกัดจะกลายเป็นแวมไพร์ ดังนั้นเพื่อไม่ได้เกิดการแพร่กระจายต้องกำจัดทันทีทันใดให้สิ้นซาก อย่างกับแอนตี้ฮีโร่ที่หลงเข้ามาจนเป็นพล็อตแปลกๆ

ทว่าการเป็นแวมไพร์เพื่อสู้กับผู้ก่อร้ายก็ใช่จะง่ายซะทีเดียว เพราะต้องคอยสู้กับตัวเองที่คุมดีคุมร้ายฝืนตัวเองตลอดเวลา แต่สิ่งที่หนังทำให้เห็นคือความสัมพันธ์แม่ลูกที่แน่นแฟ้นขนาดที่ลูกเองก็รู้ว่าแม่ป่วยเป็นอะไรและต้องทำยังไง (ถ้าตามปกติพล็อตส่วนใหญ่จะปกปิดความจริงเอาไว้ พอรู้ว่าเป็นอะไรจะเป็นการสร้างความสะเทือนใจก่อนจะปรับตัวเข้าหากันได้) ดังนั้นตัวละครประเภท"ลูก"หรือ"เด็ก"ในหนังเรื่องนี้ไม่ทำให้หงุดหงิดเพราะความฉลาดและไหวพริบ


Blood Red Sky (2021) จากชื่ออาจรู้สึกทะแม่งๆ แต่มองเป็นทริลเลอร์หนักๆที่อาจกระทบกระเทือนจิตใจพอสมควร แต่พอรู้ว่ามีแวมไพร์เข้ามาเกี่ยวข้องถึงกับเซอร์ไพรส์ไม่น้อยและการเล่าเรื่องไม่ให้ล้นเกินไปทำให้ทุกอย่างดูสมจริงและมีสถานการณ์ที่ตึงเครียด น่าเสียดายที่ผ่านการดำเนินเรื่องไปสักระยะจะเริ่มกร่อยจนดูจืด แต่สุดท้ายฟื้นกลับมาสนุกในช่วงสุดท้ายที่ให้อารมณ์มันส์ นองเลือด และเสียใจ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)