The Guilty (2021)

The Guilty (2021) | B
Director: Antoine Fuqua
Genres: Crime | Drama | Thriller

ฟอร์มหนังมาดีมาก แต่จะดีกว่าถ้าไปดู The Guilty (2018) หรือต้นฉบับ เพราะที่เห็นเป็นการรีเมคจนเสียแก่นความดั้งเดิม โดยเฉพาะความเงียบที่ไม่ควรมีเสียงดนตรีประกอบเข้าแทรก ยิ่งเงียบยิ่งเดาใจยากและยิ่งกดดัน ทว่าที่ฟังมีดนตรีคลุกเคล้าเกือบตลอดจนเป็นการปรุงแต่งให้คล้อยตามมากกว่าสถานการณ์พาไป


สิ่งที่ต้นฉบับทำได้ดีคือการทำให้เห็นความโดดเดี่ยวและความกดดัน การนั่งรับสายจากคนที่แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายในห้องทำงานยิ่งนานยิ่งน่าเบื่อ มองไปทางไหนก็มีแต่ซ้ำซากจำเจ ไม่มีสิ่งไหนชวนให้ปลอดโปร่งจากภาวะกดดันจากงาน ส่วนการรีเมคไม่ได้ต่างกันมากเรื่องบรรยากาศ แต่ความอึดอัดแสดงออกมาชัดเจนเกินไป กลายเป็นหนังที่แทบจะระเบิดอารมณ์ตลอดเวลา

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับต้นฉบับจะเห็นว่าเน้นการแสดงกันแบบสุดๆ ซึ่งฝีมือการแสดง Jake Gyllenhaal ไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้รู้ว่าการนั่งรับสายรับเหตุทุกข์ร้อนของประชาชนมีความอึดอัดแค่ไหน ทำให้ Emergency Call คืออาชีพใช้ความอดทนและไหวพริบพอสมควร ตรงกันข้ามฝีมือการแสดงไปไม่ถึงจะทำให้หนังลดความลุ้นระทึกไปพอสมควร เนื่องจากการเล่าเรื่องไม่ค่อยไหลลื่นสักเท่าไร


สิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือลดความอึดอัดที่จมอยู่กับห้อง ไม่มีโอกาสได้เห็นโลกภายนอก ทำได้เพียงรับฟังและวิเคราะห์ตามเท่านั้น เปลี่ยนเป็นเห็นสถานการณ์ข้างนอกบ้างเล็กน้อยเพื่อให้รู้ว่าข้างนอกก็เลวร้ายพอกัน นอกจากนี้คือมีดัดแปลงบทต้นฉบับบางส่วนให้บางประเด็นมีความเครียดเพิ่มขึ้น เพื่อสมกับชื่อหนัง Guilty = รู้สึกผิด, มีความผิด (แม้จะเชื่อมโยงด้วยความรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง)

ส่วนใครไม่เคยดูต้นฉบับอาจเห็นว่าฉบับรีเมคทำได้ถึงอารมณ์ความเครียด ใช้สถานที่และการทำงานชวนน่าอึดอัด (เชื่อว่าต้องเป็นเพราะนักแสดง Jake Gyllenhaal โชว์เอาไว้เยอะและแบกหนังทั้งเรื่องได้อยู่หมัด) อาจยกให้เป็นหนังที่ดีหรือน่าจดจำไปเลยก็ได้ แต่หากได้สัมผัสต้นฉบับจะพบความแตกต่าง ระหว่างทุนต่ำสมจริงกับทุนสูงปรุงแต่งเป็นอย่างไร ไม่แน่ว่าอาจชอบฉบับรีเมคมากกว่าต้นฉบับ สำหรับส่วนตัวนั้นยกให้ต้นฉบับดีกว่า

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)