Apt Pupil (1998) | พลิกหลักสูตรมรณะ | B-
Director: Bryan Singer
Genres: Crime | Drama | Thriller
เรื่องที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นทั้งประวัติศาสตร์ต้องเรียนรู้และต้องห้ามเรียนรู้ได้เช่นกัน เมื่อ ทอดด์ โบวเดน (Brad Renfro) บังเอิญไปพบกับ เคิร์ต ดุสเซนเดอร์ (Ian McKellen) บุคคลน่าสงสัยที่น่าจะเป็นอาชญากรนาซีที่หลบหนีมาใช้ชีวิตปกติเหมือนลุงวัยเกษียณข้างบ้านที่ไม่มีพิษมีภัย ซึ่งความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าในตำราจึงบังคับให้เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างละเอียด หากไม่ทำตามจะแจ้งตำรวจมาจับ ทว่าการรื้อฟื้นอดีตที่ผ่านไปนานจะทำให้ด้านที่เลวร้ายและโหดเหี้ยมถูกปลุกด้วยเช่นกัน
ดัดแปลงจากนิยายของ Stephen King ที่ขับเน้นการเล่าเรื่องทางจิตวิทยา ซึ่งพล็อตดูน่าสนใจเพราะเป็นการเปรียบเทียบระหว่างคนจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กับยุคปัจจุบันที่ผ่านสงครามโลก ความแตกต่างนี่เองทำให้เกิดความสงสัยสำหรับคนที่ไม่เคยผ่านหรือเห็นประสบการณ์นั้นมาก่อนว่าคืออะไร อีกทั้งสะท้อนความความรู้สึกต่อสงครามโลกที่รู้จากคนที่เคยเป็นนาซีที่ทั้งอึดอัดและน่าค้นหา
บรรยากาศของหนังทำได้น่าพอใจเพราะมีความกดดันตลอดเวลา ซึ่งความกดดันที่เห็นคือความอิสระจอมปลอมระหว่างสองตัวละครที่ต่างกดดันกันเอง อย่างเช่น ทอดด์ โบวเดน รู้ว่าเคยเป็นนาซีมาก่อนและจะแจ้งตำรวจหากไม่ได้ดั่งใจ ส่วน เคิร์ต ดุสเซนเดอร์ มีเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เล่าไม่หมดและการรู้จักอดีตนาซีย่อมส่งผลต่อชีวิตประจำวันและประวัติในทางเสื่อมเสีย
ข้อเสียที่น่าเสียดายคือหนังเล่าช้าและเรื่อยๆมากไปหน่อย ทำให้ทั้งเรื่องแทบไม่มีความน่าตื่นเต้นอะไรเลย แต่ข้อดีคือพอถึงจังหวะตื่นเต้นจะมีความลุ้นพอสมควร เช่น ฉาก ทอดด์ โบวเดน หาชุดนาซีมาให้ เคิร์ต ดุสเซนเดอร์ ใส่เพราะอยากเห็นของจริงต่อหน้า ซึ่งช่วงเวลานั้นเองจะเริ่มไต่ระดับความน่ากลัวเพิ่มขึ้นราวกับค่อยๆหลุดสติกลับไปเป็นนาซีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้ง
หนังเน้นเรื่องจิตวิทยาทางสังคมที่กำลังสงสัยว่าสิ่งที่นาซีทำในสงครามโลกครั้งที่ 2 คือการทำเพราะเป็นคำสั่งหรือเกิดจากนิสัยสันดานกันแน่ ความอยากรู้อยากเห็นจนนำไปสู่การทดลองที่ผิดศีลธรรมที่คร่าชีวิตนับไปถ้วนเริ่มต้นจากอะไร หลายประเด็นที่หนังสอดแทรกทำให้เกิดคำถามมากมาย ทว่าหนังไม่ได้บอกสรุปที่แน่ชัดคล้ายเป็นเรื่องต้องห้ามที่ไม่อยากให้กล่าวถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในอดีต
Apt Pupil (1998) จะเป็นหนังที่สนุกมากกับการกระชับให้สั้นกว่านี้ เพราะทั้งเรื่องก็แทบจะเชือดเฉือนกันตลอดเวลา ใครเหนือกว่าใครอาจจะเห็นได้ชัดจากภายนอก แต่ภายในต่างคนต่างเสมอกัน อีกความน่าสนใจคือหนังจะจบแบบไหนกันแน่ สังคมจะมองแบบไหนเมื่อรู้ความจริง ประเด็นที่หนังเล่าถึงน่ากลัวยิ่งกว่าหนังสยองขวัญเสียอีก
