The Beastmaster (1982) | ดาร์ เจ้าชีวิตแดนเถื่อน | C+
Director: Don Coscarelli
Genres: Action | Adventure | Fantasy
แม็กซ์ (Rip Torn) ตัวร้ายให้แม่มดทำนายชีวิตตัวเองในอนาคต พบว่าต้องตายด้วยฝีมือของคนที่ยังไม่เกิด ดังนั้นจึงกำจัดคนที่น่าจะฆ่าตัวเองตั้งแต่ในครรภ์ ทว่าโชคดีที่เด็กคนนั้นรอดจากฝีมือแม่มดและถูกชุบเลี้ยงจากคนที่พบเจอกลายเป็นนักรบนามว่า ดาร์ (Marc Singer) ซึ่งจะกลับมาตามคำทำนายให้เป็นจริง
พล็อตดูง่ายตามสไตล์หนังแฟนตาซี ตัวเอกถูกทำให้พลัดพรากจากคนที่น่าจะเป็นกษัตริย์จนกลายเป็นนักรบที่กล้าหาญ ซึ่งไม่รู้อดีตของตัวเองเป็นมายังไง พอหมู่บ้านที่ตัวเองอาศัยถูกทำลายจึงตามทวงแค้นก่อนจะรู้ความจริงภายหลัง
จุดเด่นคือการที่ตัวเอกมีความสามารถพิเศษในการสื่อสารและควบคุมสัตว์ได้ โดยในหนังจะเลือกสัตว์มา 3 ชนิด ได้แก่ พังพอน เสือดำ และนกอินทรี ซึ่งต่างมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกัน เช่น พังพอนใช้ขโมย เสือดำใช้กำลัง และนกอินทรีใช้ส่องทางไกล แม้มีพรรคพวกแค่นี้ก็เห็นชัดถึงความโกงของฝ่ายพระเอกที่ตัวร้ายเก่งยังไงก็พ่ายได้ตลอด
อันที่จริงการสื่อสารและควบคุมสัตว์เป็นความสงสัยอย่างหนึ่งที่ไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านั้นตั้งใจไปเองหรือถูกควบคุม เพราะเห็นถูกใช้งานอย่างเดียว แต่ก่อนจะมาเป็นพรรคพวกจะได้รับการช่วยเหลือจากพระเอกก่อน อย่างพังพอนเคยถูกโคลนดูดแล้วได้พระเอกช่วยดึงไว้ ทว่าก่อนหน้านั้นเป็นพระเอกเองที่(น่าจะ)ใช้จิตควบคุมเพื่อให้พังพอนช่วยตัวเองจากโคลนดูดอีกที ด้านเสือดำค่อนข้างชัดเจนที่มองเป็นเรื่องการตอบแทนเพราะถูกช่วยจากกรง ขณะที่นกอินทรีต่างออกไปตรงที่เข้าช่วยตั้งแต่แรก แม้จะไม่กล่าวตรงๆว่าทำไม แต่เป็นตัวละครเดียวที่ใช้บ่อยและมีประโยชน์คุ้มค่าที่สุด (บ่อยขนาดที่ว่าได้ยินเสียงนกอินทรีร้องจนไม่อยากได้ยินอีก)
หนังมีความยาวเกือบ 2 ชม. ที่แอบยืดเยื้อพอสมควร บางอย่างควรเล่าให้มีน้ำหนักมากกว่านี้เพราะทุกอย่างแทบโดนข้ามไปหมด (อันที่จริงถูกทำให้ง่ายมากกว่า) ส่วนที่ไม่น่าเล่าทำให้ยาวเพื่อความบันเทิง ไม่แปลกใจที่จะสนุกแบบง่ายๆ
สิ่งที่น่าเสียดายและดูตลกอย่างมากคือเหล่าแม่มดที่ตั้งใจให้มีหน้าตาน่ากลัว ทำให้เปลี่ยนโทนหลังเป็นสยองขวัญได้เลย แต่ไม่รู้เพราะน่ากลัวไปหรือเปล่าจึงทำให้มีฉากตลกจากท่าทางแม่มดที่ไม่รู้ทำไปทำไม อย่างฉากปัดดาบออกจากมือขึ้นกลางอากาศก่อนจะร่วงลงมา ซึ่งเจ้าของดาบคว้าไว้ได้แล้วแทงแม่มดทันที อารมณ์โยนดาบขึ้นแล้วรับดาบค่อยแทง แต่ช่างเถอะ หนังเน้นสนุกแบบเด็กพอดูได้ (ถ้าไม่นับฉากพระเอกหลอกจูบและกอดนางเอกอย่างหื่นกระหาย)
