The Platform (2019) เดอะ แพลตฟอร์ม

The Platform (2019) | เดอะ แพลตฟอร์ม | A-
Director: Galder Gaztelu-Urrutia
Genres: Horror | Sci-Fi | Thriller

เริ่มแรกยังพอดูได้อย่างสบายใจกับประเด็นที่ยกมา แต่พอผ่านไปสักระยะเริ่มอึดอัดใจจากการแบ่งชนชั้นที่เลวร้ายอย่างมาก เพราะโดยเนื้อหาหลักแล้วคือการทดสอบความโลภที่ยิ่งมากยิ่งทรมานและยิ่งทำให้คนอื่นเดือดร้อนจนประสาทแ_ก


โกเร็ง (Ivan Massagué) พบว่าตัวเองอยู่ในคุกที่ไม่เข้าใจรายละเอียดภายในอาศัยกันอย่างไร แต่มี ติมากาซี (Zorion Eguileor) เป็นเสมือนคู่หูประจำชั้นที่ตัวเองอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีกัน 2 คน ไม่มีกฎระเบียบบังคับเว้นเรื่องอาหารที่ห้ามเก็บตุนไว้ โดยอาหารจะส่งลงมาให้พักกินในแต่ละชั้นแล้วลงต่อไปเรื่อยๆ

จุดน่าสนใจคืออาหารที่ส่งลงมาจากชั้นบนแล้วส่งต่อลงไปชั้นล่าง ซึ่งชั้นแรกๆไม่ต่างกับสวรรค์ที่มีอาหารสดใหม่และเหลือเฟือ ขณะที่ชั้นล่างๆไม่ต่างกับนรกจากอาหารที่เริ่มน้อยลงจนถึงขั้นไม่เหลืออะไรเลย แต่ที่ลุ้นมากที่สุดคือตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ชั้นที่เท่าไร เนื่องจากมีการสุ่มสลับหมุนเวียนให้อยู่ชั้นใหม่ๆอยู่เสมอ ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นตัวละครตื่นมาเจอชั้นใหม่จะให้อารมณ์ที่หดหู่สิ้นหวังอย่างสุดเหวี่ยงหรือดีใจเคล้าน้ำตาที่อิ่มท้องไปได้อีกวัน


ประเด็นการแบ่งชนชั้นวัดกันที่อาหารจากคนที่อยู่สูงกว่า ซึ่งจะทำอะไรกับอาหารก็ได้ตามใจตัวเอง กินเท่าไรก็ได้ อยากจัดหรือเทหรือผสมทำได้หมด หรือเลวร้ายถึงขั้นทิ้งของเสียเพื่อนกลั่นแกล้งหรือประชดชีวิตให้คนอื่นสิ้นหวังไปด้วย กระนั้นการที่ชั้นบนหรือชั้นแรกๆทำอะไรก็ได้ไม่มีขีดจำกัดจึงเป็นปัญหาของคนที่อยู่ชั้นล่างที่ยิ่งลึกยิ่งมีโอกาสหรือไม่มีอาหารเหลือเลย เมื่อนานหลายครั้งความอยากอาหารจะยิ่งเพิ่มขึ้นจนอาจถึงขั้นกินเนื้อเพื่อนร่วมชั้นก็เป็นได้

อาหารคือสิ่งสำคัญและมีค่าให้ตัวเองอิ่มท้อง การเข้าคุกของแต่ละคนจะมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือสามารถเอาอะไรมาก็ได้หนึ่งอย่าง ซึ่งแต่ละคนมีความแตกต่างที่จะพกสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตตามที่ตัวเองอยากเอามา ทว่าสิ่งนั้นจะสำคัญหรือมีประโยชน์แค่ไหนต่อการดำรงชีวิตในคุก ประเด็นนี้สะท้อนถึงความจำเป็นสุดท้ายที่มีประโยชน์และไร้ค่า เช่น บางคนเลือกเงิน บางคนเลือกมีด บางคนเลือกเชือก บางคนเลือกหนังสือ แต่สิ่งใดที่พกมาก็ไม่มีค่าเท่าอาหารที่กินอิ่มท้องได้


นอกจากนี้ยังวางประเด็นเกี่ยวกับความจริงที่ไม่เคยรับรู้หรือไม่ใส่ใจ เนื่องจากมีตัวละครหนึ่งเคยเป็นพนักงานของคุกแห่งนี้ แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตามที่มาอยู่ที่นี่ทำให้เห็นสภาพที่ผิดจากที่ตัวเองคิด โดยเฉพาะอาหารที่แย่งกินอย่างไม่สนใจคนข้างล่าง ไม่มีใครคิดเผื่อเหลือเผื่อแผ่ทั้งที่อาจได้กินครบทุกคน คุกแห่งนี้ไม่ได้ขัดเกลาจิตใจให้เป็นคนใจกว้างขึ้น แต่แคบลงต่างหาก

การเล่าเรื่องเต็มไปด้วยความตึงเครียดและกระวนกระวายที่ไม่รู้จะได้ออกไปจากคุกนี้เมื่อไร รวมไปถึงเหตุผลการมาอยู่คุกที่กำกวมไม่มั่นใจการคัดเลือกบุคคล แต่เชื่อว่ามีเรื่องของบาปหรือการทำผิดบางอย่างมาเกี่ยวข้องและอีกหลายประเด็นที่สอดแทรกชวนน่าวิเคราะห์


แนะนำระหว่างดูงดของกินอาจจะดีที่สุด ไม่ใช่เพราะหนังโหด (แต่มีหลายฉากที่โหดรุนแรง) หรือสกปรกจนน่ารังเกียจ แต่เป็นการคิดถึงคนที่ไม่มีจะกิน ซึ่งอาจมองอาหารในมือไม่เหมือนเดิมเพราะไม่รู้จะเหลือหรือกินให้หมดดี

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)