Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด (2021) | C-
Director: จิตต์สินธ์ ผ่องอินทรกุล
Genres: Action | Thriller | Crime| Sci-Fi
เหตุการณ์เกิดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ทุกอย่างพังทลายและล่มสลายเกือบหมด ระเบียบหรือกฎหมายไม่อาจควบคุมได้อย่างยุติธรรม ทำให้ทุกคนใช้ชีวิตกันแบบตัวใครตัวมัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดคือเกมเอาตัวรอดที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน หากชนะมีสิทธิ์อยู่รอดต่อไปอย่างสุขสบาย ทว่าแพ้คือตายสถานเดียว
ความเป็นหนังไทยที่ต้องการพ้นขีดจำกัดเดิม แต่ดูเหมือนจะประคองไม่อยู่ในเส้นที่วาดไว้ทำให้ทุกอย่างออกมาผสมปนเป จากเดิมที่น่าสนใจกลายเป็นส่ายหน้าหนีเพราะไม่รู้หนังจะเอายังไงกันแน่ โดยเฉพาะตัวละครและปมที่วางไว้หลายทิศทางมาก ทุกอย่างดูล้นจากการนำสิ่งเหล่านี้มาขยายต่อไม่ได้
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับแรงจูงใจการเล่นเกมแทบไม่ปรากฏให้ทราบหรืออธิบายให้เข้าใจอย่างเป็นจริงเป็นจัง ทำให้ไม่อยากเอาใจช่วยตัวละครแต่อย่างใด บทจะให้ตายก็ตายได้อย่างไม่เศร้าเสียใจ แต่คงคาใจที่มาเล่นเกมนี้เพราะอะไร แม้เพื่อความอยู่รอดคือใจความหลักก็สงสัยในสิ่งที่ตัวละครทำเพราะย้อนแย้งไปมาอยู่ดี
เกมที่ใช้แต่ละด่านมีความเรียบง่าย หยิบยืมเกมเข้าใจง่ายๆ เช่น เก้าอี้ดนตรี มอญซ่อนผ้า มาดัดแปลงให้ดูจริงจังหรือยากขึ้นมาหน่อย แต่ถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ คำตอบคือไม่รู้สึกตื่นเต้นเพราะเหมือนผู้ใหญ่ที่มาเล่นสนุกแบบเด็กๆและล็อกตัวละครให้ใครรอดบ้าง
สิ่งที่น่าสนใจคือการใส่ประเด็นทางเพศ LQBTQ ที่อาจไม่เด่นชัดหรือกล่าวถึงเท่าที่ควร แต่การให้แต่งหน้าเสริมสวยย้อนแย้งกับน้ำเสียงและความห้าวหาญ ทำให้รู้ว่าคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายหรือผู้หญิงซะทีเดียว เช่นเดียวกับความต้องการทางเพศและร่วมเซ็กซ์ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เรียกว่าไบเซ็กชวล (Bisexual)
อันที่จริงหลายอย่างทำดูดีมีทุนระดับหนึ่ง โดยเฉพาะฉากที่ต้องการแสดงถึงความเสื่อมโทรมหลังสงคราม บรรยากาศที่อึมครึมน่าอึดอัด ชีวิตผู้คนที่แบ่งชนชั้น น่าเสียหายที่บทไม่ได้ดูดีตามไปด้วย ทำให้ดูมีของแต่ก็เท่านั้น
“เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ”
ตอนจบเหมือนจะสุดนะ แต่ให้อารมณ์ที่ค้างคาใจอย่างมากเพราะตั้งใจทำให้คัลท์ด้วยการฆ่าทุกคนอย่างสมเหตุสมผล แต่เนื้อแท้คือรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ราวกับคุยกับคนบ้าที่เหมือนมีเรื่องให้พูดคุยเยอะ แต่เชื่อมโยงได้หลุดโลกออกอวกาศ