The Discovery (2017) เดอะ ดิสคัฟเวอรี

The Discovery (2017) | เดอะ ดิสคัฟเวอรี | B+
Director: Charlie McDowell
Genres: Drama | Romance | Sci-Fi | Thriller

ไม่ใช่หนังที่ทุกคนอยากดูจนจบแน่นอนเพราะคุยกันทั้งเรื่อง โดยเรื่องที่คุยนั้นไม่ชวนดึงดูดสักเท่าไรด้วย แทบจะเป็นการคุยแบบปกติไม่พิเศษหรือหวืดหวาชวนประลองกำลังสมอง ทว่าสิ่งที่ถกเถียงกันนี่แหละที่ทำให้ไคล์แม็กซ์ออกมาพีคมาก


สำหรับเรื่องที่คุยอยู่นั้นจะเน้นไปที่ความตาย โดยความตายเป็นอย่างไรหลังจากที่เราไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แน่นอนว่ามีทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานบางอย่าง แต่สิ่งนั้นคืออะไรและส่งผลยังไงบ้าง การทดลองหาคำตอบชีวิตหลังความตายจึงเริ่มขึ้นพร้อมกับปัญหาฆ่าตัวตายที่พุ่งสูงทั่วโลกเพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่ศิวิไลซ์

หลังประกาศผลการทดลองเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายมีอยู่จริงทำให้การฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นมาก แม้การทดลองดังกล่าวยังบอกหรือมีหลักฐานที่ไม่แน่ชัด แต่การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเบื่อหน่ายของสังคมที่ไม่อยากมีชีวิตบนโลกความจริงอีกต่อไป น่าเสียดายที่ประเด็นฆ่าตัวตายที่เกิดทั้งโลกไม่มีบอกชัดเจนนัก ทำให้ความสมเหตุสมผลนี้เกินจริง แต่จากบรรยากาศที่ถ่ายทอดนั้นแสดงถึงความหดหู่ราวกับโลกทั้งใบปกคลุมด้วยซึมเศร้า


การเล่าเรื่องจะเรื่อยๆไม่รีบหรือเร่งให้ลุ้นตื่นเต้น มีเพียงไคล์แม็กซ์ที่ทำให้ช่วงเวลาสั้นๆเต็มไปด้วยความแปลกที่น่าตกใจ ประหนึ่งหนังไซไฟที่ใช้ปรัชญาเข้าแทรกมากกว่าใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ดังนั้นไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนกับบทสรุปของหนังที่คล้ายบอกความจริงของชีวิตหลังความตายไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่คือกับดักของความสำนึกผิดของตัวเองที่อยากแก้ไขความผิดพลาดที่ผ่านมา

อันที่จริงหนังมีวิธีสอดแทรกอารมณ์ด้วยดนตรีประกอบที่น่าขนลุก บางจังหวะคิดว่านี่คือหนังผีก็มิปาน แม้ไม่ใช่แต่ใกล้เคียงเพราะเล่าถึงประเด็นความตาย ชีวิตหลังจากนั้นจะน่ากลัวหรือไม่ หรือดีกว่าตอนที่มีลมหายใจที่ไม่ต้องผิดหวังอีกครั้ง


“เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ”

ชีวิตหลังความตายคืออะไรยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่สิ่งที่ค้นพบคือพลังงานที่คล้ายกับความทรงจำที่มีชีวิต เมื่อตายจะสร้างสถานการณ์ที่เราอยากไปแก้ไขอดีตที่ผ่านมา โดยพยายามแก้แล้วแก้อีกเพื่อให้ตัวเองสมหวัง

ในที่นี่คือ วิล (Jason Segel) ทำให้ตัวเองตายเพื่อเข้าไปหาทางแก้ไขเหตุการณ์ให้ อิสลา (Rooney Mara) มีชีวิตรอดพ้นจากการโดนยิง แม้ชีวิตจริงจะทำไม่ได้แล้ว ทว่าสำนึกของความเสียใจที่ต้องการซ่อมแซมแผลในใจนี้น่าจะทำได้สำเร็จ

แม้ไม่ได้ตายจากการถูกยิงก็ต้องตายเพราะอย่างอื่น ความพยายามช่วยชีวิตจึงเกิดเป็นลูปช่วยชีวิตซ้ำไปมาเรื่อยๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวหรือรู้แล้วแค่ไม่สนใจก็ตอนที่ อิสลาบอกว่าคุณช่วยชีวิตฉันได้สำเร็จและเคยปล่อยให้ฉันตาย การเคยปล่อยให้ฉันตายทำให้คุณเสียใจและอยากแก้ไขอีกครั้ง จังหวะนั้นเองที่หนังพีคอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อนเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นมโนของวิลทั้งนั้น ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครตั้งตัวกับการเฉลยนี้ต่อให้บอกว่านี่ไงคำใบ้ที่พูดออกมาหลายครั้งก็ตาม

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)